ลงต่อ ปัจจัยต่างประเทศเป็นลบรุนแรงขึ้น

มุมมอง SET Index วันพฤหัสฯ: ฝ่ายวิจัยฯ ประเมินดัชนีฯ ปรับตัวลดลง ตามปัจจัยลบจากต่างประเทศที่รุนแรงขึ้น ... ขณะที่เมื่อวานนี้ ตลาดหุ้นไทยเทรดผันผวนตลอดทั้งวัน ก่อนปิดลบเล็กน้อย (ตามคาด)...ทั้งนี้ ความกังวลต่อเศรษฐกิจโลกกลับสู่ตลาดอีกครั้ง น่าจะส่งผลให้สินทรัพย์เสี่ยงในภาพรวมถูกกดดัน

ปัจจัยต่างประเทศ - เป็นลบ: i) การติดเชื้อ COVID-19 รุนแรงขึ้นอีกครั้ง เมื่อวานนี้จำนวนผู้ติดเชื้อทั่วโลกทำจุดสูงสุดใหม่อีกครั้งที่ 5 แสนคน และยุโรปยังคงเป็นกลุ่มที่มีการติดเชื้อเร่งตัวขึ้นมาก ล่าสุดประเทศหลักในยุโรปอย่างเยอรมัน และฝรั่งเศส ประกาศล็อกดาวน์เกือบเต็มรูปแบบไปถึงสิ้นเดือน พ.ย. (เหลือเพียงโรงงานอุตสาหกรรม และภาคการผลิต ที่ยังสามารถเปิดทำการได้) ii) ขณะนี้ค่อนข้างชัดเจนแล้วว่า มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐฯ จะไม่ได้รับการอนุมัติก่อนการเลือกตั้งปธน. วันที่ 3 พ.ย. นี้ เนื่องจากไม่ได้มีการเรียกวุฒิสมาชิกสหรัฐฯ กลับจากช่วงพักผ่อนในสัปดาห์นี้แต่อย่างใด... ทั้งนี้ ความไม่แน่นอนจากปัจจัยต่างๆ ข้างต้น กดดันตลาดหุ้นสหรัฐฯ และยุโรปให้ลงหนักเมื่อคืนนี้ และราคาน้ำมันดิบ WTi ปรับลงต่อ 3.4% สู่ระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 1 เดือน

ปัจจัยในประเทศ - เป็นกลาง: ฝ่ายวิจัยฯ คงมุมมองว่าการชุมนุมและการทำกิจกรรมทางการเมืองของกลุ่มต่อต้านรัฐบาลจะมีผลน้อยลงต่อตลาดหุ้น เนื่องจากระบบขนส่งมวลชนและห้างร้านไม่ได้ปิดทำการเหมือนในช่วงแรกของการชุมนุม... ขณะที่ในส่วนของปัจจัยเศรษฐกิจนั้น ติดตามตัวเลขเศรษฐกิจไทยเดือน ก.ย. ซึ่ง ธปท. จะรายงานในวันพรุ่งนี้

หุ้นเด่นวันนี้ ตามปัจจัยพื้นฐาน 

เก็งกำไร SFLEX, PTG*, EPG*

- SFLEX (เป้าพื้นฐาน 7.3 บาท) 1) ประเมินแนวรับ 5.5 บาท / แนวต้าน 6.2 - 6.4 บาท หากผ่านแนวต้านนี้ไปได้ประเมินมีโอกาทดสอบแนวต้านถัดไป ±7.0 บาท (Stop loss 5.0 บาท) 2) ประเมินแนวโน้มกำไร 3Q63 ยังเติบโต YoY, QoQ เป็นผลจากอัตรากำไรขั้นต้นที่เพิ่มขึ้น (ต้นทุนวัตถุดิบ
พลาสติกลดลง + การ R&D ผลิตภัณฑ์บรรจุภัณฑ์กับลูกค้า) 3) ประเมินแนวโน้มกำไรโต +39.7%CAGR 2562 - 65 จากการขยายกำลังการผลิตใหม่, ต้นทุนวัตถุดิบพลาสติกตํ่าต่อเนื่อง, อัตรากำไรที่ดีขึ้นจากผลิตภัณฑ์ที่ร่วม R&D กับลูกค้า ... อ่านเพิ่มเติมในบทวิเคราะห์วันนี้

