"หมอเลี้ยบ" จี้ ส.ส.ร่วมทางออกวิกฤตม็อบ-ควรถาม "รัฐบาล" อายุใช้พ.ร.ก.ฉุกเฉิน

"หมอเลี้ยบ" จี้ ส.ส.ร่วมทางออกวิกฤตม็อบ-ควรถาม "รัฐบาล" อายุใช้พ.ร.ก.ฉุกเฉิน

หมอเลี้ยบ ถามจุดยืน ส.ส.ภท และ ส.ส.ปชป. ร่วมแก้วิกฤตจุดยืน แนะให้ร่วม ฝ่ายค้าน ลงชื่อขอเปิดสภาฯวิสามัญ

          นพ.สุรพงษ์​ สืบวงศ์ลี  แกนนำกลุ่มแคร์  ให้สัมภาษณ์ผ่านรายการเจาะลึกทั่วไทย อินไซด์ไทยแลนด์ เพื่อขยายความต่อประเด็นที่เรียกร้องให้ส.ส. พรรคประชาธิปัตย์ และ ส.ส.พรรคภูมิใจไทยร่วมสนับสนุนการขอเปิดประชุมสภาผู้แทนราษฎร สมัยวิสามัญอย่างเร่งด่วนที่โพสต์ไว้ในทวิตเตอร์ส่วนตัว ว่า เพื่อเป็นทางออกและแก้ปัญหาการชุมนุมของกลุ่มเยาวชน ที่ปรากฎชัดเจนว่าจะมีการขยายตัว ทั้งในพื้นที่ต่างจังหวัด จังหวัดปริมณฑล ซึ่งเป็นพื้นที่นอกเหนือการประกาศใช้พระราชกำหนดบริหารสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 ในสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงในพื้นที่ กทม.  ทั้งนี้การขอเปิดประชุมสภาสมัยวิสามัญเร่งด่วนนั้น จำเป็นต้องอาศัยเสียงของส.ส.ในสภาฯ เข้าชื่อ 1 ใน 3 แต่เสียงของส.ส.พรรคร่วมฝ่ายค้านที่มี 212 เสียงไม่เพียงพอ จำเป็นต้องใช้เสียงของส.ส.พรรคร่วมรัฐบาล อีก 35 เสียง

            “การชุมนุมที่เกิดขึ้น กับการประกาศใช้พ.ร.ก.ฉุกเฉินร้ายแรง จำเป็นที่ฝ่ายนิติบัญญัติต้องร่วมหาทางออก โดยเฉพาะข้อเรียกร้องของการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่ต้องมีความชัดเจน ขณะเดียวกันระยะเวลาใช้พ.ร.ก.ฉุกเฉินร้ายแรง ที่ควรต้องถามฝ่ายบริหารให้ชัดเจนว่าจะสิ้นสุดเมื่อใด เพราะกฎหมายพิเศษดังกล่าวระบุไว้ว่าหากหมดความจำเป็นต้องยกเลิกโดยเร็ว และการควบคุมตัว 7 วันต้องหยุดลง บุคคลที่ถูกจับกุมต้องถูกปล่อยตัวโดยเร็ว” นพ.สุรพงษ์ กล่าว
           นพ.สุรพงษ์ กล่าวด้วยว่า สำหรับกรณีที่คณะกรรมาธิการ (กมธ.) พิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ ก่อนรับหลักการ รัฐสภา ที่แจ้งยุติการประชุมวันที่ 15 - 16 ตุลาคม โดยระบุว่าเพราะความมั่นคงสั่งให้หยุดการประชุมที่เกี่ยวกับการเมือง ตนมองว่าเป็นเรื่องผิดปกติเพราะฝ่ายความมั่นคงสามารถสั่งการทำงานของฝ่ายนิตบัญญัติได้ และเป็นเรื่องที่ไม่ควรเกิดขึ้น ทั้งนี้ในสภาฯของต่างประเทศให้อำนาจของฝ่ายนิติบัญญัติตรวจสอบฝ่ายความมั่นคง แต่ของประเทศไทยทำไมฝ่ายนิติบัญญัติถึงยอมรับคำสั่งของฝ่ายความมั่นคง.