แกว่งลงต่อ ปัจจัยภายนอกยังคงเป็นลบ

มุมมอง SET Index วันศุกร์: ฝ่ายวิจัยฯ ประเมินตลาดหุ้นไทยปรับลงต่อ... หลังจากเมื่อวานนี้ดัชนีฯ ปรับลดลงในกรอบที่จำกัด ตามแรงกดดันจากหุ้นเชื่อมโยงเศรษฐกิจโลก (ตามคาด)... ขณะที่ในวันนี้ ปัจจัยต่างประเทศยังคงเป็นลบ (แต่ไม่ลบมากเท่าเมื่อวาน) น่าจะกดดัน SET Index ให้ปรับลงในกรอบที่จำกัด ขณะที่ปัจจัยภายในประเทศเป็นกลางและไม่น่ามีผลต่อตลาดหุ้นวันนี้

ปัจจัยต่างประเทศ - เป็นลบ: i) ยอดติดเชื้อ COVID-19 ยังคงปรับขึ้น ทำสถิติสูงสุดใหม่อีกครั้งเมื่อวานนี้ที่ 5.3 แสนคน ส่งผลให้ความเสี่ยงต่อเศรษฐกิจโลกเพิ่มขึ้น และเมื่อผนวกกับแรงกดดันจากการที่ยุโรปทำการ lockdown รอบใหม่ ทำให้ราคาน้ำมันดิบลดลงอีก 4.2% สู่ระดับต่ำสุดในรอบประมาณ 5 เดือน ii) นักลงทุนส่วนใหญ่ยังคงชะลอการลงทุน เพื่อติดตามผลการเลือกตั้ง ปธน. สหรัฐฯ ในวันที่ 3 พ.ย. ล่าสุดผลการสำรวจชี้ว่านาย Joe Biden ยังคงนำนาย Donald Trump อยู่ประมาณ 7 จุด... และในช่วงเช้าวันนี้ ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์ปรับลดลง หลังจาก บ. Apple รายงานยอดขายโทรศัพท์ iPhone ในช่วงไตรมาส 3/2563 ตํ่ากว่าที่ consensus คาดการณ์ไว้

ปัจจัยในประเทศ - เป็นกลาง: การชุมนุมและการทำกิจกรรมทางการเมืองต่อต้านรัฐบาลเมื่อวานนี้ ยุติลงโดยไม่มีความรุนแรง และฝ่ายวิจัยฯ ยังคงมุมมองว่าปัจจัยการเมืองไทยจะมีผลน้อยลงๆ ต่อตลาดหุ้นไทย สำหรับในช่วงบ่ายวันนี้ ธปท. จะรายงานตัวเลขเศรษฐกิจไทยเดือน ก.ย. และไตรมาส 3/2563

หุ้นเด่นวันนี้ ตามปัจจัยพื้นฐาน 

เก็งกำไร SFLEX, PTG*, EPG*

- SFLEX (เป้าพื้นฐาน 7.3 บาท) 1) ประเมินแนวรับ 5.6 บาท / แนวต้าน 6.2 - 6.4 บาท หากผ่านแนวต้านนี้ไปได้ประเมินมีโอกาสทดสอบแนวต้านถัดไป ±7.0 บาท (Stop loss 5.0 บาท) 2) ประเมินแนวโน้มกำไร 3Q63 ยังเติบโต YoY, QoQ เป็นผลจากอัตรากำไรขั้นต้นที่เพิ่มขึ้น (ต้นทุนวัตถุดิบพลาสติกลดลง + การ R&D ผลิตภัณฑ์บรรจุภัณฑ์กับลูกค้า) 3) ประเมินแนวโน้มกำไรโต +39.7% CAGR 2562 - 65 จากการขยายกำลังการผลิตใหม่, ต้นทุนวัตถุดิบพลาสติกตํ่าต่อเนื่อง, อัตรากำไรที่ดีขึ้นจากผลิตภัณฑ์ที่ร่วม R&D กับลูกค้า

