ตร.ปทุมวัน จ่ออายัดตัว 'รุ้ง' ต่อ หลังศาลอยุธยายกคำร้องฝากขัง

ตร.ปทุมวัน จ่ออายัดตัว 'รุ้ง' ต่อ หลังศาลอยุธยายกคำร้องฝากขัง

พนักงานสอบสวน สน.ปทุมวัน เตรียมอายัดตัว 'ปนัสยา' ที่โรงพยาบาลพระราม 9 ต่อ ในความผิดเกี่ยวกับ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ หลังศาลจังหวัดพระนครศรีอยุธยาได้มีคำสั่งยกคำร้องฝากขัง 3 แกนนำคณะราษฎร

เมื่อวันที่ 31 ต.ค. 2563 นายกฤษฎางค์ นุตจรัส ทนายความศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน ในฐานะทนายความแกนนำคณะราษฎร 2563 เปิดเผยว่า ในวันนี้ (31 ต.ค.) ศาลจังหวัดพระนครศรีอยุธยาได้มีคำสั่งยกคำร้องฝากขังนายพริษฐ์ หรือเพนกวิน ชิวารักษ์, นายภาณุพงศ์ หรือไมค์ จาดนอก และ น.ส.ปนัสยา หรือรุ้ง สิทธิจิรวัฒนกุล แกนนำคณะราษฎร 2563 ซึ่งขณะนี้พักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลพระราม 9

แต่ขณะนี้ตนได้รับรายงานว่า พนักงานสอบสวน สน.ปทุมวัน เตรียมที่จะขออายัดตัว น.ส.ปนัสยา ที่โรงพยาบาลพระราม 9 ต่อ ในความผิดเกี่ยวกับ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ตามที่ศาลแขวงปทุมวันเคยออกหมายจับ

ทั้งนี้ เมื่อศาลจังหวัดพระนครศรีอยุธยายกคำร้องฝากขังของผู้ต้องหาทั้งสาม เท่ากับหมายจับของ สภ.พระนครศรีอยุธยา สิ้นผลไป ในส่วนของนายพริษฐ์และนายภาณุพงศ์ไม่พบหมายจับ สน.ปทุมวัน กรณีนี้ แต่อาจจะมีหมายจับอื่น

สำหรับคำสั่งศาลจังหวัดพระนครศรีอยุธยาระบุว่า พิเคราะห์คำร้อง คำคัดค้าน และพยานหลักฐานชั้นไต่สวนแล้ว ข้อเท็จจริงได้ความว่า ผู้ร้องสอบสวนพยานได้แล้วเสร็จ แต่คงเหลือการเสนอสำนวนการสอบสวนต่อผู้บังคับบัญชาตามลำดับชั้น ซึ่งผู้ร้องเบิกความว่าพนักงานสอบสวนสามารถดำเนินการได้ โดยไม่ต้องควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้งสาม 

ทั้งไม่ปรากฏหลักฐานตามสมควรว่าผู้ต้องหาทั้งสามจะหลบหนีหรือจะไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน หรือก่อเหตุอันตรายประการอื่น เนื่องจากขณะที่มีการยื่นคำร้องขอควบคุมตัวนี้ ผู้ต้องหาทั้งสามมีอาการป่วยเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลตามใบรับรองแพทย์  จึงไม่มีเหตุจำเป็นต้องควบคุมหรือขังผู้ต้องหาทั้งสามไว้ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 83, 134 เมื่อวินิจฉัยดังนี้แล้ว จึงไม่จำต้องวินิจฉัยประเด็นตามคำคัดค้านข้ออื่น เพราะไม่เป็นเหตุให้เปลี่ยนแปลงคำวินิจฉัย ยกคำร้อง