ระวังความผันผวนช่วงสั้นจากปัจจัยการเมืองภายใน

ระวังความผันผวนช่วงสั้นจากปัจจัยการเมืองภายใน

มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของสหรัฐที่มีแนวโน้มล่าช้า+ข่าวลบวัคซีน กระตุ้นแรงขายทำกำไรระยะสั้น

ราคาสินทรัพย์เสี่ยงปรับตัวลงต่อเป็นวันที่สองจากแรงเทขายทำกำไรหลังนักลงทุนผิดหวังต่อความคืบหน้าของมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจชุดใหม่ของสหรัฐหลังนายสตีเวน มนูชิน ระบุว่าการบรรลุข้อตกลงให้ทันก่อนการเลือกตั้ง ปธน.วันที่ 3 พ.ย. ยังคงเป็นเรื่องยาก ขณะที่ ข่าวลบจากการสะดุดของกระบวนการทดลองวัคซีนโควิด-19 ของบริษัท Johnson & Johnson และ  Eli Lilly & Co ในสหรัฐ เป็นปัจจัยที่เข้ามาสร้างความกังวลเกี่ยวกับการมาของวัคซีนที่อาจล่าช้ากว่าคาดและกดดันการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกต่อในปีหน้า (อย่างไรก็ตาม ราคาสินทรัพย์เสี่ยงไม่ได้ปรับตัวลงมากนักจากประเด็นดังกล่าว)

แม้ประกาศพ.ร.ก.ฉุกเฉิน แต่ความเสี่ยงการเมืองช่วงสั้นยังอยู่ในระดับสูง ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินและควบคุมแกนนำการชุมนุม การชุมนุมยุติเมื่อประมาณ 2.00 น. โดยมีการนัดรวมตัวใหม่ในวันนี้ที่ราชประสงค์ 16.00 น. อย่างไรก็ตามนายกรัฐมนตรีได้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในช่วงก่อน 5.00 น. แม้ทหารเข้าควบคุมพื้นที่และควบคุมตัวแกนนำแล้ว อย่างไรก็ตามเราประเมินความเสี่ยงการเมืองยังอยู่ในระดับสูงจากการนัดหมายชุมนุมในวันนี้ภายใต้สถานการณ์ฉุกเฉินอาจนำไปสู่ความเสี่ยงต่อเนื่องทั้งเหตุรุนแรงและรัฐประหาร ซึ่งแม่ไม่กระทบพื้นฐานหุ้นรายตัว แต่ทำให้ตลาดช่วงสั้นเพิ่มความผันผวนและความเสี่ยงในการเก็งกำไร

การลดลงของราคาหุ้นเรามองเป็นโอกาสในการเข้าซื้อ (Buy-in-dip). แม้การผลักดันมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐจะสะดุดลงและอาจไม่สามารถบรรลุข้อตกลงได้ทันก่อนการเลือกตั้ง แต่เชื่อว่านักลงทุนได้มองข้ามไปถึงช่วงต้นปีหน้าแล้วว่ามาตรการกระตุ้นฯจะถูกผลักดันออกมาไม่ว่าใครจะชนะการเลือกตั้ง ขณะที่ ด้วยเทรนด์การอ่อนค่าของดอลลาร์สหรัฐในระยะกลาง-ยาว, เม็ดเงินจากตลาดบอนด์ที่มีแนวโน้มไหลกลับเข้าหุ้น, รวมถึง สงครามการค้าและบรรยากาศการลงทุนที่คาดปรับดีขึ้นหากไบเดนได้ขึ้นเป็นประธานาธิบดีสหรัฐคนใหม่ จะเป็นปัจจัยหนุนโมเมนตัมการฟื้นตัวของกลุ่มตลาดหุ้นเกิดใหม่รวมถึงไทย ในระยะกลาง-ยาว

เลือกลงทุนรายตัว หุ้นที่เราชอบ ได้แก่ CPF, TU, TIP, THRE, ADVANC, INTUCH, DIF, JASIF, SUPEREIF, BTSGIF, BCH, CHG, WHAUP, EASTW, SUPER / หุ้นที่มีปัจจัยบวก 1) กำไรเติบโตโดดเด่น CKP, ZIGA 3) วีซ่าพิเศษ/ขยายเวลาเที่ยวด้วยกัน ERW, CENTEL, MINT, VRANDA, SPA 4) อัตราผลตอบแทนพันธบัตรปรับขึ้น ดีต่อ TIP, THRE, BLA, THREL 5) ช้อปดีมีคืน COM7, SYNEX, JMART, SVOA, SIS, CPW, SPVI  และพวกผู้จำหน่ายเครื่องใช้ไฟฟ้า/ไอที ได้แก่ IT, CRC

ภาพรวมกลยุทธ์ แกว่งตัว โดยยังมองระยะ 3-4 สัปดาห์ข้างหน้า SET Index ยังอาจเผชิญความผันผวนซึ่งจังหวะที่ตลาดตกใจหรือแกว่งตัวแรง จะเป็นจังหวะดีในการทยอยซื้อหุ้นใหญ่พื้นฐานดี // หุ้นแนะนำวันนี้ เก็งกำไร STA, THRE*, WHAUP*

แนวรับ 1,250-1240 จุด / แนวต้าน : 1,280 จุด สัดส่วน : เงินสด 60% : พอร์ตหุ้น 40%

 

ประเด็นการลงทุน

เฟดชี้เศรษฐกิจต้องใช้เวลา 1 ปี ในการกลับเข้าสู่ระดับก่อนโควิด - รองประธานเฟด เผย เศรษฐกิจสหรัฐจำเป็นต้องใช้เวลาอีก 1 ปี เพื่อให้เศรษฐกิจขยายตัวกลับเข้าสู่ระดับก่อนวิกฤตแพร่ระบาดโควิด

ธปท.จ่อตั้งมาตรการช่วยแบงก์-ลูกหนี้ ตั้ง AMC รับมือ NPL - ธปท.เตรียมเจรจาแบงก์พาณิชย์-ภาคเอกชน หาข้อสรุปมาตรการพักชำระหนี้ที่จะสิ้นสุดลงในวันที่ 22 ต.ค.นี้ แย้มตั้ง AMC จัดเป็นแพ็คเกจช่วยลูกหนี้-เจ้าหนี้เพิ่มเติม

ความเชื่อมั่นหอการค้าเพิ่มขึ้นเล็กน้อยในเดือน ก.ย. - ดัชนีความเชื่อมั่นหอการค้าไทย เดือน ก.ย. อยู่ที่ 32.5 เพิ่มขึ้นจากเดือน ส.ค. ที่ระดับ 32.3 รับผลบวกจากการที่ ธปท. ปรับเพิ่มประมาณการเศรษฐกิจไทยปี 63 จาก -8.1% เป็น -7.8% รวมถึงมาตรการเยียวยาเศรษฐกิจของภาครัฐ แต่ยังถูกถ่วงจากปัจจัยการเมืองภายใน

ประเด็นติดตาม: 16 ต.ค. – EU CPI เดือน ก.ย. , US industrial production เดือน ก.ย., US retail sales เดือน ก.ย.

(* หมายถึง หุ้นทางกลยุทธ์ ซึ่งอาจมีคำแนะนำต่างกับพื้นฐาน หรือที่ไม่ ได้อยู่ในการวิเคราะห์ของ UOBKH ซึ่งนักลงทุนควรพิจารณาตั้งจุดตัดขาดทุน 3-5% ของราคาที่เข้าซื้อ)