การเงิน
Selective Buy
คาดหวังการเปิดประชุมรัฐสภาสมัยวิสามัญในช่วงสัปดาห์นี้จะผ่อนคลายอุณหภูมิการเมืองลงได้
ตลาดหุ้นวานนี้
ดัชนี SET index -24.93 จุด ปิดที่ 1,209 จุด (-2.02%) ด้วยปริมาณซื้อขาย 5.4 หมื่นลบ. จากความกังวลการเมืองภายในที่มีการชุมนุมแบบดาวกระจายไปตามสถานที่ต่างๆ ส่งผลให้มีแรงขายในกลุ่มหลัก เช่น CONS TRANS และ BANK
แนวโน้มตลาดหุ้นวันนี้
คาด SET ปรับตัวลงทดสอบ 1,200 จุด จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่ของสหรัฐไม่คืบหน้า รวมถึงความกังวลการเมืองภายในที่กลุ่มผู้ชุมนุมรวมตัวแบบดาวกระจายไปตามสถานที่ต่างๆเพื่อกดดันรัฐบาล อย่างไรก็ตามเราคาดหวังการเปิดประชุมรัฐสภาสมัยวิสามัญในช่วงสัปดาห์นี้จะผ่อนคลายอุณหภูมิการเมืองลงได้
กลยุทธ์การลงทุน: Selective Buy
- กลุ่มพลังงาน PTTGC IVL TOP อานิสงส์ราคาน้ำมันทรงตัวบริเวณ 40 US/Barrel
- กลุ่มที่คาดว่างบ 3Q20 ดี TU STGT CBG SCC IVL COM7 ASIAN DELTA HANA
หุ้นแนะนำวันนี้
- TU (ปิด 15.5 ซื้อ/เป้า 17.6) คาด 3Q20 มีกำไรสุทธิ 1.79 พันล้านบาทเพิ่มขึ้น 4%qoq และ 30%yoy แนวโน้ม 4Q20 โตต่อจากอานิสงส์ยุโรป lockdown รอบ 2 หนุนดีมานด์ทูน่ากระป๋องเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
- IVL (ปิด 23.6 ซื้อ/เป้า 35) Top pick กลุ่ม Global play ผลประกอบการจะค่อยๆ ฟื้นตัวตามแนวโน้มราคาผลิตภัณฑ์และ Spread ที่เพิ่มขึ้นโดยมีปัจจัยหนุนสำคัญมาจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก (คลาย lockdown)
บทวิเคราะห์วันนี้
HTC (ปิด 29 ซื้อ/เป้า 40), Tourism sector
ประเด็นสำคัญวันนี้
- (+) คาดหวังเปิดประชุมสภาสมัยวิสามัญ และ ปล่อยตัวแกนนำ ช่วยลดอุณภูมิความขัดแย้ง: แม้ภาครัฐจะยังไม่ได้ปฏิบัติตามข้อตกลงของกลุ่มผู้ชุมนุมครบทุกข้อ แต่การเริ่มปล่อยตัวแกนนำ รวมไปถึงการเปิดประชุมสภาสมัยวิสามัญเพื่อช่วยหาทางออกทางการเมือง ถือเป็นท่าทีที่ผ่อนคลายมากขึ้นของภาครัฐซึ่งคาดว่าจะช่วยลดความขัดแย้งทางการของผู้ชุมนุมและรัฐบาลได้
- (+/-) กลุ่มแบงก์ประกาศงบ 3Q20 วันนี้ คาด SCB และ TMB ยังแย่: กลุ่มธนาคารจะประกาศงบ 3Q20 ทั้งหมดในสัปดาห์นี้ คาด BBL KBANK และ KTB มีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้น qoq จากการตั้งสำรองหนี้เสียลดลง (ตั้งเผื่อไปแล้วใน 2Q20) ส่วน SCB และ TMB คาดกำไรสุทธิลดลง qoq และ yoy จากการตั้งสำรองที่เพิ่มขึ้น
- (-) ดาวโจนส์ร่วง 411 จุด กังวลมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจล่าช้า: นางแนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ ได้กำหนดเส้นตาย 48 ชั่วโมง เพื่อออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่ให้ทันก่อนวันเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในวันที่ 3 พ.ย.ซึ่งตลาดมองว่าเงื่อนเวลาดังกล่าวค่อนข้างจำกัดจึงมีความเสี่ยงที่จะทำให้การอนุมัติทำได้ไม่ทัน