‘ตั้งคารวคุณ’  จุดพลุหุ้นสตาร์ค เปิดสตอรี่หมื่นล้านของครอบครัว

ด้วยเป้าหมายเพิ่มฟรีโฟลต ให้กับรายย่อย ก่อนจะกรุยเป้าหมายเข้าไปอยู่ในสายตาของกองทุนและสถาบัน และนำไปสู่การขึ้นแท่นบริษัทในกลุ่ม บิ๊กแคป ให้ได้นั้นทำให้กลายเป็นอีกหุ้นที่ถูกจับตามอง

การขายหุ้นในรอบนี้ที่มากถึง 2,250 ล้านหุ้น ที่เฉลี่ยราคาหุ้น 1.40 บาท (28 ต.ค.)กลับต่ำกว่าราคาในกระดานที่เปิดมาวันที่ทำรายการ 1.60 บาท และยังต่ำกว่าราคาปิดวันก่อนหน้านี้ (27 ต.ค.)ที่ 1.92 บาท 

การขายต่ำกว่าราคาในกระดานขนาดนี้ฝากเจ้าของและผู้บริหารต้องชี้แจงการใหญ่ว่าเป็นการแก้ปัญหาฟรีโฟรทที่อยู่ในระดับต่ำ จากปัจจุบันที่ 11 %  จึงได้หารือกับที่ปรึกษาทางการเงิน ทำให้ตัดสินใจขายหุ้นบิ๊กล็อตให้กับนักลงทุนสถาบันทั้งในและต่างประเทศ กองทุน และนักลงทุนวีไอเพื่อเพิ่มฟรีโฟรทเป็น 20.85%

ที่สำคัญยังปลดล็อกปัญหาทำให้บริษัทถูกดึงเข้าคำนวณในดัชนี SET50 ได้เนื่องจากมีคุณสมบัติครบตามเกณฑ์ และในอนาคตมีโอกาสถูกดึงเข้าคำนวณในดัชนี MSCI เนื่องจากหุ้นมีสภาพคล่องมากขึ้น

ส่วนราคาที่ขายต่ำมากขนาดนี้เพราะได้เป็นการให้ส่วนลดกับนักลงทุนที่มีปัจจัยลบจากภาวะเศรษฐกิจ  สถานการณ์โควิด-19 บวกการเมืองในประเทศ จึงมาลงตัวที่ราคาดังกล่าว ด้วยประเด็นข้างต้นจึงทำให้ราคาหุ้น STARK ร่วงไม่หยุดจนวานนี้ (29 ต.ค.) มาปิดที่ 1.42บาท ลดลง 5.33 %

อย่างไรก็ตามประเด็นการขายหุ้นในครั้งนี้เพื่อนำไปสู่การเป็นบิ๊กแคปในตลาดหุ้นไทยกลับน่าสนใจมากขึ้น   เดิมทีบริษัทดังกล่าว คือ บริษัทสยามอินเตอร์ มัลติมีเดีย จำกัด (มหาชน) หรือ SMM  ได้ถูกซื้อกิจการทางอ้อม (Backdoor Listed)   ด้วยการเสนอซื้อที่ราคาหุ้นละ 0.6 บาท จำนวน  21,500 ล้านหุ้น คิดเป็นมูลค่า  12,900 ล้านบาท

โดยผู้ที่เข้ามาซื้อกิจการคือ ‘ วนรัชต์ ตั้งคารวคุณ’ ลูกขายคนโตจากจำนวน 4 คนของ เจ้าสัว ประจักษ์ ตั้งคารวคุณ  เจ้าของธุรกิจสีทาบ้านอันดับ 1 ของไทย ‘ ทีโอเอ’ หรือ บริษัท ทีโอเอ เพ้นท์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ TOA  มูลค่าระดับหมื่นล้าน    

ขณะที่การลงทุนในบริษัทดังกล่าวก็ไม่ใช่เรื่องบังเอิญแต่อย่างใด  หากแต่ได้ผ่านการวางแผนมาตั้งแต่เจ้าสัวส่งลูกชายเข้าไปศึกษาดูงานที่ บริษัท เฟ้ลปส์ ดอด์จ อินเตอร์เนชั่นแนล (ไทยแลนด์) จำกัด   ซึ่งเป็นผู้ผลิตสายไฟฟ้าและเคเบิลรายใหญ่  จนเห็นลู่ทางการเติบโตในอนาคตจึงเตรียมพร้อมกับพันธมิตรนำบริษัทดังกล่าวเข้ามาสวมใน SMM และกลายเป็น STARK ในปี 2562

ธุรกิจนี้ก็ไม่ทำให้ ‘ตั้งคารวคุณ’ผิดหวังสามารถผลิกฐานะการเงินกลายเป็นธุรกิจรายหลักหมื่นล้านบาทมีกำไรทันตาเห็นตั้งแต่ปี 2562   และปัจจุบันมูลค่ามาร์เก็ตแคปพุ่งขึ้นมาอยู่ที่ 35,000 ล้านบาท  ซึ่งในช่วงไตรมาส 2 ที่ผ่านมา เข้าซื้อกิจการธุรกิจสายไฟขนาดใหญ่ในเวียดนามเข้ามาเพิ่มอีก  

ด้วยกุญแจสำคัญคือการเข้าทำการตลาดกลุ่มลูกค้าทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งในไทยถือว่าเข้าถึงลูกค้าคอร์ปอเรทรายใหญ่ทั้ง อสังหาริมทรัพย์ พลังงานทดแทน ปิโตรเคมี  หรือแม้แต่ลูกค้าภาครัฐอย่างกลุ่มทหาร เข้าไปปูทางไว้แล้ว

นอกจากนี้หากดูจากการเข้ามาลงทุนใน STARK ตั้งแต่วันแรก แม้จะมีรายการขายหุ้นออกมาแต่ยังไม่กระทบผู้ถือรายใหญ่  หลังทุ่มเงินก้อนใหญ่เข้ามาสวมธุรกิจใหม่แล้ว  ด้วราคาหุ้นปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง  หลังมีการเทขายหุ้นหลายระรอกของผู้ถือหุ้นใหญ่

โดยมีรายการซื้อหุ้น ต.ค. 2562 จำนวน 5 ล้านหุ้น ในราคาหุ้นละ  1.75  บาท มูลค่า  8.6 ล้านบาท หลังจากนั้นมีการทยอยขายออกมา ตั้งแต่ต.ค. 62 – พ.ค. 63 รวม  407.49 ล้านหุ้น ระหว่างราคา 1.70-1.85 บาท รวมมูลค่า  753  ล้านบาท  

เบ็ดเสร็จแล้วการเพิ่มฟรีโฟลตในครั้งนี้ทั้งได้กำไรจากราคาหุ้น ทำให้บริษัทเป็นที่สนใจเฝ้าจับตามองของนักลงทุน  และเป็นเปิดตัวบริษัทในฐานะว่าทีบิ๊กแคปในอนาคตได้อีกด้วย