การเมืองยังกดดันตลาด

การเมืองยังกดดันตลาด

ดัชนีวานนี้ปรับตัวลงแรงกว่า 24.93 จุด อ่อนแอกว่าตลาดหุ้นภูมิภาค คาดเกิดจากปัจจัยเฉพาะตัวภายในประเทศ หลังจากการชุมนุมประท้วงทางการเมืองมีแนวโน้มยืดเยื้อ

ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดตลาดที่ 1,208.75 จุด -24.93 จุด -2.02% มูลค่าการซื้อขาย 5.4 หมื่นลบ. ต่างชาติ +310.01 บาท TFEX -4,400 สัญญา ตราสารหนี้ -176 ลบ.

ปัจจัยบวก

+โอเปคพลัสปรับลดกาลังการผลิต 7.7 ล้านบาร์เรล/วัน เริ่มส.ค.จนถึงสิ้นปี 2563 จากก่อนหน้านี้ที่ปรับลดการผลิต 9.7 ล้านบาร์เรล/วัน ส่งผลบวกทางจิตวิทยาต่อหุ้นพลังงาน
+เฟดส่งสัญญาณตรึงดอกเบี้ยใกล้ 0% จนกว่าเงินเฟ้อแตะเป้าหมาย 2%
+สหรัฐเผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้สร้างบ้านสูงเป็นประวัติการณ์ในเดือนต.ค.
+เงินบาทเปิด 31.22 อ่อนค่าเล็กน้อยจากวานนี้ จับตาการเมืองในปท.-แผนกระตุ้นศก.สหรัฐ

ปัจจัยลบ

-ดัชนีดาวโจนส์ปิดร่วงลง 410.89 จุด -1.44% กังวลว่าทาเนียบขาวและพรรคเดโมแครตอาจไม่สามารถบรรลุข้อตกลงเพื่อออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่ได้ก่อนวันเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ
-ราคาน้ามันดิบ WTI ปิดลดลง 5 เซนต์ -0.1% ปิดที่ 40.83 ดอลลาร์/บาร์เรล กังวลผลกระทบจากการแพร่ระบาดรอบใหม่ของไวรัสโควิด-19
- ส.อ.ท.เปิดผลสารวจความเชื่อมั่นภาคอุตฯคาดการณ์อนาคตช่วง 3 เดือนข้างหน้าลดลง เพราะกังวลโควิด-19 ระบาดซ้า-สถานการณ์การเมืองในประเทศ
-ส.อ.ท.เผยยอดส่งออกรถยนต์ ก.ย. 63 ลดลง 34.45% มาที่ 63,941 คัน
-การเมืองในประเทศมีความไม่แน่นอนจากการชุมนุมทางการเมือง
+ดัชนีนิกเกอิปิด +260.50 จุด +1.11% เช้าเปิด -83.26 จุด ตามทิศทางดาวโจนส์
-ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตปิดลดลง 23.69 จุด -0.71%

แนวโน้มตลาดวันนี้

คาดดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับตัวลงตามทิศทางตลาดต่างประเทศ จากความกังวลว่าทาเนียบขาวและพรรคเดโมแครตอาจไม่สามารถบรรลุข้อตกลงเพื่อออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่ได้ก่อนเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ ขณะที่ปัจจัยการเมืองในประเทศยังเป็นตัวกดดันตลาดต่อเนื่อง คาดดัชนีเคลื่อนไหวในกรอบ 1,200-1,220 จุด

กลยุทธ์การลงทุน

• หุ้นที่คาดว่าผลประกอบการ 3Q20 เติบโตต่อเนื่อง WICE XO TACC SPVI
• ค่าการกลั่นฟื้นตัวและราคาน้ามันปรับตัวขึ้น TOP SPRC ESSO
• หุ้นกลุ่ม Laggard โรงไฟฟ้า GPSC EGCO กลุ่มสื่อสาร ADVANC

หุ้นรายงานพิเศษ

PRAPAT   Target Consensus 1.84-2.00 บาท

•PRAPAT ผู้ประกอบธุรกิจผลิตและจาหน่ายน้ายาซักรีด น้ายาทาความสะอาดและฆ่าเชื้อสาหรับภาคอุตสาหกรรม นาเข้าเพื่อจาหน่ายและให้เช่าเครื่องล้างภาชนะอัตโนมัติ นาเข้าและจาหน่ายสระว่ายน้าสาเร็จรูป และอุปกรณ์ที่ใช้ในสระว่ายน้า รวมทั้งให้บริการแบบครบวงจรเกี่ยวกับน้ายาทาความสะอาด และฆ่าเชื้อสาหรับภาคอุตสาหกรรม (Hygiene Cleaning Solution)

•ในช่วงปี 2560-62 บริษัทมีรายได้จากการขายและให้เช่าเท่ากับ 888 ลบ. 919 ลบ. และ 985 ลบ. ตามลาดับ เติบโต CAGR เฉลี่ยราว 5.3% ต่อปี มีปัจจัยเติบโตตามทิศทางอุตสาหกรรมอาหาร โรงแรม ร้านอาหาร และเครื่องดื่ม ซึ่งเราคาดว่าแนวโน้มรายได้จะหดตัวในปี 63 ราว 16% ก่อนฟื้นตัว 12% ในปี 64 ตามทิศทางสถานการณ์ COVID-19 ที่กระทบต่ออุตสาหกรรมโรงแรมโดยตรง

