‘ดาวโจนส์’ร่วง 165 จุด

‘ดาวโจนส์’ร่วง 165 จุด

ดัชนีดาวโจนส์ปิดตลาดวันพุธ(14ต.ค.)ร่วงลง 165 จุด ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐหลังสตีเวน มนูชิน รัฐมนตรีคลังสหรัฐ ยอมรับว่า การบรรลุข้อตกลงในการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดีในวันที่ 3พ.ย.

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ปรับตัวลดลง 165.81 จุด หรือ 0.58% ปิดที่ 28,514.00 จุด ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ลดลง 23.26 จุด หรือ 0.66% ปิดที่ 3,488.67 จุด และดัชนีแนสแด็ก ลดลง 95.17 จุด หรือ 0.80% ปิดที่ 11,768.73 จุด

นายสตีเวน มนูชิน รมว.คลังสหรัฐ กล่าวว่า พรรคเดโมแครตและรีพับลิกันกำลังมีความคืบหน้าในบางด้านเกี่ยวกับการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพื่อเยียวยาผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19

นายมนูชินกล่าวว่า ตนและนางแนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎร ได้หารือกันในหลายประเด็นในวันนี้ และจะมีการเจรจาต่อไปในวันพรุ่งนี้

อย่างไรก็ดี นายมนูชินยอมรับว่า การบรรลุข้อตกลงในการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดีในวันที่ 3 พ.ย. ถือเป็นเรื่องที่ยาก โดยทั้งสองฝ่ายยังคงมีความขัดแย้งกันในหลายประเด็น

ทั้งนี้ นางเพโลซีได้ปฏิเสธข้อเสนอวงเงิน 1.8 ล้านล้านดอลลาร์ของทำเนียบขาว โดยระบุว่า วงเงินดังกล่าวไม่เพียงพอต่อการเยียวยาผลกระทบของโควิด-19 ขณะที่พรรคเดโมแครตเสนอวงเงิน 2.2 ล้านล้านดอลลาร์

ขณะเดียวกัน นักลงทุนยังคงจับตาผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน โดยโกลด์แมน แซคส์เปิดเผยว่า ทางธนาคารมีผลประกอบการในไตรมาส 3 สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ โดยได้แรงหนุนจากธุรกิจบริหารสินทรัพย์ และการซื้อขายตราสารหนี้ โดยธนาคารมีกำไร 9.68 ดอลลาร์/หุ้น สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 5.57 ดอลลาร์/หุ้น นอกจากนี้ ธนาคารมีรายได้ 1.078 หมื่นล้านดอลลาร์ สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 9.46 พันล้านดอลลาร์

แบงก์ ออฟ อเมริกาเปิดเผยว่า ทางธนาคารมีรายได้ต่ำกว่าคาดในไตรมาส 3 แต่กำไรสูงเกินคาด โดยธนาคารมีรายได้ 2.045 หมื่นล้านดอลลาร์ ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 2.08 หมื่นล้านดอลลาร์ อย่างไรก็ดี ธนาคารมีกำไรที่ระดับ 51 เซนต์/หุ้น สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 49 เซนต์/หุ้น

เวลส์ ฟาร์โก ซึ่งเป็นธนาคารใหญ่เป็นอันดับ 4 ของสหรัฐ เมื่อพิจารณาจากมูลค่าสินทรัพย์ เปิดเผยว่า ทางธนาคารมีกำไรต่ำกว่าคาดในไตรมาส 3 โดยได้รับผลกระทบจากอัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำ โดยธนาคารมีกำไร 42 เซนต์/หุ้น ต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 45 เซนต์/หุ้น อย่างไรก็ดี ธนาคารมีรายได้ 1.886 หมื่นล้านดอลลาร์ สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 1.797 หมื่นล้านดอลลาร์

นอกจากนี้ ตลาดยังถูกกดดันจากการที่บริษัทจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน (เจแอนด์เจ) ระงับการทดลองวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 หลังพบผู้เข้าร่วมการทดลองรายหนึ่งล้มป่วยโดยไม่ทราบสาเหตุ และบริษัทอีไล ลิลลี่ แอนด์ โค ( Eli Lilly & Co )ประกาศระงับการรับอาสาสมัครเข้าร่วมการทดลองแอนติบอดีสำหรับการรักษาโรคโควิด-19 เนื่องจากมีความกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัย