ตรึงชายแดน หลังเมียนมาประกาศ วีซ่าต่างชาติหมดอายุร่วม 2 พันคน

ตรึงชายแดน หลังเมียนมาประกาศ วีซ่าต่างชาติหมดอายุร่วม 2 พันคน

ตาก-ชาวจีน และต่างชาติในเขตอิทธิพลทหารพลกะเหรี่ยง ตื่นหลังทำเนียบประธานาธิบดีพม่าประกาศ มีชาวจีนมากสุด 1,914 คน หนังสือเดินทาง และวีซ่าหมดอายุ จ่อหนีเข้ามาในไทยเพิ่มอีก

เมื่อวันที่ 26 ตุลาคม 63 เจ้าหน้าที่รัฐบาลท้องถิ่นเมียนมา ในจังหวัดเมียวดี รัฐกะเหรี่ยง ประเทศสารณรัฐสหภาพเมียนมา ตรงข้าม อ.แม่สอด จ.ตาก แจ้งว่า ชาวจีนที่ลงทุน และทำงานในพื้นที่เขตอิทธิพลของชนกลุ่มน้อยกะเหรี่ยงชายแดนไทย-เมียนมาด้าน จ.ตาก กำลังวิตกกับการที่จะถูกจับกุม และพยายามที่จะหนีข้ามแม่น้ำเมยเข้ามาเขตไทย หลังจากที่นายอูซ่อ เท โฆษกทำเนียบประธานาธิบดี สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาแจ้งข่าว ชาวต่างชาติที่ทำหนังสือเดินทางขอวีซ่าเข้าประเทศเมียนมาไปอยู่ในพื้นที่อิทธิพลของกะเหรี่ยงบีจีเอฟ.เคเอ็นยู. และกะเหรี่ยงดีเคบีเอ. หนังสือเดินทาง และวีซ่าหมดอายุแล้ว จำแนกเป็นชาติต่างๆดังนี้คือ ชาวจีน 1,914 คน ชาวเวียดนาม 34 คน ลาว 2 คน มาเลย์เซีย 8 คน ไต้หวัน 2 คน กันพูชา 2 คน ฟิลิปปินส์ 4 คน ออสเตรเลีย 1 คน

ล่าสุด ได้ติดต่อนายหน้าคนไทย หรือ ผู้มีอิทธิพลนำพาเข้ามาในประเทศไทยตามแนวชายแดน เช่นกรณีชาวจีน 3 คน ที่ถูกเจ้าหน้าที่ทหารด้าน อ.แม่สอด จับได้ 3 คน พร้อมเงินสด 8 ล้านบาท ก็เป็นกลุ่มที่อยู่ในเมียนมาผิดกฏหมาย เนื่องจากหนังสือเดินทาง และวีซ่าหมดอายุแล้ว

สำหรับพื้นที่ชาวจีนที่อาศัยอยู่ตามแนวชายแดนไทย-เมียนมา ด้านจังหวัดตาก อยู่ตรงข้าม อ.แม่ระมาด อ.แม่สอด อ.พบพระ และไปลงทุนสร้างที่อยู่อาศัย สถานบันเทิง โรงแรมขนาดใหญ่ คอนโด ที่พักต่างๆ และบ่อนการพนัน รวมงบประมาณที่ไปลงทุนนับ 1 แสนล้านบาท โดยใช้พื้นที่ของชนกลุ่มน้อยกะเหรี่ยงติดอาวุธบีจีเอฟ.เคเอ็นยู. และกะเหรี่ยงดีเคบีเอ. เพื่อให้การดูแล และคุ้มครอง

ด้านทหารจากกองกำลังนเรศวร และหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 4 อ.แม่สอด ได้ตรึงแนวชายแดนเพิ่มมากขึ้น และได้เน้นพื้นที่ ที่ชาวจีนอาศัยอยู่ฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน ตลอดแนวชายแดน ทั้งนี้เพื่อสนับสนุนหน่วยงานด้านสาธารณสุขในช่วงสถานการณ์การระบาดของโรคไวรัสโควิด-19

สำหรับสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด-19 ในประเทศเมียนมา ล่าสุดเมื่อวันที่ 25 ตุลาคม 2563 มีผู้ป่วยเพิ่มขึ้น 986 ราย ยอดสะสม 44,774 คน เสียชีวิตเพิ่ม 29 ราย ยอดสะสม 1,095 ราย