ฟิลลิปประกัน เบี้ย9เดือนโตสวนกระแสตลาด

ฟิลลิปประกัน เบี้ย9เดือนโตสวนกระแสตลาด

“ฟิลลิปประกันชีวิต" 9เดือนแรกปีนี้เบี้ยรับรวม2,336 ล้านบาท โต76% สวนกระแสตลาดในสภาวะโควิด-19 อีกทั้งมีสภาพคล่องและเงินทุนหมุนเวียนในระดับสูง พร้อมเดินหน้าปรับกลยุทธ์รองรับวิถีใหม่ในยุค New Normal สู่การเป็นบริษัทให้คำแนะนำวางแผนและบริการทางการเงินแก่ลูกค้าครบวงจร

นายปรัชญา กุลวณิชพิสิฐ  ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ฟิลลิปประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า แม้สถานการณ์เชื้อไวรัสโควิด-19 ที่ยังคงแพร่ระบาดไปทั่วโลก  แต่ ณ สิ้นเดือนกันยายน 2563 บริษัท มีเบี้ยประกันภัยรับปีแรกจากทุกประเภทธุรกิจจำนวน 1,330 ล้านบาท เติบโตจากระยะเวลาเดียวกันของปีก่อน 110% โดยมีเบี้ยประกันภัยรับรวมจากทุกประเภทธุรกิจจำนวน 2,336 ล้านบาท เติบโตจากปีก่อน 76% ในขณะที่อัตราความคงอยู่ของกรมธรรม์ประเภทสามัญอยูในระดับสูงที่ 88% พร้อมด้วยสินทรัพย์กว่า 13,200 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 19%

สำหรับนโยบายการลงทุนนั้น บริษัทได้กำหนดแผนที่จะเพิ่มสัดส่วนการลงทุนในสินทรัพย์ที่สามารถสร้างผลตอบแทนจากการลงทุนที่สูงขึ้น เพื่อให้ผู้ถือกรมธรรม์จะได้รับผลตอบแทนที่คุ้มค่า พร้อมไปกับการสร้างสมดุลย์อย่างเหมาะสมกับค่าอัตราความเสี่ยง (Risk Charge) ตามเกณฑ์ Risk-Based Capital (RBC) ที่สำนักงาน คปภ. กำหนด ในขณะที่สัดส่วนการลงทุนยังคงเป็นไปตามขอบเขตและเกณฑ์ที่สำนักงาน คปภ. กำหนดเช่นกัน

“ฟิลลิปประกันชีวิต” เป็นบริษัทหนึ่งในกลุ่ม “บริษัทฟิลลิปแคปปิตอลซึ่งมีฐานธุรกิจที่ประเทศสิงคโปร์ เป็นกลุ่มธุรกิจการเงินรายใหญ่ที่มีฐานะความมั่นคงทางการเงินสูง จากประเทศสิงคโปร์ โดยก่อตั้งในปี พ.ศ.2518 หรือกว่า 45 ปีมาแล้ว นับเป็นกลุ่มบริษัทที่ให้บริการทางการเงินและการลงทุนครบวงจร เปี่ยมไปด้วยคุณภาพ และความทันสมัย แก่ลูกค้าทุกระดับ ไม่ว่าจะเป็นลูกค้ารายย่อย ลูกค้าองค์กรและสถาบันที่มีชื่อเสียง เป็นที่ยอมรับในระดับสากล

ปัจจุบันกลุ่มบริษัทฟิลลิปแคปปิตอล มีเครือข่ายครอบคลุม 15 ประเทศทั่วโลก มีพนักงานประจำกว่า 3,500 คน มีกลุ่มลูกค้าในการดูแลและให้บริการมากกว่า 1ล้านคนทั่วโลก รวมมูลค่าสินทรัพย์ลงทุนที่อยูในการดูแล (Assets Under Management) ทั้งสิ้นมากกว่า 900,000 ล้านบาท จึงมั่นใจได้ว่า “ฟิลลิปประกันชีวิต” เป็นบริษัทฯ ที่มีความมั่นคงแข็งแกร่งทางการเงินสูงมาก ด้วยการสนับสนุนด้านเงินทุน พร้อมไปกับความรู้และประสบการณ์การลงทุน ตลอดจนการให้บริการการเงินครบวงจรที่มีประสิทธิผล    

นายชวลิต ทองรมย์ ผู้บริหารงานฝ่ายตัวแทน กล่าวด้วยว่า ตลอด 3 ไตรมาสในปี 2563 นี้ การเติบโตของพลังตัวแทน เพิ่มขึ้นมากกว่า 100% จึงส่งผลให้เกิดประสิทธิภาพที่มากขึ้นต่อการให้บริการลูกค้าผู้ถือกรมธรรม์ได้อย่างทั่วถึง  นอกจากนั้น บริษัทฯ ถือเป็นนโยบายหลักที่สำคัญในการพัฒนาและสร้างตัวแทนประกันชีวิต ให้ยกระดับก้าวสู่การเป็น “ที่ปรึกษาด้านการเงิน (Fin Advisor – FA)” ที่พร้อมให้คำปรึกษาอย่างมืออาชีพ และให้บริการทางการเงินครบวงจร ทั้งการประกันชีวิตและสุขภาพ การประกันวินาศภัย การประกันชีวิตควบหน่วยลงทุน (Unit-Linked) ตลอดจนการซื้อขายหน่วยลงทุนและหลักทรัพย์ โดยบริษัทฯ ได้กำหนดและพัฒนาหลักสูตรฝึกอบรมที่เข้มข้นเพื่อให้ตัวแทนได้รับใบอนุญาตที่ปรึกษาทางการเงิน (IC License) เพื่อยกระดับสู่ FA พร้อมตอบสนองความต้องการทั้งด้านการประกันชีวิต และการบริการทางการเงินการลงทุนของลูกค้าได้อย่างมืออาชีพและมีประสิทธิผล