•ราคา IPO 1.50 บาท ราคา Par = 0.50 บาท จานวนหุ้น IPO 100 ล้านหุ้น คิดเป็นเงิน 150 ลบ. โดยมีจุดประสงค์การใช้เงินดังนี้ 1) ลงทุนในระบบบัญชีและระบบควบคุมการผลิต 2) ลงทุนก่อสร้างคลังสินค้าเพิ่มเติม และ 3) ใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในกิจการ

•Target Consensus 1.84-2.00 บาท

หุ้นมีข่าว

(+) ITEL (Bloomberg Consensus 3.56 บาท) ส่งซิกไตรมาส 3/63 รายได้เพิ่มขึ้น 10-15% หลังทุกธุรกิจเติบโต ตุนแบ็กล็อก 4,000 ล้านบาท หนุนกาไรตามแผนพุ่ง 10-20% เล็งประมูลงานใหม่มูลค่ากว่า 2,500-3,000 ล้านบาท คาดได้งาน 800-1,000 ล้านบาท พร้อมลุ้นไตรมาส 4/63 รายได้โต 25-30% หนุนรายได้ปี 63 เข้าเป้า 2,400 ล้านบาท (ที่มา ข่าวหุ้น)

(+) BPP (Bloomberg Consensus 17.92 บาท) คาดผลงานครึ่งปีหลังโตกว่าครึ่งปีแรก รับแรงหนุนโรงไฟฟ้าหงสา หน่วยผลิตที่ 3 กลับมาเดินเครื่องตามปกติตั้งแต่ไตรมาส 3/63 จ่อสรุปดีลซื้อโรงไฟฟ้าก๊าซฯ 800 เมกะวัตต์ ในสหรัฐฯ ในช่วงต้นปีหน้า หวังต่อยอดธุรกิจก๊าซฯ (ที่มา ข่าวหุ้น)

(+) WICE (Bloomberg Consensus 6.25 บาท) ชูผลงานไตรมาส 4/2563 เด่นหลังเข้าไฮซีซันแย้มเห็นสัญญาความต้องการขนส่งระหว่างประเทศขนส่งทางเรือฟื้นตัวต่อเนื่อง เดินหน้าลุยบริการขนส่งข้ามพรมแดน ลุยขยายตลาดใหม่และขยายฐานลูกค้ารายใหม่ มั่นใจรายได้รวมปีนี้โตเข้าเป้า 20% ตามกระแสการเติบโตของธุรกิจเทคโนโลยี (ที่มา ทันหุ้น)

(+) AMA (Bloomberg Consensus 6.20 บาท) กางแผนงานปี 2564 เร่งทาดีลควบรวมกิจการให้สาเร็จ แย้มมีอยู่ในมือ 2 ดีล คาดใช้งบลงทุน 400-1,000 ล้านบาท พร้อมศึกษาซื้อเรือขนาดใหญ่เพิ่มอีก 1 ลา จ่อร่อนงบไตรมาส 3/63 วันที่ 6 พฤศจิกายนนี้ ส่งสัญญาณธุรกิจโตต่อ ฟากโบรกคาดกาไรสุทธิไตรมาส 3/2563 แตะ 52 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12% เคาะเป้า 2564 ที่ 6.20 บาท แนะ "ซื้อ“ (ที่มา ทันหุ้น)

ปัจจัยจับตา

ในประเทศ

20 ต.ค. ประชุมครม.ผู้ว่าการธปท. คนใหม่ พบสื่อครั้งแรกวันนี้ จับตานโยบายการเงินสัปดาห์ที่ 4 ก.พาณิชย์ แถลงตัวเลขการส่งออก-นำเข้าสศค.รายงานภาวะเศรษฐกิจการคลัง ภาวะเศรษฐกิจภูมิภาค และดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภูมิภาคสศอ.แถลงดัชนีอุตสาหกรรม

28 ต.ค. ศาลรธน.นัดชี้ชะตาสถานะส.ส.กรณีถือหุ้นสื่อ

30 ต.ค. ธปท.รายงานภาวะเศรษฐกิจ

ต่างประเทศ

20 ต.ค. ธนาคารกลางจีนกาหนดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ LPR ประจาเดือนต.ค. ดัชนีราคาบ้านเดือนก.ย. สหรัฐ เปิดเผยตัวเลขการเริ่มสร้างบ้านและการอนุญาตก่อสร้างเดือนก.ย.

21 ต.ค. สหรัฐเปิดเผยสต็อกน้ำมันรายสัปดาห์ รายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจ (Beige Book) จากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) (เช้าวันที่ 22 ต.ค.)

22 ต.ค. ดีเบตผู้เข้าชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐ สหรัฐ เปิดเผย จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ยอดขายบ้านมือสองเดือนก.ย. และดัชนีชี้นำเศรษฐกิจเดือนก.ย.

23 ต.ค. อียู เปิดเผย ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตขั้นต้น- ภาคบริการขั้นต้นเดือนต.ค. สหรัฐเปิดเผยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตขั้นต้น-ภาคบริการขั้นต้นเดือนต.ค.