'ปิยบุตร-ธนาธร' แถลงพร้อมสู้คดีอาญาอนาคตใหม่กู้เงิน

'ปิยบุตร-ธนาธร' แถลงพร้อมสู้คดีอาญาอนาคตใหม่กู้เงิน

'ปิยบุตร-ธนาธร' แถลงพร้อมสู้คดีอาญาอนาคตใหม่กู้เงิน ย้ำ หลักการศาลรธน.ไม่ผูกพันศาลอาญา เตือน ใช้นิติสงครามซ้ำระวังไฟลามทุ่ง

นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า ในฐานะอดีตเลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ แถลงข่าวกรณีคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) มีมติให้ดำเนินคดีอาญากับอดีตกรรมการบริหารพรรคอนาคตใหม่ทั้ง 16 คน จากการกู้เงิน โดยระบุว่าการดำเนินคดีอาญาของกกต.เป็นผลมาจากคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญที่ยุบพรรคอนาคตใหม่ ซึ่งกระบวนการไต่สวนคดียุบพรรคและการวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ถูกตั้งคำถามในแง่มุมทางวิชาการว่าไม่ถูกต้องตามกฎหมาย อย่างไรก็ตาม แม้คำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญผูกพันทุกองค์กร แต่ผูกพันเฉพาะในส่วนของผลคำวินิจฉัยเท่านั้น ไม่จำเป็นต้องผูกพันศาลอื่นด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกรณีนี้เป็นการดำเนินคดีอาญา จึงไม่ผูกพันศาลอาญา เพราะหากตีความว่าคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญผูกพันศาลอาญา แบบนี้จะเกิดผลประหลาดทันที ศาลรัฐธรรมนูญจะกลายเป็นศาลอาญาโดยปริยาย เพียงแต่ไม่ได้พิพากษาจำคุก 

"เราพร้อมสู้คดีอย่างเต็มที่และเชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรมของประเทศไทย ภายหลังงศาลรัฐธรรมนูญยุบพรรคอนาคตใหม่ ผมเคยแถลงว่าภาพยนตร์ยุบพรรครอบนี้จะไม่จบแบบเดิม หากผู้กำกับภาพยนตร์ยุบพรรคอนาคตใหม่จะเป็นการตัดไฟแต่ต้นล้ม ถือว่าเป็นการคิดผิด เพราะจะเป็นไฟลามทุ่ง 8 เดือนที่ผ่านมาพิสูจน์แล้วว่าไฟลามทุ่งจริงๆ" นายปิยบุตร กล่าว 

นายปิยบุตร กล่าวว่า ถ้าเราต้องการให้กระบวนการนิติสงครามหยุดสักที ก็ต้องสู้ ทั้งๆที่รู้กฎหมายไม่เป็นคุณแก่เรา หากไม่สู้กฎหมายก็จะบดขยี้กันต่อไป การสู้เท่านั้นถึงจะยุตินิติสงครามได้ หากผู้กำกับภาพยนตร์ยุบพรรคยังคิดเหมือนเดิมว่าทุกอย่างจะจบนั้นท่านคิดผิดและไฟจะลามทุ่งกว่าเดิม 

"คดีอาญาต้องใช้เวลาไม่สามารถรวบรัดตัดความได้ทันที กระบวนเริ่มต้นที่ตำรจ อัยการและไปศาลตามระบบปกติ ถ้าว่ากันตามข้อเท็จจริงไม่มีอะไรต้องกังวล แต่กังวลเรื่องกระบวนการนิติสงครามมากกว่า ซึ่งเป็นปัญหาใหญ่ของประเทศไทย สรุปว่ากระบวนการยุติธรรมถูกแบบมาเพื่ออำนวยความยุติธรรมแบบเสมอหน้าหรือเพื่อรับใช้บางคนเท่านั้น"

นายปิยบุตร กล่าวอีกว่า กระบวนการทำงานของกกต.มีความผิดปกติ ไม่ได้เปิดเผยอย่างเป็นทางการ แม้ฝ่ายตนเองเป็นผู้ถูกดำเนินคดีก็ยังไม่ได้ทราบถึงการดำเนินการของกกต.อย่างเป็นทางการ แต่กลับพบมติกกต.จากข่าวที่ปรากฎตามสื่อมวลชน 

ด้าน นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้าในฐานะอดีตหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ กล่าวว่า พวกเราตั้งพรรคอนาคตใหม่เพื่อต้องการทำพรรคการเมืองแบบใหม่ที่มีคุณภาพเพื่อดึงศรัทธาของประชาชนให้กลับมายังระบอบรัฐสภาอีกครั้งและต้องการทำให้พรรคการเมืองเกิดความโปร่งใส ภายใต้รัฐธรรมนูญฉบับนี้ตั้งพรรคการเมืองได้ยาก ถ้าไม่เงินแทบจะไม่มีความเป็นไปได้ในการตั้งพรรคการเมือง เพราะมีการกำหนดให้ตั้งสาขาพรรคและกำหนดให้สมาชิกพรรคเสียเงินค่าสมาชิก เราตั้งใจสู้ในระบบเพื่อให้เกิดความเปลี่ยนแปลงอย่างสันติที่สุด แม้ว่าจะใช้เวลาก็ตาม

"การทำพรรคการเมืองเราไม่ได้ขอนายทุนคนไหน จึงต้องกู้ เราระดมเงินทุนแทบตาย จะขายของออนไลน์ก็ไม่ให้ การหาสมาชิกพรรคสักคนเพื่อมาเลือกตัวแทนพรรคเพื่อส่งส.ส.ก็ไม่ง่าย แต่เราก็พยายามทำเพื่อให้ทุกคนเห็นถึงความตั้งใจ ถามว่าพวกคุณไม่อยากเห็นพรรคการเมืองแบบพรรคอนาคตใหม่เหรอ เรายืนยันเจตนาที่ดีในการสร้างพรรคการเมืองโปร่งใสตรวจสอบได้และสมาชิกพรรคมีส่วนร่วมและเป็นเจ้าของ"

"ขอบคุณประชาชนที่ยังคอยให้กำลังใจเราให้เดินหน้าและสู้ต่อไป สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นเพียงเศษหินในรองเท้าของพวกเราเท่านั้น หยุดเราไม่ได้ เราจะเดินหน้าต่อแม้เราจะมีอิสรภาพข้างนอกที่จำกัด แต่ยังมีคนกล้าหาญกว่าเราอีกจำนวนมาก เช่น อานนท์ หรือ รุ้ง ถ้าเรายอมแพ้แล้วจะมองหน้าคนเหล่านี้ได้อย่างไร คดีความต่างๆที่เกิดขึ้นกับเราจะหยุดเราไม่ได้ และจะไม่เป็นเงื่อนไขในการเจรจาเพื่อลดทอนข้อเรียกร้องของเรา เพราะเราต้องการสร้างประชาธิปไตยที่เท่าเทียมกันตามแนวทางของพรรคอนาคตใหม่และคณะก้าวหน้า" นายธนาธร กล่าว