อ่อนตัว

อ่อนตัว

Trading Buy (โดยมีจุดขายตัดขาดทุน 3%)

คาดการณ์ตลาดหุ้นไทยวันนี้

คาดดัชนีฯ อ่อนตัว แนวต้าน 1230 / 1235 จุด แนวรับ 1210 / 1202 จุด ทางเทคนิคแนะนำ Sell into rally เพราะมองการฟื้นตัวเป็นเพียงการรีบาวด์ โดยมีแนวต้านสำคัญที่ 1230 / 1235 จุด หุ้นเก็งกำไร แนะนำ HANA RCL DOHOME ปัจจัยบวก คือ กลุ่มธนาคารส่วนใหญ่มีระดับเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยงเกินเกณฑ์ธปท. และสามารถจ่ายปันผลด้วยยิลด์สูง ปัจจัยลบ คือ ความเห็นต่างของม็อบหลายกลุ่ม อาจส่งผลต่อเหตุรุนแรงในอนาคต และ ความล่าช้าของมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐฯ ปัจจัยที่ต้องจับตา คือ รายงานผลกำไร 3Q20E

ประเด็นที่มีผลต่อตลาดวันนี้

        1) การชุมนุมของกลุ่มราษฎร 63 อาจมีการยกระดับขึ้น เพื่อเร่งกดดันให้รัฐบาลทำตามเงื่อนไข (-ตลาดหุ้นไทย)

        2) กลุ่มธนาคารไทยมีขนาดเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยงเกินเกณฑ์กำหนดของธปท. อยู่มาก ทำให้สามารถจ่ายปันผลได้ หากธปท. อนุญาต (+SCB KKP TISCO ให้ยิลด์ปันผลสูง)

        3) รายงานภาคการผลิตและบริการเบื้องต้นเดือน ต.ค. (ประกาศวันศุกร์) คาดลดลง MoM อาจเป็นปัจจัยลบต่อตลาดหุ้นโลก

        4) มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐฯ มีแนวโน้มล่าช้า (-ตลาดหุ้นสหรัฐฯ)

ตัวเลขเศรษฐกิจวันนี้ Thailand-รายงานดุลการค้าเดือน ก.ย. เกินดุล +USD3.55bn (Vs เดือน ส.ค. +USD4.35bn) ส่งออก -4.1% YoY นำเข้า -16.25% YoY (Vs เดือน ส.ค. ส่งออก -7.94% YoY นำเข้า -19.68% YoY) / Germany-Gfk Consumer Confidence เดือน พ.ย. คาด -2.8 (Vs เดือน ต.ค. -1.6) / USA-Initial Jobless Claims สัปดาห์ก่อน คาด 860k (Vs สัปดาห์ก่อนหน้า 898k), Existing Home Sales เดือน ก.ย. คาด +5% MoM (Vs เดือน ส.ค. +2.4% MoM)

สรุปภาวะตลาดหุ้น ทองคำ น้ำมัน วันทำการที่ผ่านมา

+ ตลาดหุ้นไทยปิดบวกเป็นวันที่สอง: ดัชนีฯ ยืนในแดนบวกตลอดการซื้อขาย แต่แกว่งตัวในกรอบแคบ 1211-1222 จุด ก่อนมาปิดตลาดที่ 1216.48 จุด +5.81 จุด วอลุ่ม 5.43 หมื่นล้านบาท นำขึ้นโดยกลุ่มธนาคาร +3.2% ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ +2.14% ขนส่งและ โลจิสติกส์ +1.05% โดยหุ้นบวก >4% NER SCB BBL KCE SIS ALT SUN IHL PORT SO EPG PDI BFIT หุ้นลบ>4% PTL ACG CFRESH PSL KSL

- ตลาดหุ้นโลกปิดลบ: การกังวลว่ามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่ของสหรัฐฯ จะไม่เกิดขึ้นก่อนเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ เป็นปัจจัยถ่วงตลาดหุ้นโลก DJIA -0.35% S&P500 -0.22% Nasdaq -0.28% นำลงโดยกลุ่มพลังงาน -1.99% ส่วนตลาดหุ้นยุโรปปิดร่วงเป็นวันที่สาม DAX -1.41% CAC40 -1.53% FTSE -1.91% กังวลล็อกดาวน์รอบใหม่ จะส่งผลกระทบต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจ

