ลงต่อ

คาดการณ์ตลาดหุ้นไทยวันนี้

คาดดัชนีฯ ลงต่อ แนวต้าน 1270 / 1280 จุด แนวรับ 1250 / 1245 จุด แรงขายทางเทคนิคจะเพิ่มขึ้น หากดัชนีฯ หลุดแนวรับจิตวิทยา 1250 จุด ปัจจัยลบ คือ ความเสี่ยงจากการชุมนุมของ ม๊อบราษฎร 2563 (นายกฯ ประกาศ พ.ร.ก. ฉุกเฉินฯ ใน กทม. แล้วเช้านี้) รายงานกำไร 3Q20E บจ.ไทยและสหรัฐฯ การระบาดรอบใหม่ของ COVID-19 ฯลฯ หุ้นเก็งกำไรแนะนำ TVO STA ASIAN NER

ประเด็นที่มีผลต่อตลาดวันนี้ ได้แก่

       1) นายกฯ ประกาศ พ.ร.ก. ฉุกเฉิน ที่มีความร้ายแรงในเขตท้องที่ กทม. ตี 4 เช้านี้ ส่วน ม๊อบคณะราษฎร 2563 สลายชุมนุมที่หน้าทำเนียบฯ เช้านี้ แต่นัดชุมนุมใหม่เย็นนี้ที่ ราชประสงค์ (-ตลาดหุ้นไทย)

       2) บจ.ไทย เตรียมทยอยประกาศงบสัปดาห์นี้ นำโดย TISCO DTAC (-หากออกมาแย่กว่าคาด)

       3) ธปท. เผยยังไม่ผ่อนคลายมาตรการงดปันผลระหว่างกาลกลุ่มแบงก์แม้เงินกองทุนสูง(-หุ้นปันผลสูงในอดีต TISCO SCB BBL KKP)

       4) รมว.คลัง เผยมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจไม่เกิดขึ้นก่อนการเลือกตั้ง ปธน. 3 พ.ย. (-ตลาดหุ้นสหรัฐฯ)

       5) กลุ่ม Soft Commodities ยังคงอยู่ในทิศทางขาขึ้นเพราะผลกระทบ COVID-19 และ La Nina (+น้ำตาล ปาล์มน้ำมัน ยาง)

ตัวเลขเศรษฐกิจวันนี้:

Earnings: MS, TSMC, TISCO; EU กลุ่มผู้นำอียูประชม 2 วัน เพื่อหารือ Brexit ฯลฯ; China เงินเฟ้อ เดือน ก.ย. คาด 1.8% YoY (Vs เดือน ส.ค. +2.4% YoY) PPI เดือน ก.ย. คาด -1.8% YoY (Vs เดือน ส.ค. -2% YoY); USA Initial Jobless Claims คาด 825k (Vs สัปดาห์ก่อน 840k) Phil Fed Mfg Index เดือน ต.ค. คาด 14 (Vs เดือน ก.ย. 15)

สรุปภาวะตลาดหุ้น ทองคำ น้ำมัน วันทำการที่ผ่านมา

- ตลาดหุ้นไทยกลับมาปิดลบ: ดัชนีฯ สร้างจุดต่ำสุดของวันที่ 1257.84 จุด -15.59 จุดในภาคเช้า ก่อนที่ภาคบ่ายแกว่งตัวในกรอบแคบ 1259-1264 จุดก่อนมาปิดที่ 1263.99 จุด -9.44 จุด วอลุ่ม 5.18 หมื่นล้านบาท นำลงโดยกลุ่มมีเดีย -2.35% Bank -2.03% พลังงาน -1.87% หุ้นบวก >4% HANA STA NRF KCE RBF AEONTS SVI AMATA CCET JKN HTECH CCET AH IHL หุ้นลบ >4% VGI BOL INET TPS

- ตลาดหุ้นโลกส่วนใหญ่ปิดลบ: DJIA -0.58% S&P500 -0.66% Nasdaq -0.8% หลังจาก รมว.คลัง มนูชิน เผยการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่คาดไม่เกิดขึ้นก่อนการเลือกตั้ง ปธน.สหรัฐฯ 3 พ.ย. และรายงานผลกำไรที่แย่ลงของ Wells Fargo ฯลฯ ส่วนตลาดหุ้นยุโรปปิดคละ DAX +0.07% CAC40 -0.12% FTSE -0.58%จากความไม่แน่นอนของการเจรจา Brexit และการระบาดรอบ 2 ของ COVID-19

