STGT - ถือ

STGT - ถือ

STGT - ดูดีแต่มีแฟน

เราคาดการณ์กำไรสุทธิที่ 3.8 พันลบ. เพิ่มขึ้น 30 เท่าเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยได้รับแรงหนุนจากราคาขายเฉลี่ยใน 3Q20 ที่เพิ่มขึ้น 70%qoq ในขณะที่ยอดคำสั่งซื้อมีต่อเนื่องจนถึงธันวาคม 2021 สำหรับถุงมือยางธรรมชาติและกลางปี 2022 สำหรับถุงมือยางสังเคราะห์ แต่บริษัทยังไม่ได้ล็อคราคาขายดังกล่าว ด้านราคาวัตถุดิบล่าสุดอย่างเช่น น้ำยางธรรมชาติหรือและยางสังเคราะห์ (NBR|) มีแนวโน้มปรับเพิ่มขึ้ คงคำแนะนำ ถือ กำหนดราคาเป้าหมาย 82.40 บาทต่อหุ้นเทียบเท่า 20 เท่า ของ FY21F EPS

 

คาดกำไร 3Q20F เติบโต 30 เท่า เป็น 3.8 พันล้านบาท

กำไรที่เติบโตดี ได้รับแรงหนุนจากราคาขายเฉลี่ยใน 3Q20 ที่เพิ่มขึ้น 70%qoq เป็น 35 ดอลลาร์สหรัฐ/ลัง ซึ่งจะช่วยเพิ่มรายได้ 174%yoy สู่ระดับ 8.3 พันล้านบาทและเพิ่มอัตรากำไรขั้นต้นสู่ระดับ 55.0% จาก 29.2% ใน 2Q20

 

กำไรจะยังคงเติบโตต่อใน 4Q20F

ซึ่งจะได้รับแรงหนุนจากราคาขายเฉลี่ยที่สูงขึ้นรวมถึงยอดขายคำสั่งซื้อที่แข็งแกร่ง คาดราคาขายเฉลี่ยใน 4Q20 จะเพิ่มขึ้น 20%qoq (เทียบกับ 12% ในการคาดการณ์ครั้งก่อน) สู่ระดับ 42 ดอลลาร์สหรัฐ/ลัง ในขณะที่คำสั่งซื้อมีมากจนถึงธันวาคม 2021 สำหรับถุงมือยางธรรมชาติและกลางปี 2022 สำหรับถุงมือยางสังเคราะห์ (NBR) แต่บริษัทยังไม่ได้ล็อคราคาขายสำหรับคำสั่งซื้อดังกล่าวในปี 2021

 

ต้นทุนวัตถุดิบมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น

เนื่องจากราคาวัตถุดิบสำหรับถุงมือยางอย่างเช่น น้ำยางธรรมชาติและยางสังเคราะห์ (NBR) ถูกใช้ในการผลิตยางรถยนต์ ดังนั้นต้นทุนอาจเพิ่มขึ้นหากความต้องการรถยนต์กลับสู่ภาวะปกติ ล่าสุดต้นทุนวัตถุดิบได้เพิ่มขึ้น: (1) น้ำยางธรรมชาติ 49.70บาท/กก. เพิ่มขึ้น 23% เทียบกับค่าเฉลี่ยใน 2Q (2) Butadiene 785 ดอลลาร์/ตัน, เพิ่มขึ้น 185% เทียบกับค่าเฉลี่ยใน 2Q และ (3) Acrylonitrile 930 ดอลลาร์/ตัน, เพิ่มขึ้น 10% เทียบกับค่าเฉลี่ยใน 2Q โดยใน 4Q20 น้ำยางธรรมชาติมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น 10%qoq และ ยางสังเคราะห์ (NBR) มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น 15%mom

 

คงคำแนะนำ ถือ กำหนดราคาเป้าหมาย 82.40 บาทต่อหุ้น

จากความเสี่ยงจากวัคซีน COVID-19 ที่มีประสิทธิภาพและต้นทุนวัตถุดิบที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น แนะนำ ถือ กำหนดราคาเป้าหมาย 82.40 บาท/หุ้น เทียบเท่า 20 เท่า FY21F EPS