บจ.ใหญ่แห่ระดมทุน 'หุ้นกู้ยั่งยืน'

บจ.ใหญ่แห่ระดมทุน 'หุ้นกู้ยั่งยืน'

ก.ล.ต. เผย บจ.ใหญ่มีแนวโน้มออกตราสารหนี้ เพื่อความยั่งยืนเพิ่มต่อเนื่อง หลังระดมทุนแล้ว 11 บริษัท มูลค่าเฉียด 9 หมื่นล้าน คาดต.ค.นี้มีผู้สนใจออกหุ้นกู้ Green Bond เพิ่มอีก 2 ราย

นางสาวรื่นวดี สุวรรณมงคล เลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์(ก.ล.ต.) เปิดเผยว่า บริษัทเอกชนหลายรายสนใจเข้ามาระดมทุนผ่านการออกตราสารหนี้เพื่อความยั่งยืน (ESG Bond) จำนวนมาก โดยเฉพาะบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ขนาดใหญ่ที่สอบถามเข้ามากันเป็นจำนวนมาก และหลายรายมีแผนที่จะยื่นคำขอเสนอขายต่อก.ล.ต.แล้ว

ทั้งนี้นับตั้งแต่ปี 2561 ถึงวันที่ 21 ต.ค.2563 มีผู้ออกตราสารที่เกี่ยวข้องกับ ESG อาทิ ตราสารหนี้เพื่ออนุรักษ์สิ่งแวดล้อม (Green Bond),ตราสารเพื่อพัฒนาสังคม(Social Bond) และตราสารหนี้เพื่อความยั่งยืน (Sustainability Bond) จำนวน 11 บริษัท ซึ่งคิดเป็นมูลค่าการระดมทุนรวมเกือบ 90,000 ล้านบาท และมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ขณะที่ปีนี้ยังถือเป็นปีแรกที่มีหน่วยงานภาครัฐและรัฐวิสาหกิจระดมทุนผ่าน ESG Bond เช่น กระทรวงการคลัง มูลค่า 30,000 ล้านบาท แบ่งเป็นออกหุ้นกู้ Green Bond เพื่อใช้ลงทุนในโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มมูลค่า 20,000 ล้านบาท และโครงการช่วยเหลือผู้ประกอบธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 อีก 10,000 ล้านบาท  

สำหรับเดือนต.ค.2563 จากการพูดคุยกับธนาคารพาณิชย์ในฐานะอันเดอร์ไรท์เตอร์ พบว่าเบื้องต้นมีบริษัทที่สนใจออกหุ้นกู้ Green Bond เพิ่มเติม 2 ราย หลังจากก่อนหน้านี้มีบริษัทจดทะเบียนมาออกตราสารดังกล่าวนับตั้งแต่ต้นปีแล้วจำนวน 2 บริษัท มูลค่าระดมทุนรวม 7,000 ล้านบาท  

 นอกจากนี้ก.ล.ต. ร่วมกับสมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย เปิดตัว “Information Platform” สำหรับแสดงข้อมูลตราสารหนี้กลุ่มความยั่งยืนเพื่อเป็นศูนย์รวมข้อมูลสำหรับผู้ลงทุนที่สนใจ พร้อมทั้งเป็นกลไกช่วยสนับสนุนให้ตราสารหนี้และผู้ออกตราสารหนี้กลุ่มความยั่งยืนเป็นที่รับรู้มากขึ้นโดยการจัดทำ Information Platform ครั้งนี้ถือเป็นอีกหนึ่งพัฒนาการสำคัญของการพัฒนาตลาดทุนอย่างยั่งยืน ซึ่งแพลตฟอร์มดังกล่าวประยุกต์แนวทางมาจาก Luxembourg Green Exchange (LGX) ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มแสดงข้อมูลตราสารด้านสิ่งแวดล้อมแห่งแรกของโลก

 “คณะผู้บริหารของ ก.ล.ต. ได้มีโอกาสเข้าพบและหารือกับคณะผู้บริหารของตลาดหลักทรัพย์ลักเซมเบิร์ก ถึงแนวคิดและแลกเปลี่ยนประสบการณ์ในการจัดตั้ง LGX เมื่อต้นปีที่ผ่านมา และเชื่อมั่นว่า Information Platform ที่ ThaiBMA ได้พัฒนาขึ้นในครั้งนี้ถือว่าเป็นกลไกสำคัญกลไกหนึ่งที่จะช่วยให้ผู้ออกตราสารเพื่อความยั่งยืนเป็นที่รับรู้อย่างกว้างขวางและ เป็นศูนย์รวมข้อมูลตราสารหนี้กลุ่มความยั่งยืน"