ศรีสุวรรณ ร้องกกต.เร่งยึดทรัพย์พรรคอนาคตใหม่เรียก 191 ล้าน

ศรีสุวรรณ ร้องกกต.เร่งยึดทรัพย์พรรคอนาคตใหม่เรียก 191 ล้าน

ศรีสุวรรณ ร้องกกต.เร่งยึดทรัพย์พรรคอนาคตใหม่เรียก 191 ล้าน แม้พรรคถูกยุบไปแล้ว ยัน ต้องทำตามกฎหมายให้เด็ดขาด

ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ได้เดินทางมายื่นคำร้องเพื่อขอให้ กกต. มีมติให้ดำเนินการไล่เบี้ยยึดเงิน 191.2 ล้านบาทจากหัวหน้าและกรรมการบริหารพรรคอนาคตใหม่ทั้ง 15 คนมาคืนกองทุนพรรคการเมือง ตาม พรป.พรรคการเมือง 2560 ประกอบประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง (ฉบับที่ 30) พ.ศ.2560 โดยอนุโลม

ทั้งนี้สืบเนื่องจาก กกต.ได้มีมติให้สำนักงานกกต.แจ้งความดำเนินคดีอาญากับนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ อดีตหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ และอดีตกรรมการบริหารพรรคอนาคตใหม่ 15 คน จากกรณีศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยยุบพรรคอนาคตใหม่ เนื่องจากกระทำผิด มาตรา 66 ประกอบ มาตรา 72 พรป.ว่าด้วยพรรคการเมือง กู้ยืมเงิน 191.2 ล้านบาทจากนายธนาธร และนายธนาธรจะเป็นความผิดฐานบริจาคเงินเกิน 10 ล้านบาทตามที่ มาตรา 66 วรรคหนึ่ง พรป.พรรคการเมือง2560 กำหนดอีกด้วย ซึ่งจะมีโทษตาม มาตรา 124 จำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง 5 ปี

ส่วนเงินกู้ 191.2 ล้านบาท ที่ตามมาตรา 125 พรป.พรรคการเมืองนั้นกำหนดโทษปรับไม่เกิน 1 ล้านบาท และให้เงินทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใด ส่วนที่เกินกว่าที่กำหนดไว้ใน มาตรา 66 ตกเป็นของกองทุนเพื่อการพัฒนาพรรคการเมืองนั้น ข่าวที่ปรากฏเป็นการทั่วไปว่า กกต.ยังไม่ได้ข้อยุติในส่วนนี้ เนื่องจากมีความเห็นที่แตกต่างกันระหว่างสำนักงานกกต.และคณะที่ปรึกษากฎหมายของกกต. โดยทางฝ่ายสำนักงานเสนอว่าสามารถที่จะยึดเงินเข้ากองทุนเพื่อการพัฒนาพรรคการเมืองได้ แต่ทางคณะที่ปรึกษากฎหมายของกกต.เห็นว่าเมื่อศาลรัฐธรรมนูญสั่งยุบพรรค ก็ไม่เหลือ พรรคการเมือง ที่จะให้กกต.ไปเรียกเงินมาเป็นของกองทุนฯได้


กรณีดังกล่าว สมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทยเห็นว่า แม้พรรคอนาคตใหม่จะถูกยุบไปแล้ว แต่ตาม มาตรา 95 วรรคสอง ของพรป.พรรคการเมือง กำหนดให้หัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารพรรคจะต้องชำระบัญชีของพรรคจนกว่าจะแล้วเสร็จ หากมีทรัพย์สินของพรรคส่วนใดที่คงเหลือต้องยึดมาขายทอดตลาดทั้งหมด ดังนั้น ทั้งหัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารพรรคอนาคตใหม่ทั้ง 15 คนจะปฏิเสธภาระความรับผิดชอบที่คณะตนได้กระทำไปในทางที่ผิดกฎหมายในขณะที่ดำรงตำแหน่งในพรรคการเมืองมิได้ ซึ่งเมื่อ กกต.ต้องไปดำเนินการส่งเรื่องฟ้องร้องในทางอาญาเอาผิด หัวหน้าและกรรมการบริหารพรรคอนาคตใหม่ทั้ง 15 คนแล้วก็จักต้องพ่วงเรียกค่าเสียหายในทางแพ่งที่คงเหลือทั้งหมดเพื่อให้ศาลสั่งนำเงินเข้ากองทุนพรรคการเมืองต่อไปด้วย และหากไม่ยอมชำระก็ให้ทำการบังคับคดีโดยการ “ยึดทรัพย์” กรรมการบริหารพรรคอนาคตใหม่ทั้ง 15 คน นำมาขายทอดตลาดต่อไป จึงจะชอบด้วยกฎหมายต่อไป