"สมุนไพร-ธรรมชาติบำบัด"เทรนด์สุขภาพมาแรง

"สมุนไพร-ธรรมชาติบำบัด"เทรนด์สุขภาพมาแรง

เผย 4 เทรนด์ Wellness ยุค New normal เน้นโภชนาการเฉพาะบุคคล การใช้สมุนไพรและธรรมชาติบำบัด ดูแลจิตใจ และสังคมผู้สูงอายุ คาดเปิดประเทศลูกค้าต่างชาติเพิ่มขึ้น20-30% แนะทุกภาคส่วนปรับตัวพัฒนาบุคลากร เพิ่มแพทย์ Wellness

ด้วยสถานการณ์โควิด-19 ส่งผลให้หลายประเทศปิด ประเทศ ไม่อนุญาตให้ผู้คนเดินทางเข้าออก ซึ่งกระทบต่อเศรษฐกิจ การท่องเที่ยว รวมถึงการบริการต่างๆ โดยเฉพาะตลาด Wellness หรือเทรนด์การสร้างสมดุลความสุขชีวิตทุกด้าน ที่มีกลุ่มลูกค้าทั้งในและต่างประเทศ พบว่า หลังเกิดโควิด-19 กลุ่มลูกค้าต่างประเทศลดน้อยลงเหลือเพียง10% จากเดิมที่มีถึง 30%

ลูกค้าชาวต่างชาติเหลือเพียง 10%

นพ.พิจักษณ์ วงศ์วิศิษฎ์ ผู้อำนวยการ ศูนย์ดูแลสุขภาพแบบองค์รวม W9 Wellness Center โรงพยาบาลพระราม9 กล่าวว่าก่อนหน้าที่จะเกิดสถานการณ์โควิด-19 ต้องยอมรับว่าเทรนด์ Wellness  ได้รับความนิยมอย่างมาก  โดยตลอดระยะเวลา 1 ปี ที่ผ่านมา (.. 2562-.. 2563) ที่ W9 ได้เปิดดำเนินการ มีลูกค้ามาใช้บริการประมาณ 600-700 ราย ทั้งในส่วนของลูกค้าของโรงพยาบาลพระราม 9 และลูกค้าที่ติดต่อมาในช่องทางออนไลน์ แบ่งเป็น สัดส่วนลูกค้าคนไทย 70% และลูกค้าชาวต่างประเทศ 30% (ชาวเมียนมา และชาวจีน) โดยในจำนวนดังกล่าวมีอายุเฉลี่ย 30 ปี แต่เมื่อเกิดโควิด-19 ลูกค้าชาวต่างประเทศ เหลือเพียง 10% เพราะหลายๆ ประเทศมีการปิดตัว แต่เชื่อว่าเมื่อเปิดประเทศทุกอย่างจะกลับมาเพิ่มเป็น 20-30%

"ตอนนี้ทาง W9 Wellness Center ศูนย์ดูแลสุขภาพแบบองค์รวมได้มีการปรับตัว โดยนอกจากจะใช้เทคโนโลยีออนไลน์ในการติดต่อกับลูกค้าชาวต่างประเทศเพื่อให้บริการแล้ว ยังมุ่งสร้างความร่วมมือกับทุกภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็น ภาครัฐหรือเอกชน ธุรกิจโรงแรม สปาต่างๆ เพื่อจัดทำแพจเกตการให้บริการแบบ Wellness  ที่จะทำให้ลูกค้าได้รับการดูแลสุขภาพทั้งทางร่างกายและจิตใจ รวมถึงเป็นการเพิ่มยอดลูกค้าชาวไทยด้วย เนื่องจากเมื่อมีการปิดประเทศ ก็ต้องส่งเสริมให้ลูกค้าชาวไทยหันมาดูแลสุขภาพ Wellness  มากขึ้น โดยก่อนหน้านี้ รพ.พระราม 9 มีลูกค้าชาวไทยประมาณ 70% แต่เกิดโควิด-19 มีเพิ่มขึ้นเป็น 90 % ถือเป็นโอกาสในการสร้างสุขภาพดีให้แก่คนไทยมากขึ้น"นพ.พิจักษณ์ กล่าว

