สรุปภาวะตลาดเงินตลาดทุนรายสัปดาห์ วันที่ 19-22 ตุลาคม 2563

สรุปภาวะตลาดเงินตลาดทุนรายสัปดาห์ วันที่ 19-22 ตุลาคม 2563

เงินบาทอ่อนค่าลง ขณะที่หุ้นไทยปิดต่ำกว่าสัปดาห์ก่อน

สรุปความเคลื่อนไหวของค่าเงินบาท

เงินบาททยอยอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์ฯ ขณะที่เงินดอลลาร์ฯ ได้รับแรงหนุนในฐานะสกุลเงินปลอดภัย หลังการเจรจาเกี่ยวกับมาตรการเยียวยาโควิด-19 ของสหรัฐฯ ระหว่างทำเนียบขาวและพรรคเดโมแครตยังคงไม่ได้ข้อสรุป นอกจากนี้เงินบาทที่อ่อนค่าลงยังสอดคล้องกับสถานะขายสุทธิหุ้นและพันธบัตรไทยของนักลงทุนต่างชาติในขณะที่ยังมีปัจจัยและประเด็นทางการเมืองในประเทศที่ยังต้องติดตามอย่างใกล้ชิด ทั้งนี้ เงินบาท แตะระดับอ่อนค่าสุดในรอบ 2 สัปดาห์ที่ 31.32 บาทต่อดอลลาร์ฯ ก่อนจะลดช่วงอ่อนค่ากลับมาได้บางส่วนในช่วงปลายสัปดาห์

- ในวันพฤหัสบดี (22 ต.ค.) เงินบาทอยู่ที่ระดับ 31.25 เทียบกับระดับ 31.18 บาทต่อดอลลาร์ฯ ในวันศุกร์ก่อนหน้า (16 ต.ค.)

สำหรับสัปดาห์ถัดไป (26-30 ต.ค.) ธนาคารกสิกรไทยประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทที่ 31.00-31.50 บาทต่อดอลลาร์ฯ โดยปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ สถานการณ์ทางการเมืองในประเทศ และรายงานเศรษฐกิจการเงินเดือนก.ย. ของธปท. รวมถึงมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและประเด็นทางการเมืองของสหรัฐฯ ในช่วงใกล้เลือกตั้งประธานาธิบดี ขณะที่ข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญระหว่างสัปดาห์ ได้แก่ ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนต.ค. รายได้/รายจ่ายส่วนบุคคล และอัตราเงินเฟ้อที่วัดจากดัชนีราคา Core PCE Price Index ยอดทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย ยอดขายบ้านใหม่ ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนก.ย. จีดีพีไตรมาส 3/63 (ประกาศครั้งที่ 1) และดัชนีราคาบ้านเดือนส.ค. นอกจากนี้ตลาดยังรอติดตามผลการประชุมธนาคารกลางยุโรป และธนาคารกลางญี่ปุ่นด้วยเช่นกัน

สรุปความเคลื่อนไหวของตลาดหุ้นไทย

หุ้นไทยปิดต่ำกว่าสัปดาห์ก่อน โดยดัชนี SET ปิดที่ระดับ 1,231.61 จุด ลดลง 1.63% จากสัปดาห์ก่อน ขณะที่มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ 58,480.18 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 18.64% จากสัปดาห์ก่อน ส่วนดัชนี mai ลดลง 1.74% จากสัปดาห์ก่อน มาปิดที่ 308.52 จุด

- หุ้นไทยร่วงลงอย่างหนักในช่วงต้นสัปดาห์ตามแรงขายของกลุ่มนักลงทุนสถาบันท่ามกลางความกังวลต่อสถานการณณ์การเมืองในประเทศ ก่อนจะทยอยฟื้นตัวกลับมาได้บางส่วนในช่วงที่เหลือของสัปดาห์ โดยมีแรงหนุนในหุ้นกลุ่มธนาคารพาณิชย์และวัสดุก่อสร้าง อย่างไรก็ดี กรอบการฟื้นตัวของตลาดหุ้นไทยยังจำกัด เนื่องจากนักลงทุนยังติดตามปัจจัยการเมืองในประเทศ ตลอดจนความไม่แน่นอนเกี่ยวกับมาตรการเยียวยาเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ที่มีความเสี่ยงว่าอาจจะไม่ทันก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดี

สำหรับสัปดาห์ถัดไป (26-30 ต.ค.) บริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทย จำกัด มองว่า ดัชนีหุ้นไทยมีแนวรับที่ 1,200 และ 1,185 จุด ขณะที่แนวต้านอยู่ที่ 1,225 และ 1,235 จุด ตามลำดับ โดยปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ การเปิดประชุมสภาสมัยวิสามัญ รวมถึงผลประกอบการไตรมาส 3/63 ของบจ. ของไทย ตลอดจนสถานการณ์ช่วงโค้งสุดท้ายก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดีและความคืบหน้ามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ประเด็น BREXIT และสถานการณ์โควิด-19 ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ จีดีพีไตรมาส 3/63 ยอดขายบ้านใหม่ ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทน รวมถึงรายได้และรายจ่ายส่วนบุคคลเดือนก.ย. ขณะที่ ปัจจัยต่างประเทศที่สำคัญอื่นๆ ได้แก่ การประชุมของ BOJ และ ECB ตลอดจนจีดีพีไตรมาส 3/63 ของยูโรโซน