‘โมเดอร์นา’ ลุ้นได้ไฟเขียววัคซีนเร็วสุด พ.ย.-ธ.ค.

โมเดอร์นา ซึ่งตั้งอยู่ที่เมืองเคมบริดจ์ รัฐแมสซาชูเซตส์ ระบุว่า ได้ดำเนินการลงทะเบียนผู้เข้าร่วมการทดลองทั้งสิ้น 30,000 คนอย่างเป็นทางการ สำหรับการทดลองระยะที่ 3 ซึ่งจะมีการฉีดวัคซีนจำนวน 2 เข็ม และผู้เข้าร่วมทั้ง 30,000 คน ได้รับการฉีดวัคซีนเข็มแรกแล้ว ขณะนี้มีผู้ที่ได้รับการฉีดวัคซีนเข็มที่สองแล้ว 25,654 คน

เมื่อทุกคนได้รับการฉีดวัคซีนครั้งที่สองแล้ว บริษัทฯ จะใช้เวลาในการประเมินความปลอดภัย หากมีผลดีมากกว่าความเสี่ยง บริษัทฯ จะยื่นขออนุญาตกับสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาแห่งสหรัฐฯ (เอฟดีเอ) เพื่อใช้งานวัคซีนนี้ในกรณีฉุกเฉิน

ปัจจุบัน วัคซีน mRNA-1273 ของบริษัทฯ อยู่ระหว่างการทดสอบในศูนย์วิจัยทางคลินิกในสหรัฐ ประมาณ 89 แห่ง

สถาบันสุขภาพแห่งชาติสหรัฐฯ (เอ็นไอเอช) ระบุว่าการทดลองครั้งนี้ได้รับการออกแบบมาเพื่อประเมินความปลอดภัยของวัคซีนดังกล่าวและตรวจสอบว่าวัคซีนนี้สามารถป้องกันโรคโควิด -19 ที่แสดงอาการได้หรือไม่หลังได้รับวัคซีน 2 ครั้ง ส่วนเป้าหมายรองนั้น มีจุดมุ่งหมายเพื่อศึกษาว่าวัคซีนสามารถป้องกันการติดเชื้อโรคโควิด-19 ที่รุนแรง หรือการติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ที่ได้รับการยืนยันในห้องปฏิบัติการทั้งที่แสดงหรือไม่แสดงอาการของโรคได้หรือไม่

เอ็นไอเอช ระบุว่า การทดลองครั้งนี้ยังพยายามหาคำตอบว่าวัคซีนรายการนี้สามารถป้องกันการเสียชีวิตที่เกิดจาก โรคโควิด-19 ได้หรือไม่ และการให้ยาเพียงโดสเดียวสามารถป้องกันโรคโควิด-19 ที่แสดงอาการได้หรือไม่ รวมถึงยังมีวัตถุประสงค์อื่นๆ ด้วย

โมเดอร์นาเป็นหนึ่งในผู้ที่ทำการทดลองวัคซีนโรคโควิด-19 ระยะที่ 3 จากทั้งหมดที่มีอยู่ 4 รายการทดลองของสหรัฐฯ ซึ่งแต่ละการทดลองล้วนมีผู้เข้าร่วมหลายหมื่นคน

โมเดอร์นา และ ไฟเซอร์ บริษัทเภสัชกรรมอีกแห่ง เริ่มการทดลองระยะที่ 3 เมื่อวันที่ 27 ก.ค. ส่วนบริษัท แอสตราเซเนกา เริ่มการทดลองในสหรัฐฯ เมื่อวันที่ 31 ส.ค. ก่อนระงับการทดลองชั่วคราว 1 สัปดาห์ หลังพบผู้เข้าร่วมทดลองล้มป่วย

ด้านบริษัทจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน (เจแอนด์เจ) เริ่มการทดลองเมื่อวันที่ 23 ก.ย. ก่อนระงับชั่วคราวหลังจากเริ่มไปเพียงไม่ถึง 3 สัปดาห์ด้วยเหตุผลเดียวกัน โดยการทดลองทั้งสองที่ถูกระงับไว้ยังคงสามารถเดินหน้าต่อไปได้

มอนเซฟ สเลา หัวหน้าฝ่ายวิทยาศาสตร์ของโอเปอเรชัน วาร์ป สปีด (Operation Warp Speed) ซึ่งเป็นโครงการของทำเนียบขาวที่ออกแบบมาเพื่อลดระยะเวลาในการพัฒนาวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ระบุเมื่อวันพุธที่ผ่านมา (21 ต.ค.) ว่าโมเดอร์นาและไฟเซอร์มีแนวโน้มที่จะเป็นบริษัทแรกๆ ที่จะยื่นขออนุมัติการใช้งานวัคซีนในกรณีฉุกเฉินจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาแห่งสหรัฐฯ ซึ่งเร็วที่สุดอาจเกิดขึ้นในเดือนพฤศจิกายนหรือธันวาคม

สเลา ระบุว่า หากมีวัคซีนได้รับการอนุมัติก่อนสิ้นปีนี้ จะมีการสำรองวัคซีนไว้ราว 20-40 ล้านโดส และพร้อมสำหรับการแจกจ่ายแก่ประชาชนในจำนวนจำกัด