สรรพากรคาดภาษีค้าออนไลน์พุ่ง

สรรพากรคาดภาษีค้าออนไลน์พุ่ง

อธิบดีสรรพากรประเมินกฎหมายอีคอมเมิร์สจะมีผลบังคับใช้ปีงบ64 คาดทำรายได้เพิ่ม​ 5 พันล้านบาท ระบุ ผลพวงจากโควิด-19​ทำการค้าออนไลน์พุ่ง​ ขณะที่​ มาตรการรัฐทำรายได้สูญกว่า​ 1 แสนล้านบาท

นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ อธิบดีกรมสรรพากรประเมินว่า กฎหมายอีคอมเมิร์สจะมีผลบังคับใช้ในปีงบประมาณ 2564 นี้ โดยขณะนี้ กฎหมายดังกล่าวอยู่ระหว่างการพิจารณาในชั้นคณะกรรมาธิการในวาระสุดท้าย โดยหลังกฎหมายผ่านสภาผู้แทนราษฎรแล้ว จะมีผลบังคับใช้ภายใน 180 วัน

เขากล่าวว่า เมื่อกฎหมายดังกล่าวมีผลบังคับใช้แล้ว ผู้ประกอบการต่างประเทศที่ให้บริการธุรกิจในไทย เมื่อมีรายได้เกิน 1.8 ล้านบาทต่อปี จะต้องยื่นจดทะเบียนเสียภาษีมูลค่าเพิ่มต่อกรมสรรพากร โดยเงื่อนไขดังกล่าว จะเป็นเงื่อนไขเดียวกันกับผู้ประกอบการในประเทศ

“กฎหมายดังกล่าวจะสร้างความเป็นธรรมให้กับผู้ประกอบการในประเทศ เพราะปัจจุบันผู้ประกอบการไทยเมื่อมีรายได้เกิน 1.8 ล้านบาทต่อปี เขาต้องจดทะเบียนเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม ขณะที่ ผู้ประกอบการต่างประเทศที่ให้บริการในประเทศไม่ต้องเสียภาษี ดังนั้น เมื่อกฎหมายมีผลบังคับใช้ เขาก็ต้องยื่นจดทะเบียนเช่นเดียวกัน”

เขาคาดว่า เมื่อกฎหมายนี้มีผลบังคับใช้ จะทำให้กรมฯมีรายได้ราว 5 พันล้านบาท เพิ่มจากคาดการณ์เดิมว่า จะมีรายได้ราว 3 พันล้านบาท ส่วนหนึ่งเป็นผลจากการจับจ่ายใช้สอยในช่วงที่เกิดโควิด-19 ซึ่งประชาชนหันมาซื้อสินค้าผ่านระบบออนไลน์มากขึ้น

สำหรับภาพรวมการจัดเก็บรายได้ในปีงบประมาณ 2564 นั้น เขากล่าวว่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ยังยืนเป้าหมายการจัดเก็บของกรมฯไว้ที่ 2.08 ล้านล้านบาท อย่างไรก็ดี เราประเมินว่า การจัดเก็บรายได้ของกรมฯจะต่ำเป้าหมายกว่า 1 แสนล้านบาท ซึ่งเป็นผลกระทบจากการออกมาตรการช่วยเหลือประชาชนในช่วงโควิด-19

ทั้งนี้​ กรมสรรพากรได้ร่วมมือกับธนาคารพัฒนาเอเชีย(ADB) ในการพัฒนานวัตกรรมการให้ความรู้ทางภาษีในรูปแบบดิจิทัล เพื่อให้ผู้ประกอบการ โดยเฉพาะเอสเอ็มอีและผู้ประกอบการรายใหม่ สามารถเข้าถึงความรู้ด้านภาษีขั้นพื้นฐาน ผ่านสื่อดิจิทัลที่รวดเร็ว และสะดวกมากขึ้น เนื่องจาก​ ปัจจุบันตลาดซื้อขายสินค้าออนไลน์ขยายตัวเพิ่มมากขึ้น ผู้ประกอบการจำเป็นจะต้องเข้าใจเรื่องภาษีเพื่อชำระภาษีอย่างถูกต้องในอนาคต

สำหรับนวัตกรรมการให้ความรู้ทางภาษีในรูปแบบดิจิทัลนั้น จะแบ่งออกเป็น 3 ส่วน คือ​ การทดลองเล่น ที่จะเน้นการทดลองวางแผนภาษีสำหรับการประกอบธุรกิจผ่านคำตอบในผลิตภัณฑ์การให้ความรู้ภาษี การเรียนรู้ ที่จะให้ข้อมูลเปรียบเทียบระหว่างการเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาและนิติบุคคล หรือระหว่างการเสียภาษีมูลค่าเพิ่มหรือไม่เสีย ด้านใดดีกว่ากัน และการสร้างความเข้าใจ เพื่อให้สามารถบริหารเงินสดในมือให้ดีขึ้น พร้อมตัวอย่างการวางแผนภาษีในอนาคต

เขายังกล่าวถึงสถานการณ์การชุมนุมที่เกิดขึ้นทำให้บางธุรกิจต้องปิดการให้บริการเร็วกว่ากำหนด จะกระทบต่อการจัดเก็บรายได้ของกรมฯหรือไม่ เขากล่าวว่า ขณะนี้ ยังไม่ได้รับผลกระทบ เพราะยังอยู่ในช่วงของการชุมนุม