+ น้ำมันดิบบวกต่อ และทองกลับมาฟื้นตัว: Brent +USD0.87 ปิดที่ USD43.32/บาร์เรล WTI +USD0.84 ปิดที่ USD41.04/บาร์เรล รับข่าวกลุ่มโอเปคและพันธมิตรยังคงปฎิบัติตามข้อตกลงปรับลดการผลิตสูงถึง 97% ในเดือน ก.ย. ส่วนทองคำกลับมาฟื้นตัว +USD12.7 ปิดที่ USD1,907.30/ออนซ์ จากแรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัย

ประเด็นสำคัญ

- การเมือง: วานนี้ ม๊อบคณะราษฎร 2563 ฝ่าแนวกั้นบุกประชิดทำเนียบฯ สำเร็จเพื่อกดดันรัฐบาล-นายกฯ ประยุทธ์ลาออก ฯลฯ อย่างไรก็ดี กลุ่มแกนนำประกาศสลายการชุมนุมที่ทำเนียบรัฐบาลแล้ว และนัดชุมนุมใหม่ 4 โมงเย็นที่ราชประสงค์ แต่แกนนำ อานนท์-เพนกวิน-ไมค์-ประสิทธิ์ ถูกตารวจจับกุมแล้วเช้านี้

- การเมือง นายกฯ ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงในเขตท้องที่ กทม.ตั้งแต่วันที่ 15 ต.ค. เวลาตี 4 เป็นต้นไป เพื่อให้มีการปฎิบัติตามกฎหมายและรักษาความสงบเรียบร้อยและประโยชน์ส่วนรวม

- กลุ่มแบงก์: ธปท. เผยยังไม่ผ่อนคลายมาตรการงดจ่ายปันผลระหว่างกาลกลุ่มแบงก์ แม้เงินกองทุนสูง เหตุเพราะเศรษฐกิจยังคงมีความไม่แน่นอนในอนาคต

+ Soft Commodities คาดผลกาไร 2H20E เติบโตดี เนื่องจากอุปทานลดลงเพราะผลกระทบ COVID-19 ส่งผลบวกต่อราคาสินค้าเกษตรปรับขึ้นแรง นำโดย ยาง น้ำตาล ปาล์มน้ำมัน (แนะนำ KSL KBS UVAN UPOIC LST NER STA)

- US Stimulus Package: การประชุมนัดแรกของวุฒิสภา 19 ก.ย. จะโหวตร่างมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ วงเงินแค่ USD1.3Trn

- Oil: OPEC ปรับลดคาดการณ์ความต้องการใช้น้ำมันดิบทั่วโลกปี 2021E เพิ่มขึ้นเพียง 6.54 ล้านบาร์เรล (ลดลงจากเดิม 8 หมื่นบาร์เรล) เป็น 96.84 ล้านบาร์เรลต่อวัน

 - Vaccine: บริษัท Eli Lilly & Co ประกาศระงับการรับอาสาสมัครเข้าร่วมการทดลองแอนดี้บอดี้สาหรับการรักษา COVID-19 เนื่องจากกังวลต่อความปลอดภัย

- Brexit: จับตาการประชุม EU Summit 15-16 ต.ค. เพื่อที่จะได้บทสรุปในการประชุมดังกล่าวเกี่ยวกับแนวทาง Brexit

+ ธปท.: เผยมีแนวความคิดที่จะจัดตั้ง AMC รูปแบบแวร์เฮ้าส์ซิง ที่ดูแลทั้งหนี้ดีและหนี้เสีย หลังสิ้นสุดพักชาระหนี้ของสถาบันการเงิน 22 ต.ค. นี้ คาดมีลูกหนี้กว่า 40% ต้องช่วยเหลือต่อเนื่อง พร้อมปรับเกณฑ์ Soft Loans เอื้อธุรกิจเพิ่ม

กลยุทธ์ลงทุน : Trading Buy (โดยมีจุดขายตัดขาดทุน 3%)

หุ้นแนะนำรายสัปดาห์ : TVO HANA CPW

หุ้นแนะนำเก็งกำไร: TVO STA ASIAN NER

Derivatives: คนที่เปิด Short มาตั้งแต่วันศุกร์ ให้หาจังหวะปิด Short S50Z20 ทำกำไรทั้งหมดบริเวณ 795-790 จุด (อ่านต่อใน KTZ-D)