‘ดาวโจนส์’ดิ่งเหว 943 จุดกังวลโควิดทุบศก.โลก

ดัชนีดาวโจนส์ ปิดตลาดวันพุธ(28ต.ค.)ดิ่งลง 943 จุด ท่ามกลางความวิตกที่ว่าการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 จะทำให้ประเทศต่างๆประกาศมาตรการล็อกดาวน์ ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลก นอกจากนี้ นักลงทุนยังมีความกังวลเกี่ยวกับความล่าช้าของการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐ

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ทรุดตัว 943.24 จุดหรือ 3.43% ปิดที่ 26,519.95 จุด ดัชนีเอสแอนด์พี500 ร่วงลง 119.65 จุด หรือ 3.53% ปิดที่ 3,271.03 และดัชนีแนสแด็ก ร่วงลง 426.48 จุด หรือ 3.73% ปิดที่ 11,004.87 จุด
ดัชนีความผันผวนซีบีโออี หรือ CBOE Volatility Index (VIX) ซึ่งเป็นมาตรวัดความวิตกของนักลงทุนในตลาด พุ่งขึ้นเหนือระดับ 37 จุดในวันนี้ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 4 ก.ย.

นักลงทุนยังคงจับตาการเปิดเผยผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน

หุ้นบริษัทไมโครซอฟท์ คอร์ป ดิ่งลงเกือบ 3% ในการซื้อขายวันนี้ แม้เปิดเผยผลประกอบการที่ดีกว่าคาด

หุ้นบริษัทโบอิงร่วงลงกว่า 3% หลังเปิดเผยผลประกอบการในไตรมาส 3 ในวันนี้ โดยบริษัทประสบภาวะขาดทุนติดต่อกัน 4 ไตรมาส จากผลกระทบของการชะลอการผลิตเครื่องบิน ท่ามกลางการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 รวมทั้งการที่เครื่องบินรุ่น 737 แม็กซ์ยังคงถูกสั่งห้ามบิน หลังจากที่เครื่องบิน 2 ลำของรุ่นดังกล่าวได้ประสบอุบัติเหตุในปี 2561 จนทำให้มีผู้เสียชีวิตรวม 346 คน

หุ้นกลุ่มที่ได้ประโยชน์จากการเปิดเศรษฐกิจสหรัฐ เช่น สายการบิน และธุรกิจเรือสำราญ ต่างก็ปรับตัวลงในวันนี้

ดัชนีดาวโจนส์ร่วงลงแล้ว 3% นับตั้งแต่ต้นสัปดาห์ และลบช่วงบวกที่ทำไว้ทั้งหมดในเดือนต.ค.

ดัชนีดาวโจนส์ปิดวานนี้ร่วงลงเกือบ 1% โดยปรับตัวลงติดต่อกันเป็นวันที่ 3 หลังจากทำเนียบขาวส่งสัญญาณว่า รัฐบาลสหรัฐและพรรคเดโมแครตอาจไม่สามารถบรรลุข้อตกลงในการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจได้ก่อนวันเลือกตั้งประธานาธิบดี

ด้านโกลด์แมน แซคส์คาดการณ์เช่นกันว่า สภาคองเกรสสหรัฐจะไม่สามารถออกกฎหมายว่าด้วยมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐได้ก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดีในวันที่ 3 พ.ย.

ขณะนี้ สหรัฐติดอันดับ 1 ของโลกทั้งจำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 และผู้เสียชีวิต โดยมีผู้ติดเชื้อมากกว่า 9 ล้านราย และเสียชีวิตกว่า 232,000 ราย

ทั้งนี้ จำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่เฉลี่ยต่อวันในสหรัฐอยู่ที่ระดับ 71,832 รายในช่วง 7 วันที่ผ่านมา ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ขณะที่จำนวนผู้ป่วยโควิด-19 ที่ต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลเพิ่มขึ้นมากกว่า 5% ใน 36 รัฐ

รัฐบาลเยอรมนีและฝรั่งเศสเตรียมประกาศยกระดับการคุมเข้มมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในวันนี้ หลังพบว่าอัตราผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 ทั่วยุโรปพุ่งขึ้นเกือบ 40% ภายในเวลา 1 สัปดาห์

องค์การอนามัยโลก (ดับเบิลยูเอชโอ) รายงานจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ในยุโรปมากกว่า 1.3 ล้านรายในช่วง 7 วันที่ผ่านมา โดยมีจำนวนเกือบครึ่งหนึ่งของตัวเลข 2.9 ล้านรายทั่วโลก และมีผู้เสียชีวิตกว่า 11,700 ราย ซึ่งพุ่งขึ้น 37% เมื่อเทียบกับสัปดาห์ก่อนหน้านี้

ขณะนี้ ทั่วโลกติดเชื้อโควิดมากกว่า 44.3 ล้านราย และเสียชีวิตมากกว่า 1.1 ล้านราย

ทั้งนี้ การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ทวีความรุนแรงและรวดเร็วขึ้น โดยทั่วโลกติดเชื้อไวรัสโควิด-19 จำนวน 10 ล้านรายภายในเวลา 3 เดือน และสู่ระดับ 20 ล้านรายภายใน 44 วัน, 30 ล้านรายภายใน 38 วัน และ 40 ล้านรายภายในเวลาเพียง 32 วัน