- PTG* (เป้าพื้นฐาน 21.4 บาท) 1) ประเมินแนวรับ 18.4 บาท / แนวต้าน 19.3 บาท (Stop loss 17.8 บาท) 2) ประเมินแนวโน้มผลการดำเนินงาน 3Q63 มีโอกาสดีกว่าที่ฝ่ายวิจัยฯคาดไว้เดิมที่ 466 ล้านบาท (+82% YoY, -9% QoQ) โดย Upside จะมาจากธุรกิจไบโอดีเซล 3) ราคาน้ำมันปาล์มดิบ
ปรับขึ้นต่อเนื่อง +37.7% QTD คาดเป็น Sentiment บวกต่อเนื่องใน 4Q63 4) PE ปี 2563 - 64 เท่ากับ 19.1 เท่า และ 17.5 เท่า ตามลำดับ (ค่าเฉลี่ยระยะยาว 30 เท่า)

- EPG* (เป้า Consensus 5.8 บาท) 1) ประเมินแนวรับ 4.74 บาท / แนวต้าน 4.9 - 5.05 บาท (Stop loss 4.6 บาท) 2) Consensus คาดกำไร 2Q63/64 (ก.ค.-ก.ย.) ฟื้นตัว +146% QoQ จากการฟื้นตัวของธุรกิจชิ้นส่วนยานยนต์และบรรจุภัณฑ์ 3) ประเมินราคาหุ้น Laggard กลุ่มชิ้นส่วนยานยนต์ที่ปรับขึ้นสะท้อนการฟื้นตัวของยอดผลิตยานยนต์ไปพอสมควรแล้ว 4) PE ปี 2563/64 (ปิดงบ มี.ค.) และ 2564/65 (ปิดงบ มี.ค.) เท่ากับ 17.6 เท่าและ 14.3 เท่า ตามลำดับ (ค่าเฉลี่ย PE ระยะยาว 13.9 เท่า)

หุ้นมีข่าว

(0 CPF*, CPALL*) บอร์ดแข่งขันฯ นัดชี้ชะตาวันนี้ ควบ'ซีพี-เทสโก้' (กรุงเทพธุรกิจ) บอร์ดแข่งขันทางการค้า นัดชี้ขาดควบรวม "ซีพี-เทสโก้โลตัส" สั่งเพิ่มข้อมูลการเข้าสู่ตลาดค้าปลีก ของรายใหม่ผลกระทบต่อเศรษฐกิจ "สกนธ์" ยืนยันพิจารณาโปร่งใส ชี้ผลการตัดสินอาจไม่ถูกใจใครทั้งหมด

(+) MBK ดัน 'ที ลีสซิ่ง' รุกสินเชื่อมอไซค์ตั้งเป้าโต 10% ต่อปี (ทันหุ้น) "ที ลีสซิ่ง" ในเครือ MBK รุกสินเชื่อเช่าซื้อมอเตอร์ไซค์เต็มสูบ ตั้งเป้าโต 10% ต่อปี มีพอร์ตสินเชื่อแตะ 1 หมื่นล้านบาทภายใน 3 ปี เล็งจัดงาน Motor Bike Show ระหว่างวันที่ 10-16 พฤศจิกายน 2563 กระตุ้นยอดโค้งท้ายปี

(+) SCGP รายได้แสนล้านจ่อเล็งเลื่อนชั้นสู่ดัชนี MSCI (ทันหุ้น) SCGP ลั่นปี 2564 รายได้ทะลุแสนล้านบาท จ่อรับรู้รายได้จากธุรกิจ SOVI และกำลังผลิตใหม่ที่เพิ่มขึ้นเตรียมทุ่มงบกว่า 1.2 หมื่นล้านบาทลุย M&A ธุรกิจแพ็กเกจจิ้งในแถบอาเซียน ตั้งเป้าติดดัชนี MSCI ในปีหน้า หวังดึงต่างชาติถือหุ้นเพิ่ม

(+) STARK จ่อเข้าคำนวณSET50-MSCI หลังโยนบิ๊กล็อตปลดล็อกปัญหาฟรีโฟลท (ผู้จัดการรายวัน 360 องศา) สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น เตรียมถูกดึงเข้าคำนวณในดัชนี SET50 และ MSCI หลังบิ๊กบอส "ชนินทร์ เย็นสุดใจ"ตัดสินใจ โยนบิ๊กล็อต 2,250 ล้านหุ้น ให้กับกองทุนชั้นนำในต่างประเทศ นักลงทุนสถาบันและนักลงทุน VI ที่พร้อมใจเข้าลงทุนในบริษัทฯ เนื่องจากมองเห็นศักยภาพการเติบโตในอนาคต จับตาผลงานครึ่งปีหลังโตแรง