ลุ้น ’ช้อปดีมีคืน’ งัดกำลังซื้อไอทีปลายปี

ลุ้น ’ช้อปดีมีคืน’ งัดกำลังซื้อไอทีปลายปี

“เออาร์ไอพี” ลุยจัดงานคอมมาร์ตดึงกำลังซื้อตลาดไอทีโค้งสุดท้ายของปี ลุ้นโครงการ “ช้อปดีมีคืน” ช่วยงัดกำลังซื้อ คาดชุมนุมทางการเมืองไม่ส่งผลกระทบมากนัก ตั้งเป้าเงินสะพัดไม่น้อยกว่า 2.8 พันล้านบาท คนตบเท้าเข้างาน 4.5 แสนคน

นายบุญเลิศ นราไท ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เออาร์ไอพี กล่าวว่า โค้งสุดท้ายของปีภาพรวมตลาดไอทีประเทศไทยมีแนวโน้มชะลอตัวลงกว่าช่วงหลังการคลายล็อกดาวน์ไตรมาสที่ 2 และไตรมาสที่ 3 ที่กำลังซื้อกลับมาเติบโตเพิ่มมากขึ้นอย่างมากจากที่อั้นมาสักพัก

อย่างไรก็ดี ยังมีปัจจัยบวกเช่นมาตรการ “ช้อปดีมีคืน” โดยภาครัฐซึ่งน่าจะมีส่วนสำคัญที่เข้ามาช่วยกระตุ้นกำลังซื้อ ทั้งจากกลุ่มผู้บริโภคที่มีแผนจะซื้อสินค้าไอทีอยู่ก่อนแล้ว และผู้ที่ไม่มีแผนจะซื้อมาก่อนแต่ต้องการใช้สิทธิดังกล่าว

ล่าสุด เออาร์ไอพี เตรียมจัดงานคอมมาร์ตส่งท้ายปี ระหว่างวันที่ 26-29 พ.ย. 2563 เวลา 10.00- 21.00 น. ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา ครั้งนี้ร่วมมือกับพันธมิตรแบรนด์ดังและผู้จัดจำหน่ายสินค้าชั้นนำ จัดทำโปรโมชั่นส่วนลด เครดิตเงินคืน ข้อเสนอพิเศษ โปรแกรมผ่อนสินค้า และของแถมเต็มที่ ทั้งจะมีสินค้าใหม่ๆ ที่น่าสนใจเข้ามาวางจำหน่ายจำนวนมาก

ขณะนี้ผู้ค้าต่างเตรียมความพร้อม พยายามปรับตัวโดยการจัดทำโปรโมชั่นที่น่าสนใจกันอย่างดุเดือด เพื่อทำให้สินค้าขายออกไปได้เร็วที่สุด ดังนั้นคาดว่าบรรยากาศการซื้อขายมีโอกาสคึกคักได้อย่างมาก

บริษัทตั้งเป้าไว้ว่า งานครั้งนี้จะมีเงินสะพัดไม่น้อยกว่า 2.8 พันล้านบาท คนสนใจเข้าร่วมงาน 4-4.5 แสนคน ทั้งจะมีส่วนที่ช่วยกระตุ้นให้อุตสาหกรรมไอทีประเทศไทยเติบโตได้มากขึ้น

“โค้งสุดท้ายของการจัดงานคอมมาร์ตในปีนี้ มีหลายปัจจัยที่ทำให้เราเชื่อว่างานจะเป็นไปตามที่คาดหวัง แม้ว่าสภาวะเศรษฐกิจจะชะลอตัวอยู่บ้าง แต่ภาครัฐก็พยายามออกมาตรการต่างๆ มาเพื่อกระตุ้นการบริโภคในประเทศ ซึ่งงานครั้งนี้อยู่ในช่วงการใช้สิทธิ์ซื้อสินค้าเพื่อลดหย่อนภาษีตามมารตการดังกล่าวพอดี”

เขากล่าวว่า ไอทีเป็นกลุ่มสินค้าที่อยู่ในความต้องการของผู้บริโภค จึงเป็นโอกาสของผู้ที่ต้องการซื้อสินค้าช่วงปลายปี ซึ่งเป็นไฮซีซั่นของการชอปปิง ผนวกกับสถานการณ์โดยทั่วไปในไทยมีทิศทางที่ดีมากขึ้น ทั้งการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ด้านประชาชนสามารถปรับตัวเข้ากับวิถีชีวิตแบบนิวนอร์มอลได้ดี

นายพรชัย จันทรศุภแสง ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อไอซีทีและการจัดงาน บมจ. เออาร์ไอพี กล่าวเสริมว่า การชุมนุมทางการเมืองอาจส่งผลต่อกำลังซื้ออยู่บ้างแต่คงไม่มากนัก ด้วยคนไทยสามารถปรับตัวได้เร็ว ผ่านสถานการณ์ลักษณะนี้มาหลายครั้ง ทั้งการชุมนุมครั้งนี้ไม่ได้ดูรุนแรง ไม่มีการค้างคืน และเลือกใช้สถานที่รวมตัวกันที่ไม่ได้ใกล้กับสถานที่จัดงาน

สำหรับงานครั้งที่ผ่านมาผู้ค้าปลีกไอทียอดนิยมที่ติดอันดับท็อป 5 ประกอบด้วย แอดไวซ์ บานาน่า เจไอบี ไอทีซิตี้ และสปีด ส่วนท็อป 5 แบรนด์คือ เอซุส เดลล์ เอชพี เลอโนโว และเอ็มเอสไอ ขณะที่สินค้าขายดี โน๊ตบุ๊ค 59% คอมพ์ดีไอวาย 29% อุปกรณ์เสริม 5% สมาร์ทโฟนและแท็บเล็ต 4% จอมอนิเตอร์ 3% ส่วนงานครั้งนี้คาดว่าอันดับสินค้าขายดีจะยังคงใกล้เคียงเดิม และที่มาแรงอย่างมากคือสมาร์ทโฟนและสินค้ากลุ่มอินเทอร์เน็ตออฟธิงส์(ไอโอที) แม้สภาวะเศรษฐกิจอาจส่งผลต่อกำลังซื้ออยู่บ้าง ทว่าด้วยโปรแกรมผ่อนสินค้าจะทำให้ผู้บริโภคไม่รู้สึกหนักจนเกินไป

ผลการสำรวจโดยศูนย์วิจัยกสิกรไทยระบุว่า มีผู้บริโภค 60% จะใช้สิทธิช้อปดีมีคืน ส่วนที่ไม่ใช้สิทธิมี 40% สินค้าและบริการยอดนิยม 3 อันดับแรก อายุ 18-30 ปี อุปกรณ์ไอที 47% รับประทานอาหาร 40% ของใช้ส่วนตัว 40% อายุ 31-50 ปี รับประทานอาหาร 51% อุปกรณ์ไอที 49% ของใช้ส่วนตัว 46%