'ปิยบุตร' ยืนยันประยุทธ์ต้องลาออกและเริ่มใหม่

'ปิยบุตร' ยืนยันประยุทธ์ต้องลาออกและเริ่มใหม่

ปิยบุตร ยืนยันประยุทธ์ต้องลาออกและเริ่มใหม่ จี้ รัฐสภานำข้อเรียกร้องคณะราษฎรเข้าไปถกในสภา

นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า กล่าวถึงสถานการณ์การชุมนุมและแถลงการณ์ของ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีว่า ปฏิกิริยาของนายกรัฐมนตรีน้อยเกินไปและสายเกินไปทุกครั้ง ตั้งแต่ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีมามีเสียงเรียกร้องให้แก้รัฐธรรมนูญ แต่ท่านก็ไม่สนใจ ถ้าหากมีความจริงใจในการแก้ไขรัฐธรรมนูญจริง ก็ต้องทำทันที ไม่ใช่ยื่อเวลาแบบนี้ เวลานายกฯบอกว่าทำตามข้อเสนอแล้ว นั่นเป็นเพียงการทำเพียง 1/4 ทำน้อยไป และทำช้าไป 

"หากรัฐสภา รัฐบาล สถาบันการเมืองในระบบมีความจริงใจในการตอบสนองต่อเสียงเรียกร้องของประชาชน ประชาชนก็ไม่จำเป็นต้องไปอยู่บนท้องถนน ทุกวันนี้ที่ประท้วงกัน ก็เพราะประชาชนเรียกร้องกันมาเป็นปี แต่การเมืองในระบบไม่เคยตอบสนองข้อเรียกร้องของเขาเลย จึงเป็นธรรมดาที่ต้องหันไปใช้เสรีภาพในการแสดงออกผ่านการชุมนุมสาธารณะ ยกตัวอย่าง ข้อเรียกร้องให้ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ลาออก ข้อนี้สามารถทำได้เลย การแถลงของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา Too little, Too late คือ น้อยเกินไปและช้าเกินไป หากพลเอกประยุทธ์ลาออกก่อน บรรยากาศจะดีขึ้นเยอะ แคนดิเดตนายกฯ ยังมีอีกหลายคน ในสภาการแก้รัฐธรรมนูญก็ยังอยู่ในวาระหนึ่ง รีบนำมาโหวตให้ผ่านได้เลย" 

นายปิยบุตร กล่าวอีกว่า การที่พลเอกประยุทธ์บอกว่ายกเลิกประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินฯ เป็นการถอย ปัญหาคือไม่ควรจะมีการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินฯ ตั้งแต่แรกด้วยซ้ำ ผู้ที่ติดตามการชุมนุมมาโดยตลอดต้องยอมรับว่าแกนนำการชุมนุมมีทักษะบริหารจัดการชุมนุมได้ดี ไม่มีการปะทะ หากไม่อยากให้มีการชุมนุมบนท้องถนน การเมืองในระบบต้องแก้ปัญหาให้ประชาชน เขาตะโกน พูดแสดงออกอะไร หากเห็นแล้วขัดเคือง ระคายหู ไม่สบายใจ ก็ต้องสร้างเวทีปลอดภัยให้พูดในสภาฯ แต่นี่กลับไปจับแกนนำหมด ดำเนินคดีหมด ก็ยิ่งไม่พอใจ ยิ่งเดือดกันใหญ่ ตนอยากให้ฝ่ายที่มีอำนาจลองกลับไปทบทวนดูว่าในที่สุดจะเอาอย่างไร อยากให้รัฐบาลแสดงออกซึ่งความจริงใจในสัปดาห์หน้า ยังพอมีโอกาสอยู่ 

“ผมไม่รู้ว่าท่านจะอยู่อีกนานไปเพื่ออะไร ท่านอยู่มาแล้ว 6 ปี ท่านต้องยอมรับว่าท่านเป็นตลอดชีวิตไม่ได้ ท่านเป็นนายกฯยาว 20 ปีตามภาพฝันของท่านไม่ได้ แคนดิเดตนายกฯ ของพรรคร่วมรัฐบาลก็มีเยอะ แคนดิเดตของพรรคฝ่ายค้านก็มีอยู่ พลเอกประยุทธ์ต้องออกไปก่อน สร้างรัฐบาลใหม่ว่ากันตามกระบวนการที่มีอยู่ เพื่อมาเปลี่ยนผ่านไปสู่ระบบปกติ มาแก้รัฐธรรมนูญให้จบ แล้วออกไป กลับไปสู่การเลือกตั้ง แต่หากมีนายกรัฐมนตรีคนใหม่ หลังพลเอกประยุทธ์ลาออก คนที่เข้ามาต่อจากพลเอกประยุทธ์ ต้องตระหนักตั้งแต่วันแรกว่าไม่ได้เข้ามาเพื่อสืบทอดอำนาจของ คสช. แต่เข้ามาเพื่อเปลี่ยนผ่านจากระบอบประยุทธ์ไปสู่ระบอบปกติเท่านั้น จากนั้นต้องกลับไปสู่สนามการเลือกตั้งเพื่อแข่งขันกันใหม่”

ส่วนการเปิดประชุมรัฐสภาเพื่อหาทางออกสถานการณ์การเมืองในวันที่ 26-27 ต.ค. นายปิยบุตร กล่าวว่า อยู่ที่ส.ส.และส.ว.มีความจริงใจกับข้อเรียกร้องของประชาชนแค่ไหน คือ เปิดสภามาเพื่อแก้ไขปัญหาจริงๆ หรือเปิดสภามาเพื่อช่วยนายกรัฐมนตรีในการลดกระแสการชุมนุม ทั้ง ส.ส. และ ส.ว. ต้องตอบประเด็นนี้ให้ชัด 

“หากต้องการแก้ไขปัญหา ท่านต้องเอาข้อเรียกร้องของการชุมนุมไปพูดในสภาทั้งหมด แต่ถ้าเปิดสภาไปแล้ว ปล่อยให้ ส.ส. จากฝั่งรัฐบาล และ ส.ว. มานั่งถล่มนิสิต นักศึกษา ประชาชน ถ้าทำกันแบบนี้จะไม่ใช่การแก้ปัญหา แต่จะเป็นการเทน้ำมันบนกองไฟอีก ต้องไม่ลืมว่าเดือนที่แล้วตอนโหวตแก้รัฐธรรมนูญวาระหนึ่ง ก็ทำแบบนี้กันไปแล้วครั้งหนึ่ง อย่าทำให้พี่น้องประชาชนเสื่อมศรัทธากับรัฐสภาไทยไปมากกว่านี้” ปิยบุตร กล่าว