กรุงศรีผนึกแบล็คร็อครุก“เวลธ์”

กรุงศรีผนึกแบล็คร็อครุก“เวลธ์”

กรุงศรีฯผนึก“แบล็กคร็อค”กองทุนยักษ์ใหญ่ระดับโลก ดึง”กลุ่มเวลธ์”ลุยลงทุนข้ามประเทศ ตั้งเป้า 5 ปีดันเอยูเอ็มโต 100% พร้อมเปิดกองทุนใหม่ “ KFCORE “ ลุยหุ้นทั่วโลกรับมือตลาดทุกภาวะ

นายเซอิจิโระ อาคิตะ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ธนาคารจับมือกับ แบล็คร็อค บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนที่มีขนาดสินทรัพย์ภายใต้การบริหาร(เอยูเอ็ม) ที่ใหญ่สุดในโลก เพื่อมาเสริมศักยภาพธุรกิจบริการด้านการให้คำปรึกษา การลงทุน และการบริหารความมั่งคั่งของธนาคาร

ล่าสุดได้เปิดตัว“กองทุนเปิดกรุงศรีโกลบอลคอร์อโลเคชั่น” (KFCORE) เป็นผลิตภัณฑ์แรกสำหรับลูกค้าของธนาคาร เพื่อเป็นโซลูชั่นด้านการลงทุนใหม่ที่ใช้กลยุทธ์การจัดสรรสินทรัพย์ลงทุนเชิงรุกหลากหลาย และยืดหยุ่นรับมือทุกสภาวะการลงทุน สร้างผลตอบแทนในสภาวะตลาดที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา จากการทำ Backtest ของกลยุทธ์ดังกล่าว มีผลตอบแทนคาดหวังเฉลี่ย 5.9% ต่อปี โดยเตรียมเปิดเสนอขายครั้งแรก 15-27 ต.ค.นี้ และมีแผนออกกองทุนใหม่อย่างต่อเนื่องในปีหน้า

“แม้วิกฤติโควิด-19 ส่งผลกระทบทั่วโลก แต่ในโลกยุค New normal พบว่าธุรกิจด้านการให้คำปรึกษา การลงทุน และการบริหารความมั่งคั่งในเอเชีย ยังมีแนวโน้มเติบโตดีต่อเนื่องโดย ณ สิ้นปี 2562 มีมูลค่าสินทรัพย์ทางการเงินส่วนบุคคลถึง 34 ล้านล้านดอลลาร์ เติบโตเฉลี่ย10% ต่อปี”

ขณะที่การเข้าถึงบริการบริหารความมั่งคั่งมีเพียง 15-20% ของสินทรัพย์การเงินบุคคล ยังเป็นสัดส่วนที่ต่ำและมีโอกาสขยายฐานลูกค้าได้เร็วกว่าเมื่อเทียบกับในภูมิภาคอื่นๆ โดยเฉพาะช่วงสภาพเศรษฐกิจและสถานการณ์การลงทุนยังมีความไม่แน่นอนสูง ทำให้ขณะนี้นักลงทุนกลุ่มนี้มีความต้องการการบริหารสินทรัพย์เพื่อให้ได้ผลตอบแทนที่ดี และมองหาโอกาสการลงทุนจากทั่วโลกอย่างไม่มีข้อจำกัด

นายพงษ์อนันต์ ธณัติไตร ประธานคณะเจ้าหน้าที่ด้านธุรกิจลูกค้ารายย่อยและเครือข่ายการขาย ธนาคารกรุงศรีอยุธยา กล่าวว่า ธนาคารตั้งเป้าหมายจากความร่วมมือแบล็คร็อค จะช่วยเพิ่มอัตราเติบโตเอยูเอ็ม เติบโตเท่าตัวใน 5 ปี และจำนวนลูกค้าเวลธ์เติบโต 15% ต่อปี จากปัจจุบันกลุ่มลูกค้าเวลธ์ ที่มีเงินฝากตั้งแต่ 1-5 ล้านบาท และ 5 ล้านบาทขึ้นไป จำนวน 300,000 ราย และมีเอยูเอ็มอยู่ที่ 1 ล้านล้านบาท เติบโต10% ต่อปี

นางเดบราห์ โฮ ประธานฝ่ายธุรกิจเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กลุ่มบริษัทแบล็คร็อค กล่าวว่า ภายใต้ความร่วมมือครั้งนี้ แบล็คร็อคจะให้การสนับสนุนกรุงศรีด้านต่างๆ เช่น การทบทวนกลยุทธ์ของแพลตฟอร์มของกองทุน แนวทางในการกระจายการลงทุน การเสนอผลิตภัณฑ์ทางเลือก ข้อมูลเชิงลึกและบทวิเคราะห์สภาวะเศรษฐกิจมหภาค การจัดสรรเงินลงทุน และพัฒนากลยุทธ์ในการสร้างความผูกพันกับลูกค้า

นายธณาพล อิทธินิธิภัค ผู้อำนวยการกลุ่มลูกค้าบุคคลเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ แบล็คร็อค กล่าวว่า ขณะนี้นักลงทุนต่างชาติและนักลงทุนสถาบันขนาดใหญ่ต่างประเทศ ยังมีมุมมองลดน้ำหนักการลงทุนในตลาดหุ้นไทย โดยจะเห็นได้ว่า กระแสเงินทุนต่างชาติยังออกอย่างต่อเนื่อง จากปัจจัยความเสี่ยงการเมืองในประเทศ และตลาดหุ้นไทยยังขยายตัวได้จำกัด รวมถึงการขยายตัวชะลอของเศรษฐกิจไทย อย่างไรก็ตามหากสถานการณ์ดีขึ้น เชื่อว่าจะกระแสเงินทุนต่างชาติกลับเข้ามาในตลาดหุ้นไทย

ปัจจุบันกลยุทธ์การลงทุนของแบล็คร็อค หันมาลงทุนกระจายความเสี่ยงและเพิ่มน้ำหนักการลงทุนไปยังภูมิภาคเอเชียและตลาดเกิดใหม่ ที่ยังมีโอกาสเติบโตได้ เช่น จีน จีดีพีปีนี้โตเกิน 5% ส่วนการลงทุนในไทยอย่างกองทุนหุ้นเอเชีย ยังคงมีสัดส่วนการลงทุนในหุ้นไทยน้อยและชะลอการเพิ่มน้ำหนัก หรือกองทุนใหม่ KFCORE มีสัดส่วนลงทุนในหุ้นไทยเพียง 1-2% ของพอร์ตเท่านั้น ส่วนใหญ่เป็นการลงทุนในต่างประเทศ