ริมถนนนักลงทุน เสิร์ฟความเคลื่อนไหวแวดวงตลาดหุ้น ตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา หนึ่งความเคลื่อนไหวน่าสนใจ ยกให้ ‘การคืนชีพของกลุ่มยานยนต์’ ขานรับยอดผลิตรถยนต์ในบ้านสูงสุดในรอบ 7 เดือน ! สอดรับตลาดยุโรปและจีนฟื้นเช่นกัน...
๐‘อุตสาหกรรมยานยนต์’ คืนชีพ ‘จริง’ หรือ ‘ตื่นตูม’ ไม่รู้แน่ชัด แต่ที่ชัวร์คือ ยอดผลิตรถยนต์ในไทยฟื้นสูงสุด ‘ในรอบ 7 เดือน’ มาอยู่ที่ 150,345 คัน จาก 117,253 คัน ในเดือนก.ย. เติบโต 28.22% รวมทั้ง ‘กลุ่มยานยนต์’ ที่ได้รับผลดีจากการฟื้นตัวของตลาดยุโรปและจีนอีกด้วย สอดคล้องกับกระทรวงพาณิชย์ เผยส่งออกเดือน ก.ย. ที่ผ่านมา ‘ติดลบ’ เหลือแค่ 3.86% ฟื้นตัว 3 เดือนติด ส่วนนำเข้าติดลบ 9.08% !
๐ แว่วๆ มาว่า ‘หุ้น เจ.อาร์.ดับเบิ้ลยู. ยูทิลิตี้ หรือ JR ผู้ให้บริการงานวิศวกรรมที่สามารถให้บริการทั้งงานระบบไฟฟ้า ระบบสื่อสารโทรคมนาคม และเทคโนโลยีสารสนเทศ หุ้นน้องใหม่ไอพีโอ ‘ฮอตฮิต’ สุดๆ ในกลุ่มนักลงทุนรายใหญ่ และนักลงทุนสถาบัน ล่าสุดไปให้ข้อมูล (โรดโชว์) ที่หาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ผู้ก่อตั้ง ‘พี่ใหญ่-จรัญ วิวัฒน์เจษฎาวุฒิ’ เกือบตกเครื่อง ! หลังนักลงทุนรายใหญ่ล้อมวงสอบถามข้อมูลอย่างเมามันส์แบบไม่กระจ่างไม่ให้กลับ ! แหม... หากเลขาไม่มาสะกิดถึง 2 รอบ วันนั้นอาจจะตกเครื่องแน่นอน
๐ ความฮอตฮิตของ ‘หุ้น JR’ ยังไม่หมดแว่วๆ มาว่า มีนักลงทุนสถาบันทั้งในและต่างประเทศกว่า ‘21 กองทุน’ จับจองมาฟังข้อมูลจาก ‘ผู้ถือหุ้นใหญ่’ แน่นมาก ได้ทำความรู้จัก และสร้างความเข้าใจลักษณะของการดำเนินธุรกิจของ JR มากยิ่งขึ้น รวมถึงแผนงานอนาคต และความสามารถในการเติบโต ซึ่งจะช่วยเพิ่มความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุน ก่อนทำการเสนอขายหุ้น IPO จำนวน 200 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) หุ้นละ 0.50 บาท และคาดว่าจะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ได้เดือน พ.ย. นี้
๐ ปี 2563 ถือเป็นปีที่มี ‘หุ้นไอพีโอขนาดใหญ่’ เข้าระดมทุนหลายตัว และล่าสุด หุ้น เอสซีจี แพคเกจจิ้ง หรือ SCGP ของบริษัทในเครือ บมจ. ปูนซิเมนต์ไทย หรือ SCC ถือหุ้นใหญ่ สัดส่วน 68.81% โดยเข้าซื้อขายวันแรก (22 ต.ค.) อยู่ที่ 37 บาทต่อหุ้น เพิ่มขึ้น 5.71% เหนือราคาไอพีโอ 35 บาทต่อหุ้น ราคา ‘สูงสุด’ (New High) 37.25 บาท ‘ต่ำสุด’ (New Low) 35 บาท ! ก่อนจะมาปิดตลาดที่ 35 บาทต่อหุ้น
๐ ฟาก ‘กูรู’ อย่าง บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส มองว่า Fair Value ปีหน้าไว้ที่ 41 บาท โดย ‘หุ้น SCGP’ มีความน่าสนใจ เพราะคาดธุรกิจและกำไรในปีหน้าฟื้นตัวจากฐานปีนี้ต่ำ จากผลกระทบจากโควิด-19 และประเมินว่าจะมีการเติบโตต่อเนื่องในระยะยาว จากความต้องการบรรจุภัณฑ์ที่เพิ่มขึ้นตามกระแส e-commerce ที่เติบโตอย่างรวดเร็ว รวมถึงความต้องการบรรจุภัณฑ์รวมที่ขยายตัวตามเศรษฐกิจ, โอกาสขยายตัวที่มีอีกมากของความต้องการใช้บรรจุภัณฑ์พลาสติกในภูมิภาคอาเซียน
๐ เตรียมเข้าซื้อขายวันแรก 29 ต.ค.นี้ สำหรับ บมจ. ชริ้งเฟล็กซ์ (ประเทศไทย) หรือ SFT ในราคาหุ้นละ 3.80 บาท ‘ซุง ชง ทอย’ นายใหญ่ SFT แอบกระซิบว่า หลังสำรวจ ‘ความต้องการซื้อ’ (Book Building) ของนักลงทุนสถาบันพบว่า นักลงทุนสถาบันได้แสดงความต้องการซื้อหุ้น SFT เข้ามากันอย่างล้นหลาม ! สะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อมั่นในศักยภาพการดำเนินธุรกิจของ SFT และ โอกาสการเติบโตในอนาคต
๐ ‘นายใหญ่SFT’ ยืนยันธุรกิจของเราเกี่ยวข้องกับอาหาร และ เครื่องดื่ม ที่ไม่ว่าจะเกิดสถานการณ์อะไรเกิดขึ้น ก็ยังมีความต้องการ และ ในช่วงที่ผ่านมาจากการแพร่ระบาดโควิด-19 ส่งผลให้ความต้องการผลิตภัณฑ์เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งประเทศไทยถือว่าเป็นครัวกลางของโลก โดยปัจจุบันมีคำสั่งซื้อล่วงหน้าไปแล้วจนถึงปลายปีนี้ และ มีคำสั่งซื้อบางส่วนยาวไปถึงช่วงต้นปี 2564 แล้ว จึงเชื่อว่าผลประกอบการจะเติบโตอย่างต่อเนื่องในช่วงที่เหลือของปีนี้อย่างแน่นอน !