‘ศักดิ์สยามลิสซิ่ง’ รุกขยายสาขาเพิ่มตัวเจาะตลาดภูธร

‘ศักดิ์สยามลิสซิ่ง’ รุกขยายสาขาเพิ่มตัวเจาะตลาดภูธร

ศักดิ์สยามลิสซิ่ง เดินหน้าขยายเครือข่ายในระดับภูธร ตั้งเป้าขยายสาขาเพิ่มเท่าตัวเป็น 1,119 สาขาภายในปี 2566 และใช้เทคโนโลยีขับเคลื่อนธุรกิจ หลังในช่วง3ปีมานี้รายได้และสินเชื่อโตเฉลี่ยกว่า30%ต่อปี

นายพูนศักดิ์ บุญสาลี ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ศักดิ์สยามลิสซิ่ง จำกัด (มหาชน)  ผู้ให้บริการสินเชื่อรายย่อยระดับภูมิภาค ภายใต้ชื่อแบรนด์ สินเชื่อศักดิ์สยาม’ (SAKSIAM)"  เปิดเผยว่า ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา (ปี 2560-2562)  บริษัทมีอัตราการเติบโตของรายได้จากดอกเบี้ย ค่าธรรมเนียมและบริการ เฉลี่ย 31.6% ต่อปี สอดคล้องกับการขยายตัวของพอร์ตสินเชื่อในช่วงระยะเวลาเดียวกัน ที่เพิ่มขึ้นเฉลี่ยปีละ 33.5%

ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2563 บริษัทมีพอร์ตสินเชื่อรวม 6,067 ล้านบาท จากจำนวนสัญญาสินเชื่อรวม 230,273 สัญญา แบ่งเป็นลูกหนี้ที่มีหลักประกัน 88% และลูกหนี้ไม่มีหลักประกัน 12% ของพอร์ตสินเชื่อรวม


ทั้งนี้ บริษัทวางแผนการขยายสาขาให้ครอบคลุมทั้งในระดับจังหวัด อำเภอ และตำบล โดยเพิ่มเป็น 1,119 สาขา ภายในปี 2566 ซึ่งเป็นการตั้งเป้าขยายสาขาอย่างน้อยปีละ 200 สาขา  จากปัจจุบันมีเครือข่ายสาขาที่ครอบคลุมการให้บริการมากถึง 519 สาขา ในภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันตก และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ รวม 38 จังหวัด

"เรามุ่งเน้นให้มีสาขาอยู่ครอบคลุมอย่างทั่วถึงในทุกพื้นที่ละเพิ่มจำนวนสาขาในพื้นที่เดิมให้เข้าถึงในระดับชุมชน เพื่ออำนวยความสะดวกให้ประชาชนเข้าถึงบริการสินเชื่อที่มีมาตรฐานและความเป็นธรรมได้ง่ายขึ้น รองรับความต้องการของสินเชื่อที่มีโอกาสเติบโตได้อีกมาก" 

ทางด้านผลิตภัณฑ์สินเชื่อที่หลากหลายเพื่อตอบสนองทุกความต้องการ โดยแบ่งผลิตภัณฑ์ออกเป็น 4 ประเภทดังนี้

1.สินเชื่อทะเบียนรถ (Vehicle Title Loan) สำหรับลูกค้ารายย่อยบุคคลทั่วไปและเกษตรกร ที่เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ถจักรยานยนต์ รถยนต์นั่งส่วนบุคคล รถยนต์กระบะ รถตู้ รถบรรทุกและรถใช้เพื่อการเกษตร โดยใช้สมุดคู่มือจดทะเบียนรถเป็นหลักประกันในการขอสินเชื่อ กำหนดการผ่อนชำระเป็นรายเดือนสำหรับลูกค้ารายย่อยบุคคลทั่วไป หรือชำระเมื่อครบกำหนดระยะเวลา 4 เดือนสำหรับลูกค้าเกษตร ด้วยอัตราดอกเบี้ยรวมค่าธรรมเนียมสูงสุดไม่เกินร้อยละ 24 ต่อปี แบบลดต้นลดดอก 

2.สินเชื่อส่วนบุคคล (Personal Loan) สำหรับบุคคลทั่วไปที่มีรายได้ประจำที่แน่นอน อาทิ ข้าราชการ, พนักงานบริษัท เป็นต้น โดยไม่ต้องใช้หลักประกันในการขอสินเชื่อ ให้วงเงินสินเชื่อสูงสุดไม่เกิน 100,000 บาทต่อราย กำหนดการ
ผ่อนชำระเป็นรายเดือน ด้วยอัตราดอกเบี้ยรวมค่าธรรมเนียมสูงสุดร้อยละ 25 ต่อปี แบบลดต้นลดดอก

 3.สินเชื่อรายย่อยเพื่อการประกอบอาชีพ (Nano Finance) ป็นสินเชื่อเพื่อนำไปใช้ประกอบอาชีพสำหรับบุคคลทั่วไป อาทิ พ่อค้า แม่ค้า ผู้ทำงานอาชีพอิสระ หรือผู้ที่มีรายได้ไม่แน่นอน โดยไม่ต้องใช้หลักทรัพย์ค้ำประกัน ให้วงเงินสินเชื่อสูงสุดไม่เกิน 100,000 บาทต่อราย กำหนดการผ่อนชำระเป็นรายเดือน ด้วยอัตราดอกเบี้ยรวมค่าธรรมเนียมสูงสุดร้อยละ 33 ต่อปี แบบลดต้นลดดอก

4.สินเชื่อเช่าซื้อและสินเชื่อรถแลกเงิน (Hire-Purchase and Car for Cash) สำหรับบุคคลทั่วไปที่ต้องการซื้อรถจักรยานยนต์ใหม่หรือต้องการนำรถยนต์มาเป็นหลักประกันในการขอสินเชื่อ โดยกำหนดระยะเวลาการผ่อนเป็นรายเดือนไม่เกิน 60 เดือน ด้วยวงเงินสินเชื่อสูงสุดไม่เกิน 350,000 บาท สำหรับรถยนต์และวงเงินสินเชื่อสูงสุดไม่เกิน 70,000 บาท สำหรับรถจักรยานยนต์