จิตวิทยาการลงทุนกลับเป็นลบหลังหัวข้ออภิปรายไม่มีประเด็นหาทางออกการชุมนุม

จิตวิทยาการลงทุนกลับเป็นลบหลังหัวข้ออภิปรายไม่มีประเด็นหาทางออกการชุมนุม

การเปิดสภาสมัยวิสามัญอาจกลายเป็นปัจจัยที่กลับมากดดันตลาด

หลังข้อหารือของรัฐบาล 3 ข้อ ไม่มีประเด็นที่ตอบโจทย์ของผู้ชุมนุมและอาจกลายเป็นการอภิปรายโจมตีการชุมนุมเป็นหลัก ทำให้การเปิดสภาวันนี้จะไม่ใช่ทางออกของการแก้ปัญหาที่เราคาดหวังได้ และกลายเป็จปัจจัยลบต่อตลาดเมื่อกลไกสภา ไม่อาจแก้ปัญหาสำคัญได้ โดยมีหัวข้ออภิปรายที่รัฐกำหนด ได้แก่ 1) ความเสี่ยงของโควิดจากการชุมนุม 2) การขวางและหยุดขบวนเสด็จ 3) การชุมนุมที่ผิดกฎหมายและละเมิดเบื้องสูง

ผลกระทบท่อก๊าซระเบิดต่อ TIP และ THRE จากเหตุการณ์ท่อก๊าซของปตท. บริเวณอำเภอบางบ่อ จ.สมุทรปราการ เกิดระเบิดขึ้น มีผู้เสียชีวิต 3 ราย บาดเจ็บ 66 ราย เมื่อ 22 ต.ค.ที่ผ่านมา 1) ทิพยประกันภัย (TIP) เป็นผู้รับประกันภัยดังกล่าววงเงิน 90 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 3 พันล้านบาท) ซึ่งปกติบริษัทจะส่งต่อความเสี่ยงผ่านการรับประกันภัยต่อ และมีการรับความเสี่ยงไว้เองต่ำกว่า 10% เราประเมินผลกระทบกรณีเลวร้าย ความเสี่ยงของการจ่ายสินไหมน่าจะอยู่ที่ 5-8% ของทุนประกัน หรือ 150-240 ล้านบาท หรือคิดเป็น 8.0-12.9% ของกำไรปี 2562 (กำไร 6 เดือนปี 63 อยู่ที่ 1,052 ล้านบาท +10.4% YoY) คิดเป็นผลกระทบต่องบการเงินในระดับปานกลาง ขณะที่หุ้นซื้อขายที่ PER 7.37x ดังนั้นเรามองการปรับลงเป็นโอกาสทยอยสะสม 2) ไทยรับประกันภัยต่อ (THRE) คาดว่าจะไม่มีผลกระทบ เนื่องจากบริษัทมีนโยบายไม่รับเสี่ยงภัย (decline risk) ที่เกี่ยวกับธุรกิจปิโตรเลียม ทำให้เราประเมินบริษัทไม่มีความเสี่ยงค่าใช้จ่ายสินไหม

เลือกลงทุนรายตัว เน้นหุ้นปลอดภัย ระวังกลุ่มท่องเที่ยว ได้แก่ CPF, TU, TIP, THRE, ADVANC, INTUCH, DIF, JASIF, SUPEREIF, BTSGIF, BCH, CHG, WHAUP, EASTW, SUPER, SSP ขณะที่ระวังกลุ่มท่องเที่ยว หลังตัวเลขอัตราเข้าพักก.ย.ออกมาที่ 34.32% (ส.ค.ที่ 31.65%) แต่รายได้จากการท่องเที่ยว ลดลงเหลือเพียง 7.63 หมื่นลบ. (ส.ค.ที่ 8.65 หมื่นลบ.) ทำให้หุ้นกลุ่มท่องเที่ยวโดยเฉพาะโรงแรมคาดจะยังมีผลขาดทุนอีกนาน ขณะที่ภาระหนี้จะสร้างแรงกดดันต่อโอกาสเพิ่มทุน โดยตลาดจะประเมินสิ่งนี้จากงบไตรมาส 3/63

ภาพรวมกลยุทธ์ คาด SET เคลื่อนไหวในกรอบจำกัด รวมถึงอาจซึมลงจากผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ ที่ปรับขึ้นและปัจจัยการเมืองในประเทศ ประเมิน downside ที่ 1180-1200 จุด โดยยังระวังการขายทำกำไรหุ้นกลางเล็กและกลับเข้าหุ้นใหญ่ หลังเริ่มเห็นการปรับเพิ่มประมาณการกำไรบจ. // หุ้นแนะนำวันนี้ เก็งกำไร WHAUP*, EASTW*, SPALI*

แนวรับ 1,180-1,200 จุด / แนวต้าน : 1,220-1,227 จุด สัดส่วน : เงินสด 60% : พอร์ตหุ้น 40%

ประเด็นการลงทุน

US PMI ทำจุดสูงสุดในรอบ 20 เดือน ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อรวม (PMI) เดือน ต.ค. ปรับขึ้นสู่ระดับ 55.5 สูงสุดในรอบ 20 เดือน

EU PMI ต่ำสุดในรอบ 4 เดือน ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อของยูโรโซน(PMI) เดือน ต.ค. อยู่ที่ระดับ 49.4 ต่ำสุดในรอบ 4 เดือน โดยลดลงจากระดับ 50.4 ในเดือน ก.ย.

ตัวเลขส่งออกไทยก.ย.หดตัว -3.86%นำเข้าหดตัว -9.08% ส่งผลให้ดุลการค้าเกินดุล $2.23 พันล้าน ขณะที่ ตัวเลขส่งออก-นำเข้า ในช่วง 9 เดือนแรก (ม.ค.-ก.ย.) อยู่ที่ -7.33% และ -14.64% ตามลำดับ

ธปท.หนุนปรับโครงสร้างบรรเทาภาระหนี้ครัวเรือน ธปท. เผยสัดส่วนหนี้ครัวเรือนไทย ไตรมาส 2/63 อยู่ที่ 83.8% ต่อ GDP หรือ 13.58 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้นจากสิ้นปี 62 ซึ่งอยู่ที่ 80% ต่อ GDP และมีแนวโน้มสูงขึ้นต่อ

ICHIก.ล.ต.สั่งปรับผู้บริหารของอิชิตันและผู้เกี่ยวข้องรวม 33 ล้านบาท หลังพบข้อมูลเกี่ยวกับการใช้ประโยชน์จากข้อมูลภายใน ช่วง ม.ค.-ก.พ.60 และมีการขายหุ้นออกไป ก่อนการรายงานตัวเลขผลขาดทุนจำนวนมาก

SPALI ยื่นตั้งกองทรัสต์ SPALIRT มูลค่า 3,200 ลบ. ต่อสำนักงานก.ล.ต.

ประเด็นติดตาม: 27 ต.ค. – US consumer confidence เดือน ต.ค., 28 ต.ค. – TH industrial production เดือน ก.ย., 29 ต.ค. – BOJ meeting, ECB meeting / US GDP 3Q63 / US initial jobless claims, 30 ต.ค. – EU GDP 3Q63

(* หมายถึง หุ้นทางกลยุทธ์ ซึ่งอาจมีคำแนะนำต่างกับพื้นฐาน หรือที่ไม่ ได้อยู่ในการวิเคราะห์ของ UOBKH ซึ่งนักลงทุนควรพิจารณาตั้งจุดตัดขาดทุน 3-5% ของราคาที่เข้าซื้อ)