ลงต่อ ปัจจัยภายนอกกดดันมากขึ้นอีก

ฝ่ายวิจัย KGI ประเมิน SET Index วันอังคารลดลงต่อ รับแรงกดดันจากปัจจัยภายนอกที่เป็นลบมากขึ้นอีก ขณะที่เมื่อวานนี้ตลาดหุ้นไทยเทรดไซด์เวย์ก่อนปิดลบไม่รุนแรง (ตามคาด)... ทั้งนี้ ตลาดหุ้นสหรัฐฯ และตลาดหุ้นยุโรปร่วงแรงเมื่อคืนนี้ ขณะที่ตลาดน้ำมันดิบปรับลงต่อเช่นกัน ตามปัจจัยลบได้แก่ i)
สถานการณ์ติดเชื้อ COVID-19 ทั่วโลกยังมีจำนวนเคสใหม่ใกล้ระดับสูงสุดตลอดกาล... มากกว่า 4 แสนคนต่อวัน ส่งผลให้ WHO แถลงว่าการล็อกดาวน์แบบเข้มข้นอาจมีความจำเป็น เพื่อควบคุมการติดเชื้อ ii) สภาคองเกรสสหรัฐฯ ยังคงไม่สามารถหาข้อสรุปของมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจมูลค่า 1.9-2.2 ล้าน
ล้านดอลลาร์ฯ ได้ และขณะนี้มีโอกาสน้อยลงๆ ที่จะเกิดข้อตกลงใดๆ ก่อนการเลือกตั้ง ปธน. สหรัฐฯ วันที่ 3 พ.ย. ทั้งนี้ วุฒิสภาสหรัฐฯ จะหยุดพักผ่อนในวันนี้ หลังจากลงมติเห็นชอบให้นาง Amy Barrett เป็นผู้พิพากษาสูงสุดคนใหม่... ด้านปัจจัยภายในประเทศนั้นการชุมนุมทางการเมืองเมื่อวานช่วงค่ำ ไม่มีความ
รุนแรงใดๆ เกิดขึ้น และนักลงทุนยังคงติดตามสถานการณ์การเมืองทั้งในสภาและนอกสภาต่อไป

หุ้นเด่นวันนี้ ตามปัจจัยพื้นฐาน 

เก็งกำไร KBANK*, TU*, EPG*

- KBANK* (เป้าพื้นฐาน 88 บาท) 1) ประเมินแนวรับ 73 บาท / แนวต้าน 76 บาท หากผ่านแนวต้านนี้ไปได้แนะนำ "Follow buy" ประเมินมีโอกาสรีบาวด์ทดสอบแนวต้านถัดไป 80 - 82 บาท ... MACD และ RSI ยกจุดต่ำขึ้นก่อนราคาหุ้น เริ่มส่งสัญญาณ Bullish divergence รอการ Breakout แนวต้าน
76 บาท (Stop loss 70 บาท) 2) จากประเด็นข่าวการเตรียมรายงานผล Stress test ช่วงปลายเดือนต.ค.นี้ ซึ่งเราคาดว่า KBANK* จะผ่าน Stress test ได้ ปลดล็อกเรื่องการจ่ายปันผล (เพิ่งเตรียมฐานทุนจากการออกหุ้นกู้ Perpetual bond) 3) PBV ต่ำเพียง 0.44 เท่า (ต่ำกว่า -2 เท่าของส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานของค่าเฉลี่ยในอดีตที่ 0.5 เท่าแล้ว)

- TU* (เป้า Consensus 16.8 บาท) 1) ประเมินแนวรับ 15.2 บาท / แนวต้าน 16.0 บาท และถัดไป 16.5 บาท (Stop loss 15 บาท) 2) Consensus ประเมินแนวโน้มผลการดำเนินงาน 3Q63 โต +31%YoY, +5% QoQ 3) ประเมินเป็นหุ้นเน้นธุรกิจส่งออกอาหาร ทำให้ความเสี่ยงจากปัจจัยการเมืองในประเทศและความเสี่ยงเรื่องเศรษฐกิจชะลอตัวตํ่า 4) PE ปี 2563 - 64 ยังไม่สูง 14 เท่า และ 13.5 เท่าตามลำดับ

- EPG* (เป้า Consensus 5.9 บาท) 1) ประเมินแนวรับ 4.76 บาท / แนวต้าน 4.9 บาท และถัดไปที่ 5.05 บาท (Stop loss 4.6 บาท) 2) Consensus คาดกำไร 2Q63/64 (ก.ค.-ก.ย.) ฟื้นตัว +137%QoQ จากการฟื้นตัวของธุรกิจชิ้นส่วนยานยนต์และบรรจุภัณฑ์ 3) ประเมินราคาหุ้น Laggard กลุ่มชิ้นส่วนยานยนต์ที่ปรับขึ้นสะท้อนการฟื้นตัวของยอดผลิตยานยนต์ไปพอสมควรแล้ว 4) PE ปี 2563/64 (ปิดงบ มี.ค.) และ 2564/65 (ปิดงบ มี.ค.) เท่ากับ 17.3 เท่าและ 14 เท่า ตามลำดับ(ค่าเฉลี่ย PE ระยะยาว 13.9 เท่า)

หุ้นมีข่าว

(+) GULF* เปิดไทม์ไลน์ไอพีพี ปี หน้าจ่ายไฟ 1,250 MW รุกคืบ'มาบตาพุดเฟส 3'เริ่มสร้างเม.ย.64 (ข่าวหุ้น) “กัลฟ์ ” กำหนดจ่ายไฟฟ้าไอพีพี 5,000 เมกะวัตต์ ตามแผน ประเดิมปีหน้าโรงไฟฟ้า GSRC ขนาด 2,500 เมกะวัตต์ กำหนดจ่าย มี.ค. 64 จำนวน 625 เมกะวัตต์ และ ก.ย. 64 จำนวน 625 เมกะวัตต์ต่อเนื่องปีถัดไป มี.ค. 65 จำนวน 625 เมกะวัตต์ และ ก.ย. 65 อีก 625 เมกะวัตต์ ส่วนโรงไฟฟ้า GPD ขนาด 2,500 เมกะวัตต์ เริ่มทยอยจ่ายไฟฟ้า มี.ค. 66-ก.ย. 67 พร้อมเดินหน้าพัฒนาท่าเรือมาบตาพุดระยะ 3 เริ่มก่อสร้าง เม.ย. 64

(+) BBL*-KBANK* ลุ้นรีบาวด์ ผลทดสอบวิกฤติผ่านแล้ว (ข่าวหุ้น) กลุ่มแบงก์ลุ้นรีบาวด์ BBL*-KBANK*-TISCO* แกร่งสุด หลังผลการทดสอบภาวะวิกฤติ (Stress test) เสร็จแล้ววานนี้รอแบงก์ชาติแถลงเป็นทางการ 1-2 วันนี้ เผย BBL* และ KBANK* เงินกองทุนสูงลิ่วหลังออกหุ้นกู้ชั่วนิรันดร์ ขณะที่ TISCO* มี Coverage ratio 196% สูงที่สุดในกลุ่มแบงก์ ราคาเป้าหมาย 84 บาท

(+) ปลัดคลังยัน 'คนละครึ่ง' ไม่ฝืด (ไทยโพสต์) ลงทะเบียนฉลุยโว 3 วันใช้กระฉูดเกิน 500 ล้าน "คลัง" ยันคนละครึ่งไม่ฝืด ฟุ้ง 3 วันใช้จ่าย 500 ล้านบาท มั่นใจยอดลงทะเบียนฉลุยตามเป้าหมายที่ 10 ล้านคนแนะประชาชนพิจารณาให้รอบคอบ ถ้าไม่ถูกใจให้เลือกใช้ช้อปดีมีคืนได้

(+) INTUCH* มีลุ้นดีลใหญ่ อีลอนมัสก์คุย THCOM (ทันหุ้น) INTUCH* มีลุ้นอานิสงส์ดีลใหญ่ รับกลุ่ม SpaceX ของ "อีลอน มัสก์" เจรจา THCOM เดินหน้าผนึกร่วมโครงการไฮสปีดอินเทอร์เน็ตผ่านดาวเทียม Starlink ดันอนาคต THCOM เริ่มสดใส ขณะที่ INTUCH* เตรียมปิดดีล VC อีก 2-3 ดีล เงินสดเต็มมือ 2 พันล้านบาท โบรกมอง Q3 กำไร 2.55 พันล้านบาท ปันผล 5% เป้า 74 บาท

(+) WHAUP* เซ็นสัญญา GPSC* ขายนํ้าไร้แร่มูลค่า 1 พันล้านบาท (ผู้จัดการรายวัน 360 องศา) ดับบลิวเอชเอ ยูทิลิตี้ส์ แอนด์ พาวเวอร์ เดินหน้าให้บริการน้ำปราศจากแร่ธาตุ และน้ำอุตสาหกรรม ล่าสุดได้ลงนามสัญญาซื้อขายน้ำปราศจากแร่ธาตุ กับ "โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่" เฟส 2 อีก 1.6 ล้าน
ลูกบาศก์เมตรต่อปี เพิ่มจากเฟสแรกกว่า 1 เท่าตัว มูลค่าตามสัญญา 1,000 ล้านบาท เริ่มให้บริการเชิงพาณิชย์ธันวาคม 2563 เป็นต้นไป

(+) DOD วางเป้าเบอร์หนึ่งเมืองไทยผลิต "โพรไบโอติกส์"กระตุ้นยอดขาย (ผู้จัดการรายวัน 360 องศา) ดีโอดี ไบโอเทค ตั้งเป้าก้าวสู่การเป็นผู้นำเบอร์หนึ่ง ในการผลิตผลิตภัณฑ์เสริมอาหารกลุ่ม โพรไบโอติกส์ ในรูปแบบเชื้อจุลินทรีย์ที่มีชีวิตพร้อมทำงาน (Active) แห่งแรกในไทย โดยจุลินทรีย์ได้รับการรับรองจากสถาบันวิจัยระดับโลก ล่าสุดปิดดีลออเดอร์ OEM ลูกค้ารายใหญ่ 2-3 รายแล้วคาดมีรายได้ 100 ล้านบาทต่อปี