สภานิสิตจุฬาฯ ออกแถลงการณ์ ชี้ไม่มีบุคคลใดต้องถูกจับกุมเพียงเพราะเขามีความเห็นต่าง

สภานิสิตจุฬาฯ ออกแถลงการณ์ ชี้ไม่มีบุคคลใดต้องถูกจับกุมเพียงเพราะเขามีความเห็นต่าง

สภานิสิตจุฬาฯ ออกแถลงการณ์เรียกร้องให้ทุกฝ่ายใช้สันติวิธี ไม่เห็นด้วยใช้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินสลายชุมนุม

เมื่อวันที่ 15 ต.ค.63  สภานิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้เผยแพร่แถลงการณ์ผ่านเฟซบุ๊ก "สภานิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย I Student Council of Chulalongkorn University" เรื่อง  การชุมนุมทางการเมืองในวันที่ 14 ตุลาคม และสถานการณ์ทางการเมืองในปัจจุบัน ระบุว่า

ตามที่ได้มีการชุมนุมของกลุ่ม “คณะราษฎร” บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย บริเวณทำเนียบรัฐบาลและบริเวณใกล้เคียงในวันที่ 13 – 15 ตุลาคม ที่ผ่านมา เพื่อเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีลาออกจากตำแหน่ง แก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ และปฏิรูปสถาบันพระมหากษัตริย์ และสถานการณ์ดังกล่าวยังคงดำเนินมาอยู่จนถึงปัจจุบันซึ่งยังไม่มีทีท่าว่าจะคลายความตึงเครียดลง นั้น

พวกเรา ผู้แทนนิสิตนักศึกษาทั้งสามมหาวิทยาลัย ขอแสดงท่าทีต่อเหตุการณ์ต่าง ๆ ดังต่อไปนี้

(1) การจับกุมแกนนำกลุ่มผู้ชุมนุมต่าง ๆ ในวันที่ 13 และ 15 ตุลาคมที่ผ่านมา แม้ว่าการดำเนินการจับกุมดังกล่าว จะเป็นไปตามหมายจับที่ศาลได้อนุมัติไว้ก่อนหน้า แต่การดำเนินการเกี่ยวกับการจับกุม รวมถึงการพิจารณาการประกันตัวผู้ต้องหานั้น จะต้องเป็นไปโดยธรรม เปิดโอกาสให้ผู้ต้องหาที่ไม่มีพฤติการณ์หลบหนีหรือพฤติการณ์อื่น ๆ ตามมาตรา 108/1 ได้มีสิทธิในการปล่อยตัวชั่วคราวเพื่อต่อสู้คดี และต้องให้ผู้ต้องหานั้นมีสิทธิในการติดต่อทนายความได้ พวกเรา ผู้แทนนิสิตนักศึกษาทั้งสามมหาวิทยาลัย จึงขอเรียกร้องไปยังหน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้อง ให้ใช้บังคับกฎหมายอย่างเป็นธรรม และไม่ใช้บังคับกฎหมายและดำเนินการจับกุมเพียงเพราะต้องการให้การชุมนุมนั้นยุติลงหรือเพียงเพื่อขัดขวางไม่ให้แกนนำผู้ชุมนุมนั้นได้ดำเนินกิจกรรมทางการเมืองต่อไป

อนึ่ง พวกเรา ผู้แทนนิสิตนักศึกษาทั้งสามมหาวิทยาลัยได้รับข่าวสารว่า มีนิสิตนักศึกษาจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ที่ถูกจับกุมเนื่องในการชุมนุมในวันดังกล่าวด้วย พวกเรา ผู้แทนนิสิตนักศึกษาทั้งสามมหาวิทยาลัย จึงขอเรียกร้องไปยังทางมหาวิทยาลัยประสานงานช่วยเหลือนิสิตดังกล่าวเพื่อให้ได้รับการปล่อยตัวชั่วคราวฯ โดยพวกเราเชื่อว่า “ไม่มีบุคคลใดต้องถูกจับกุมเพียงเพราะเขามีความเห็นต่าง”