- PTG* (เป้าพื้นฐาน 21.4 บาท) 1) ประเมินแนวรับ 18.6 บาท / แนวต้าน 19.3 บาท (Stop loss 18.1 บาท) 2) ประเมินแนวโน้มผลการดำเนินงาน 3Q63 มีโอกาสดีกว่าที่ฝ่ายวิจัยฯคาดไว้เดิมที่ 466 ล้านบาท (+82% YoY, -9% QoQ) โดย Upside จะมาจากธุรกิจไบโอดีเซล 3) ราคาน้ำมันปาล์มดิบ
ปรับขึ้นต่อเนื่อง +37.7% QTD คาดเป็น Sentiment บวกต่อเนื่องใน 4Q63 4) PE ปี 2563 - 64 เท่ากับ 19.2 เท่า และ 17.6 เท่า ตามลำดับ (ค่าเฉลี่ยระยะยาว 30 เท่า)

- EPG* (เป้า Consensus 5.8 บาท) 1) ประเมินแนวรับ 4.96 บาท / แนวต้าน 5.1 - 5.5 บาท (Trailing stop 4.8 บาท) 2) Consensus คาดกำไร 2Q63/64 (ก.ค.-ก.ย.) ฟื้นตัว +146% QoQ จากการฟื้นตัวของธุรกิจชิ้นส่วนยานยนต์และบรรจุภัณฑ์ 3) ประเมินราคาหุ้น Laggard กลุ่มชิน้ ส่วนยาน
ยนต์ที่ปรับขึ้นสะท้อนการฟื้นตัวของยอดผลิตยานยนต์ไปพอสมควรแล้ว 4) PE 2564/65 (ปิดงบมี.ค.) เท่ากับ 14.8 เท่า (ค่าเฉลี่ย PE ระยะยาว 13.9 เท่า และ +1 เท่าของส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานเท่ากับ 15.9 เท่า)

หุ้นมีข่าว

(0) บอร์ดแข่งขันฯยื้อ เคาะควบ'ซีพี-เทสโก้' (กรุงเทพธุรกิจ) บอร์ดแข่งขันการค้า ต่อเวลา 15 วัน เคาะผลควบรวม "ซีพี-เทสโก้" ด้าน"สกนธ์"อ้างข้อมูลเพียบพิจารณาไม่ทัน นัดอีกรอบ 2 พ.ย. ลุ้นอนุญาตควบรวมแบบมีเงื่อนไข ป้องกันการใช้อำนาจเหนือตลาดกับคู่ค้า

(+) เสี่ยปู่-นเรศซื้อ STARK เครดิตสวิสเบื้องหลังดีล (ทันหุ้น) 2 รายใหญ่ชื่อดัง "เสี่ยปู่-นเรศ" ร่วมซื้อ บิ๊กล็อต STARK หลังเห็นอนาคต ขณะที่ดีลราคาขาย 1.40 บาท ครั้งนี้มาจากมืออาชีพเครดิตสวิสสำรวจบุ๊กบิวด์เคาะราคา วงในชี้"วนรัชต์" ยอมขายเหตุมองเป้าเข้า SET50-MSCI เป็นหลักด้าน "ชนินทร์"
ระบุบรรลุเป้าเพิ่มฟรีโฟลทแล้ว จากนี้ผู้ถือหุ้นใหญ่ไม่มีการขายแล้ว เน้นสร้างผลงานประจักษ์

(+) PR9 ผู้ป่วยในฟื้นเกิน 100% มั่นใจรายได้ปีนี้โตตามนัด (ทันหุ้น) PR9 เผยยอดผู้ป่วยในประเทศกลับมาเกิน 100% ลุยสร้างรายได้อื่นๆ ทดแทนลูกค้าต่างชาติ พร้อมเดินหน้าในการรักษาโรคไต ชี้พร้อมเป็น Alternative State Quarantine ร่วมกับพันธมิตรโรงแรม และเตรียมพร้อมรับมือหากเกิดโควิด-19
รอบ 2 ด้านรายได้มั่นใจทำได้ตามเป้าเติบโต 15% จากปีก่อน

(0) AOT* คาดปีนี้มีกำไรหลักพันล้าน ผู้โดยสารในประเทศฟื้นเท่าปกติ 1 แสนคน/วัน (ข่าวหุ้น) “นิตินัย” แย้มปีงบปีนี ้AOT* มีกำไรหลักพันล้านบาท ร่วงจากปีก่อนที่มีกำไร 2.5 หมื่นล้านบาท เหตุพิษโควิด-19 พร้อมยำ้ ปีงบปี 64 ขาดทุนแน่นอน ล่าสุดผู้โดยสารในประเทศฟื้นตัวเท่าภาวะปกติที่ 1 แสนคนต่อ
วันแล้ว แต่ผู้โดยสารระหว่างประเทศยังต่ำมากแค่ 700 คนต่อวัน