5 แบงก์ใหญ่ ลุยอุ้ม 'ลูกหนี้' BBL รับ 'NPL' เพิ่ม

นายชาติศิริ โสภณพนิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ (BBL) กล่าวว่าคุณภาพหนี้ในภาพรวมของธนาคาร ยอมรับว่าสินเชื่อมีด้อยคุณภาพลงบ้างในปัจจุบัน แต่ก็ไม่ได้เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ โดยสิ่งที่สำคัญทั้งในปีนี้และต่อเนื่องถึงปีหน้า คือการเร่งเข้าไปช่วยเหลือ และช่วยประคองลูกหนี้ทุกกลุ่มอย่างเต็มที่ จนกว่าลูกหนี้จะผ่านวิกฤติส่วนมาตรฐานการให้สินเชื่อในภาพรวม ธนาคารคงมาตรฐานการให้สินเชื่อคงเดิม ไม่ได้เข้มงวดมากขึ้นแม้แต่พอร์ตธุรกิจเอสเอ็มอี และอสังหาริมทรัพย์ ที่มาตรฐานการให้สินเชื่อเหมือนกับช่วงที่ผ่านมา

นายผยง ศรีวณิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงไทย (KTB)  เปิดเผยว่า  หากดูพอร์ตลูกหนี้ของธนาคารโดยเฉพาะธุรกิจเอสเอ็มอี ยอมรับว่ายังอยู่ในทิศทางเปราะบาง แม้จะเริ่มเห็นลูกหนี้บางกลุ่มสามารถฟื้นตัวได้บ้าง  แต่จำเป็นที่ธนาคารต้องประคองและจับตาดูอย่างใกล้ชิด จนกว่าจะฟื้นตัวอย่างมีเสถียรภาพ

 “วันนี้สิ่งที่เราต้องเร่งทำต่อ คือช่วยเหลือปรับโครงสร้างหนี้ให้กับลูกหนี้ ไม่หยุดการช่วยเหลือ และพยายามดูแล ใกล้ชิด”

    

นายพิพัฒน์พงศ์ โปษยานนท์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกสิกรไทย กล่าวว่า ภาพรวมศรษฐกิจปัจจุบันยังอยู่ในทิศทางชะลอตัว ดังนั้นในส่วนของธนาคารต้องพยายามเข้าไปช่วยซับพอร์ต และช่วยเหลือภาคธุรกิจให้

อยู่รอด ภายใต้เศรษฐกิจที่ชะลอตัว ที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ระบาด ดังนั้นในส่วนของธนาคารก็ต้องพยายามซับพอร์ต และช่วยเหลือภาคธุรกิจให้อยู่รอดให้สามารถผ่านวิกฤติไปได้ 

 สำหรับการดำเนินธุรกิจในระยะข้างหน้าของธนาคาร คือการคำนึง และให้ความสำคัญกับความสามารถในการชำระหนี้ของลูกหนี้เป็นหลัก มากกว่าการเน้นการเติบโตพอร์ตสินเชื่อ

“หากดูสินเชื่อรวมเรายังสามารรถเติบโตได้ โดยเฉพาะสินเชื่อที่อยู่ในมาตรการช่วยเหลือ ดังนั้นการเติบโตปีนี้มีอยู่แล้วหากเทียบกับปีก่อน อีกด้านที่หนุนคือพอร์ตต่างประเทศที่ยังเติบโตได้ เพราะเราลงทุนต่างประเทศเยอะ ที่เริ่มรับรู้เข้ามา โดยเฉพาะใน AEC+3 แม้จะยังมีโควิดแต่ก็ยังเติบโตได้ เพราะเศรษฐกิจรอบข้างเขาดีกว่าเรา”

       

นายมาณพ เสงี่ยมบุตร รองผู้จัดการใหญ่ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มงานการเงิน ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB) กล่าวว่า คาดลูกหนี้ที่ยังต้องได้รับการช่วยเหลือจากธนาคาร ผ่านมาตรการต่างๆ ต่อเนื่องในไตรมาส 4 ปีนี้ และต่อเนื่องไปถึงต้นปีหน้า คาดว่าน่าจะอยู่ที่ 3 แสนล้านบาท หรือคิดเป็น 50 % ของ พอร์ตลูกหนี้ที่เข้าโครงการช่วยเหลือ ณ สิ้นไตรมาส 3 ที่อยู่ราว 6.3 แสนล้านบาท หรือคิดเป็น 29 %ของพอร์ตสินเชื่อรวม ซึ่งปรับลดลงต่อเนื่องหากเทียบกับช่วงที่ผ่านมา

 นายประกอบ เพียรเจริญ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ผู้บริหารสายงานลูกค้าบรรษัทขนาดใหญ่ และรักษาการผู้บริหารสายงานวาณิชธนกิจ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา (BAY) กล่าวว่า หากดูธุรกิจที่น่าห่วงขณะนี้ ยังคงเป็นธุรกิจท่องเที่ยว และอสังหาริมทรัพย์ เพราะเป็นธุรกิจที่พึ่งพานักท่องเที่ยวต่างประเทศ ซึ่งทำให้กำลังซื้อต่างๆลดลง ส่วนธุรกิจรายใหญ่ ยังไม่เห็นการอ่อนแอของธุรกิจอย่างมีนัยสำคัญ แต่ทุกกลุ่มก็ต้องมอนิเตอร์อย่างใกล้ชิด

ส่วนแนวโน้มหนี้เสียทั้งระบบธนาคารพาณิชย์ คาดยังเป็นทิศทางขาขึ้น จากผลกระทบทั้งโควิด-19 และจากภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว