'ก้าวหน้า' ซัดเปิดสภาวิสามัญไม่แก้ปัญหา แต่มุ่งทำลายอีกฝ่าย

'ก้าวหน้า' ซัดเปิดสภาวิสามัญไม่แก้ปัญหา แต่มุ่งทำลายอีกฝ่าย

'ก้าวหน้า' ซัดเปิดสภาวิสามัญไม่ช่วยแก้ปัญหา แต่มุ่งทำลายความชอบธรรมม็อบเยาวชน เตือน รัฐบาลหยุดสร้างเมล็ดพันธุ์แห่งความเกลียดชัง เร่ง เอาข้อเสนอ 3 ข้อเข้าคณะกรรมการก่อนทุกอย่างสูญเปล่า

นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า กล่าวถึงภาพรวมของการประชุมรัฐสภาสมัยวิสามัญตลอดสองวันที่ผ่านมาว่า การประชุมรัฐสภาที่ผ่านมาฝ่ายส.ว.และส.ส.รัฐบาล และ รัฐมนตรี ได้มีแนวทางอภิปรายสองเรื่อง ได้แก่ 1.พยายามเชื่อมโยงและทำให้การชุมนุมของเยาวชนถูกด้อยค่า 2.การพยายามอธิบายข้อเสนอของกลุ่มผู้ชุมนุมทำไม่ได้ หรือบางข้อต้องใช้เวลา แต่สำหรับตนเองนั้นการจะแก้ไขปัญหาทางการเมือง จะต้องอาศัยเจตจำนงเป็นหลัก หากมีเจตจำนงจริงๆไม่ว่าเรื่องไหนก็สามารถทำได้ทั้งสิ้น 

"ถ้าท่านอยากจะทำจริงๆ เช่น การแก้ไขรัฐธรรมนูญแบบสามวาระรวดเพื่อเอาส.ว.ออกไปก็สามารถทำได้ หรือ หากจะลาออกก็ทำได้ เพราะแคนดิเดทนายกฯมีอยู่แล้ว หรือการบอกว่าตัวเองไม่ได้เกี่ยวข้องกับการยกร่างรัฐธรรมนูญ เหมือนเป็นการพูดแบบคิดว่าคนไทยกินแกลบหรืออย่างไร ดังนั้น การอภิปรายทั้งสองวันที่ผ่านมาจึงเป็นการพิสูจน์ว่าไม่ได้แก้ปัญหาอะไร โดยเฉพาะการอภิปรายตอนท้ายของพล.อ.ประยุทธ์" นายปิยบุตร กล่าว

นายปิยบุตร กล่าวว่า การจะตั้งคณะกรรมการที่ประกอบด้วยหลายฝ่ายนั้นหากไม่เอาข้อเสนอของกลุ่มผู้ชุมนุมทั้ง 3 ข้อเข้าไปด้วย การตั้งคณะกรรมการก็ไม่เป็นประโยชน์ แบบนี้ประชาชนอาจสิ้นหวังกระบวนการทางสภาและทำให้ลงถนนอีกครั้ง ที่ผ่านมาใช้กลไกต่างๆเพื่อถ่วงเวลาเท่านั้น เพราะหากเรื่องใดอยากทำจริงๆก็สามารถทำได้ทันที 

ด้าน นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า กล่าวว่า สำหรับข้อกล่าวหาว่าพวกเราอยู่เบื้องหลังและมีต่างชาติอยู่เบื้องหลังการชุมนุมนั้นการชุมนุมของเยาวชนถูกต้องตามกฎหมายและไม่ได้เรียกร้องให้มีการล้มล้างการปกครองแต่เป็นการเรียกร้องให้เกิดการปฏิรูปเท่านั้น ถ้าเราไม่ยอมรับถึงปัญหาจะนำมาสู่การแก้ไขปัญหาได้อย่างไร เรากังวลว่าแทนที่จะยอมรับปัญหาและแสวงหาทางออกอย่างสันติ แต่รัฐบาลกลับกำลังโหมกระพือใส่ร้ายผู้ชุมนุม เป็นการบังคับให้ประชาชนเลือกข้าง อันตรายมาก

"การชุมนุมที่ผ่านมาเส้นแบ่งของการเลือกข้างมันเบลอ แต่ครั้งนี้มีเส้นแบ่งชัดเจน ซึ่งอันตรายและไม่สมควรกระทำ เมล็ดพันธุ์แห่งความเกลียดชังที่ถูกรัฐบาลหว่านไว้กำลังเติบโตอย่างน่ากลัว เห็นสิ่งที่เกิดขึ้นที่อยุธยาและมหาวิทยาลัยรามคำแหงหรือไม่ สองวันที่ผ่านมาในสภาโดยเฉพาะส.ว.อภิปรายด้วยความเกลียดชัง ผมคิดว่าเราควรสร้างสังคมแห่งความเข้าใจกัน แต่กลับไม่มีการฟังเสียงของอีกฝ่ายด้วยความห่วงใยหรือฟังอย่างมีวุฒิภาวะ หากไม่หยุดความเกลียดชังนี้ จะทำให้ความรุนแรงต่อผู้มีความเห็นต่างมีความชอบธรรม บ้านเมืองเรายังพอมีทางออก อย่าปลูกฝังเมล็ดพันธุ์แห่งความเกลียดชังให้กับคนรุ่นต่อไป" นายธนาธร กล่าว