+/- น้ำมันดิบปิดร่วง แต่ทองขึ้นต่อ: Brent -USD1.43 ปิดที่ USD41.73/บาร์เรล WTI -USD1.67 ปิดที่ USD40.03/บาร์เรล จากการระบาด COVID-19 ที่รุนแรงขึ้นในยุโรปและสหรัฐฯ จะส่งผลกระทบต่ออุปสงค์น้ำมันดิบโลกและรายงานสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐฯ สัปดาห์ที่ผ่านมาของ EIA ลดน้อยกว่าคาดการณ์ (-1 ล้านบาร์เรลต่อวัน Vs คาด -1.9 ล้านบาร์เรลต่อวัน) ส่วนทองคำขึ้นต่อเนื่อง +USD14.1 ปิดที่ USD1,929.50/ออนซ์ จากแรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัย

ประเด็นสำคัญ

+/- US Debate: วันพรุ่งนี้เวลา 8 โมงเช้าเมืองไทย ที่รัฐเทนเนสซี ในหัวข้อ การแก้ปัญหา COVID-19 ภาวะการเป็นผู้นำสหรัฐฯ ความขัดแย้งด้านเชื้อชาติ ปัญหาโลกร้อน ความมั่นคงแห่งชาติ ภาคครัวเรือนสหรัฐฯ

- การเมือง: จับตาคาตัดสินศาลแพ่งวันนี้ กรณีพรรคเพื่อไทยร้องให้คุ้มครองชั่วคราว ยกเลิกพ.ร.ก. ฉุกเฉินฯ ส่วนวานนี้นายกฯ ประยุทธ์ ออกทีวีแถลงความจริงใจในการแก้ปัญหาและอาจยกเลิกพ.ร.ก. ฉุกเฉิน ในกทม. และคณะราษฎร 63 ชุมนุมไปที่หน้าทำเนียบฯ กดดันให้นายกฯ ลาออกภายใน 3 วัน

- US Stimulus Package: Goldman Sachs คาดว่าการออกกฎหมายฯ ดังกล่าวจะไม่สามารถเกิดได้ทันก่อนเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในวันที่ 3 พ.ย. เนื่องจากยังมีความขัดแย้งกันในหลายประเด็น ขณะที่เวลาก็เหลือน้อยลง รวมถึงวุฒิสภาอาจไม่เห็นด้วยกับมาตรการฯ ดังกล่าวด้วย

+ โครงการคนละครึ่ง: กระทรวงการคลังรายงานว่ามีคนลงทะเบียนแล้ว 6.73 ล้านราย และเริ่มใช้จ่ายวันแรกได้ตั้งแต่วันที่ 23 ต.ค.

+/- 3Q20 Earnings: KBANK (TP Bt95) รายงานกาไรดีกว่าคาดการณ์ของตลาด 25.3% ส่วน SCB (TP Bt83.25) รายงานกาไรแย่กว่าตลาดคาดการณ์ -27.4% (ส่วนใหญ่เป็นผลจากการเร่งตั้งสารองล่วงหน้า ทาให้โอกาสที่ต้องตั้งสารองสูงขึ้นใน 4Q20E ลดลง) และ BBL (TP Bt127) รายงานกาไรแย่กว่าตลาดคาดการณ์ -22.9% เป็นผลจากค่าใช้จ่ายควบรวมสาขาในอินโดนีเซีย

กลยุทธ์ลงทุน Trading Buy (โดยมีจุดขายตัดขาดทุน 3%)

หุ้นแนะนำรายสัปดาห์: ASIAN AUCT SYNEX

หุ้นแนะนำเก็งกำไร: HANA RCL DOHOME

Derivatives: Wait&see หรือลดสถานะลงทุนก่อนวันหยุดยาว (อ่านเพิ่มใน KTZ-D)