4 เทรนด์ Wellness ยุค New normal

นพ.พิจักษณ์ กล่าวต่อว่าสำหรับเทรนด์Wellness ทั้งคนไทยและต่างชาตินั้น สามารถแบ่งออกไปได้ 4 เทรนด์ คือ1.เทรนด์โภชนาการเฉพาะบุคคล คนในยุคปัจจุบันสนใจหาความรู้และให้ความสำคัญกับการดูแลโภชนาการเพิ่มมากขึ้น ยิ่งเกิดโควิด-19 จะเลือกรับประทานอาหาร สร้างความสมดุลที่เหมาะสมกับตนเอง และครอบครัวมากขึ้น

2. เทรนด์ของสมุนไพร และธรรมชาติบำบัด ด้วยประเทศไทยมีทรัพยากรรรมชาติ และมีสมุนไพรที่ได้รับความนิยมจากชาวต่างประเทศจำนวน ยิ่งสมุนไพรไทยสามารถนำมาช่วยป้องกันเรื่องโควิด-191  ทำให้ชาวต่างประเทศสนใจมากยิ่งขึ้น ขณะที่ธรรมชาติบำบัด ใช้พลังงานจากธรรมชาติในรูปแบบต่างๆ มารักษาฟื้นฟูสภาพร่างกายและจิตใจ ซึ่งประเทศไทมีทั้งสถานที่ และผู้เชี่ยวชาญดูแลพร้อม ไม่ว่าจะเป็น การดีท็อกซ์ อโรมาเธอราปี โยคะ สมุนไพรสปา การนวด การฝังเข็ม การทางอาหารตามแนวธรรมชาติ เมื่อเปิดประเทศเชื่อว่าลูกค้าชาวต่างประเทศอยากมาใช้บริการมากขึ้น อยากมาสัมผัสของจริง ขณะเดียวกันคนไทยก็ให้ความสนใจมากขึ้น

3.เทรนด์การดูแลจิตใจ  เป็นการใส่ใจสุขภาพในเชิงรุก ทั้งร่างกายและจิตใจ ด้วยสภาพปัญหาต่าง คนหันมาดูแลสภาพบำบัดจิตใจของตนเอง ทำกิจกรรมออกกำลังกาย หรือทำกิจกรรมที่ช่วยผ่อนคลายสภาพจิตใจเป็นต้น

4.เทรนด์สังคมสูงวัย ปัจจุบันประเทศไทยกำลังจะก้าวสู่สังคมสูงวัยเต็มรูปแบบ โดยคาดว่าในปี 2564 จะมีประชากรอายุ 60 ปีขึ้นไปเป็นจำนวนถึง 20% ของจำนวนประชากรในประเทศ ในขณะที่ประชากรวัยทำงานมีอัตราลดลงอย่างต่อเนื่อง เช่นเดียวกับอัตราการเกิดใหม่ ดังนั้น การดูแลให้ทุกอายุยืนด้วยสุขภาพที่ดี สามารถใช้ร่างกายได้ดีตามวัยสามารถทำงานและช่วยเหลือตัวเองได้ ไม่ต้องการเป็นภาระของผู้อื่น

160341814353

เผยเทรนด์Wellness นิยมในชาวต่างชาติ

"ต่างชาติให้ค่าบริการเพิ่มขึ้นมากกับการแพทย์ยุคโบราณ หรือ Ancient medicine หรือ traditional medicine ของฝั่งเอเชีย ทั้งแผนจีน อายุรเวชของอินเดีย รวมถึงประเทศไทย อันนี้ถือเป็น global wellness trend ที่โตต่อเนื่องมาหลายปีแล้ว  ยิ่งสมุนไพรได้รับความนิยมมากขึ้น เนื่องจากทั้งจีนนำมาใช้ร่วมในการรักษาแผนปัจจุบันในโรคโควิด-19 และมหิดลก็ได้นำกระชายขาวมาใช้ต้านสมุนไพร ขณะเดียวกัน การดูแลทางด้านจิตใจ จิตวิญญาณ spiritual Eastern philosophy ก็มาแรง mindfulness & meditation center ผุดขึ้นมามากมายในต่างประเทศ รวมถึงเรื่องเกี่ยวกับenergy medicine เนื่องจากมีงานวิจัยรองรับเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ทั้งวัดได้และวัดไม่ได้ เกี่ยวกับการใช้พลังงานธรรมชาติ หรือธรรมชาติบำบัดในรูปแบบต่างๆ มาเยียวยา ร่างกาย จิตใจ จิตวิญญาณ อันนี้ก็เป็นอีก trend นึง ลูกค้าต่างประเทศสนใจ"นพ. พิจักษณ์ กล่าว