(2) การสลายการชุมนุมและการขอคืนพื้นที่เมื่อเย็นวันที่ 13 ตุลาคม และคืนวันที่ 14 ตุลาคมที่ผ่านมา การดำเนินการสลายการชุมนุมและขอคืนพื้นที่นั้นจะกระทำได้ก็ต่อเมื่อได้มีการร้องขอต่อศาลแพ่งหรือศาลจังหวัดก่อนตามพระราชบัญญัติการชุมนุมสาธารณะ การดำเนินการของเจ้าหน้าที่ตำรวจในการเข้ารื้อที่ตั้งของผู้ชุมนุมบริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยเมื่อวันที่ 13 ตุลาคม จึงมีปัญหาความชอบด้วยกฎหมาย ส่วนการสลายการชุมนุมเมื่อคืนวันที่ 14 ตุลาคมนั้น คาดว่าน่าจะเป็นการสลายการชุมนุมโดยอาศัยอำนาจตามพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินฯ

แต่อย่างไรก็ดี การสลายการชุมนุมนั้นก็คงยังต้องเป็นไปตามหลักสากลและคำนึงถึงการใช้สิทธิและเสรีภาพของประชาชนเป็นสำคัญ และไม่พึงสลายการชุมนุมในช่วงเวลายามวิกาล พวกเรา ผู้แทนนิสิตนักศึกษาทั้งสามมหาวิทยาลัย จึงขอเรียกร้องไปยังผู้บังคับใช้กฎหมาย ให้ใช้บังคับกฎหมายอย่างละมุนละม่อม จากเบาไปหาหนัก เพื่อมิให้เกิดความรุนแรงระหว่างกลุ่มผู้ชุมนุมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจขึ้น

(3) กรณีขบวนเสด็จพระราชดำเนินผ่านมาบริเวณที่กลุ่มผู้ชุมนุมปิดทางจราจรอยู่ กรณีนี้ พวกเรา ผู้แทนนิสิตนักศึกษาทั้งสามมหาวิทยาลัย เห็นว่า การชุมนุมในบริเวณดังกล่าว แม้ส่งผลให้ขบวนเสด็จพระราชดำเนินฯ นั้นต้องชะลอตัวลงอยู่บ้าง แต่ก็มิได้เกิดความรุนแรงหรือการกระทำใดอันอาจถือว่าเป็นการหมิ่นพระบรมเดชานุภาพหรือดูหมิ่นสถาบันพระมหากษัตริย์ได้แต่อย่างใด

ทั้งนี้ พวกเรา ผู้แทนนิสิตนักศึกษาทั้งสามมหาวิทยาลัย เห็นว่า ไม่ควรมีผู้ใดนำเหตุการณ์ดังกล่าวที่เกิดขึ้นในวันที่ 14 ตุลาคมที่ผ่านมานี้ ไปบิดเบือนหรือไปใช้ปลุกระดมมวลชนเพื่อให้เกิดความรุนแรงหรือความกระทบกระทั่งระหว่างกัน เพื่อไม่ให้เหตุการณ์ความสูญเสียครั้งประวัติศาสตร์ เช่น เหตุการณ์สังหารหมู่ที่ธรรมศาสตร์เมื่อวันที่ 6 ตุลาคม 2519 ต้องเกิดขึ้นอีก และเพื่อไม่ให้เป็นการเปิดทางไปสู่การรัฐประหารในอนาคต

ทั้งนี้ สภานิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย สภานักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และสภานักศึกษามหาวิทยาลัยมหิดล ขอเรียกร้องให้ทุกฝ่ายใช้สันติวิธีและการเจรจาในการแก้ไขปัญหา เคารพสิทธิ เสรีภาพและความเห็นต่างทางการเมือง เพื่อระบอบประชาธิปไตยที่ยั่งยืนต่อไป

ผู้แทนนิสิตนักศึกษาสามมหาวิทยาลัย

15 ตุลาคม 2563

160275230581

160275231858