นพ.พิจักษณ์ กล่าวอีกว่าเทรนด์ต่างๆ เหล่านี้  ทุกภาคส่วนไม่ว่าจะรัฐ หรือเอกชนต่างมีความร่วมมือและตอบรับเทรนด์ต่างๆ ที่เกิดขึ้น และจากข้อมูลจีไอเอสคาดว่าตลาด Health and Wellness จะโตถึง 6.30%  ดังนั้น ในส่วน W9 Wellness ซึ่งมีเป้าหมายหลักในการสร้างชีวิตที่สมดุลให้คนไทยและทุคนมีคุณภาพชีวิตสุขภาพที่ดี เพื่อตอบสนองการใช้ชีวิตที่หลายหลาย มุ่งการดูแลแบบองค์รวมของแต่ละคน การมุ่งเน้นดูแลสุขภาพในภาพรวมของแต่ละบุคคล 

รวมถึงเป็นองค์กรที่ช่วยสร้างความรู้ ความเข้าใจ สร้างจุดแข็งในการทำ Wellness ตลาดสุขภาพที่เป็นเมกะเทรนด์ให้องค์กร ธุรกิจอื่นๆ ได้ร่วมกันสร้างการบริการ Wellness ที่มีคุณภาพ มาตรฐานตรงกับเทรนด์ของโลกมากที่สุด พร้อมเตรียมพร้อม รับมือ เมื่อประเทศเปิด และการท่องเที่ยวของไทยกลับมา

แนะพัฒนาบุคลากร เพิ่มแพทย์ Wellness

นพ.พิจักษณ์ กล่าวต่อไปอีกว่า จุดเด่นของผู้ให้บริการ Wellnessในประเทศไทยนั้น มีจุดแข็งในหลายๆด้าน ไม่ว่าจะเป็น   Medical health / Medical wellness ทั้งในแง่ของ Value for money  หรือคุณภาพดี ราคาไม่แพง อีกทั้ง การแพทย์ไทยมีความเข้มแข็งมาก แพทย์ไทยเก่ง มีความเชี่ยวชาญ ขณะเดียวกันการบริการของประเทศไทยได้รับมาตรฐานสากล นอกจากั้น ผู้ให้บริการในด้านอื่นๆ ไม่ว่าจะเรื่องอาหารอร่อยดีต่อสุขภาพ มีผลไม้คุณภาพดีราคาถูกมีสปามีการนวดบริการ ความเข้มแข็งและความพร้อมในทุกเรื่องเหล่านี้  ส่งผลให้ไทยจะเป็นประเทศที่มีWellnessที่ได้รับความสนใจจากลูกค้าทุกประเทศ

นพ.พิจักษณ์  กล่าวด้วยว่าไทยมีความพร้อมในการบริการ Wellness การดูแลสุขภาพแบบองค์รวมในทุกมิติ ดังนั้น อยากฝากผู้ให้บริการ wellness นประเทศไทยควรปรับตัว เปิดรับ และเรียนรู้ศึกษาองค์ความรู้ใหม่ๆตลอดเวลาปรับตัวให้เร็ว พัฒนาให้ไวทั้งเรื่องของ products & sevices ให้เท่าทันการเปลี่ยนแปลงของตลาด และที่สำคัญ แพทย์wellness ควรจะมีการพัฒนาบุคลากรด้านนี้เพิ่ม เป็นแพทย์ Wellnessที่เชี่ยวชาญการดูแลสุขภาพแบบองค์รวม มีความรู้ทั้งด้านแพทย์แผนไทยและแพทย์แผนปัจจุบัน  สามารถใช้เทคโนโลยีมาบูรณาการเข้ากับการรักษา ให้บริการ เพื่อรองรับเทรนด์ที่จะเกิดขึ้น และทุกภาคส่วนต้องร่วมมือกันให้มากขึ้น