'สามารถ' เตือนสติ 'ปิยบุตร' แนะทำตัวเหมือนผึ้งมากกว่าแมลงวัน

'สามารถ' เตือนสติ 'ปิยบุตร' แนะทำตัวเหมือนผึ้งมากกว่าแมลงวัน

"สามารถ" ยกคำสอนหลวงปู่ชา เตือนสติ "ปิยบุตร" แนะทำตัวเหมือนผึ้งมากกว่าแมลงวัน

วันนี้ (14 ต.ค.) นายสามารถ เจนชัยจิตวนิช ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงยุติธรรม ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ร้องทุกข์พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวถึงกรณี นายปิยบุตร แสงกนกกุล แกนนำคณะก้าวหน้า อดีตเลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ โพสต์ข้อความว่า มีบางหน่วยงานขนคนเสื้อเหลือง ว่า “เลิกสยบยอมกับคำสั่งไร้เหตุผล ไร้มนุษยธรรม” ระบุว่า “ผมได้เห็นภาพรถยนต์ รถกระบะ และรถขนขยะ ขนคนจำนวนมากในชุดเสื้อเหลือง เพื่อไปรวมตัวกันแสดงความจงรักภักดี หลายคนมาด้วยความเต็มใจ มาด้วยเจตจำนงอยากเฝ้าฯ รับเสด็จ แต่ก็มีอีกหลายคนที่ถูกเกณฑ์มา จำเป็นต้องมาเพราะผู้บังคับบัญชาสั่งแถมขอความร่วมมือ” ว่า ตนเห็นแนวความคิดของ นายปิยบุตร ที่พูดออกมาหลายครั้งนั้นก็พยายามเตือนสติมาโดยตลอดแต่ นายปิยบุตร เป็นแนวความคิดเผด็จการ มีโลกส่วนตัวที่ผิดเพี้ยนไปจากคนปกติทั่วไปและคงลืมรากเหง้าชาติกำเนิดและเอาแต่ใจ การกระทำดังกล่าวเรียกว่าเผด็จการไม่ใช่ประชาธิปไตย

นายสามารถ กล่าวอีกว่า นายปิยบุตร ไม่เคยยอมรับคนที่เห็นต่างจากตัวเองว่าเป็นคนหรือเป็นมนุษย์ มองว่าความคิดตัวเองถูกต้องเสมอ โดยทั่วไปหากคนอื่นมองกลับมายังนายปิยบุตร เป็นเสมือนพวกแมลงวันใช่หรือไม่จะทำอย่างไร จึงขอยกคำสอนของ หลวงปู่ชา สุภัทโท วัดหนองป่าพง จ.อุบลราชธานี เคยอธิบายเกี่ยวกับเรื่องประชาธิปไตยว่า ประชาธิปไตยเป็นเรื่องของคนหมู่มากนั้นไม่ถูกต้องเสมอไป เพราะหากคนหมู่มากไม่มีสติปัญญา แสดงว่าท่านยอมรับในเสียงข้างมากแต่มีข้อแม้ว่าต้องเป็นเสียงข้างมากของคนดี แล้วได้ยกตัวอย่าง เช่น มีแมลงวัน 20 ตัว กับ ผึ้ง 10 ตัว มาลงมติกับของสองสิ่ง คือ อุจจาระ และ น้ำผึ้ง ซึ่งถ้าลงมติว่าอะไรหอมทางฝั่งแมลงวันก็จะโหวต อุจจาระ ชนะทุกครั้งด้วยเหตุผลทางจำนวนมากกว่า ดังนั้นการตัดสินจากหลักประชาธิปไตยบางครั้งก็ไม่ถูกต้องเสมอไป ถ้าไม่นำหลักธรรมาธิปไตยมาตัดสินด้วย จึงอยากให้ นายปิยบุตร ให้ทำตัวเหมือนผึ้งมากกว่าแมลงวัน ไม่ใช่ปากอ้างว่าประชาธิปไตยแต่ใจฝักใฝ่เผด็จการ

“ในช่วงเดือน ต.ค.นี้ นายปิยบุตร ควรหัดเข้าวัดไปทอดกฐินเพื่อจะได้มีสมาธิและสติปัญญา เข้าใจแยกแยะผิดถูกว่าหลักประชาธิปไตยแท้จริงเป็นอย่างไร คือ ยอมรับเสียงส่วนใหญ่ของประเทศ แม้นายปิยบุตรจะไม่เห็นด้วย ไม่ใช่มองคนเห็นต่างว่าเป็นพวกถูกจ้างมา เหมาว่าเป็นพวกถูกสั่งมา แต่คนที่มากับฝั่งตัวเองกลายเป็นพวกมาด้วยเสียงบริสุทธิ์และนั้นคือแนวความคิดของเผด็จการ”

นายสามารถ กล่าวต่อว่า ตนสงสาร นายปิยบุตร เพราะในช่วงโควิด-19 มีการปิดประเทศ คงไม่ได้เดินทางไปพบภรรยาที่ประเทศฝรั่งเศส ตนขอให้นายปิยบุตรมีสมาธิดีๆ และเข้าใจหลักประชาธิปไตยที่ถูกต้อง ก่อนจะมโนคิดไปเองแบบนี้ รวมทั้ง อย่าใช้หลักจิตวิทยาการเมืองโน้มน้าวสังคมให้เกิดความเข้าใจผิด ตนเห็นคนใส่เสื้อเหลืองเดินทางมารอรับเสด็จพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 ทุกคนต่างรู้สึกปลื้มปิติที่ได้เข้าเฝ้ารับเสด็จ ถ้าหาก นายปิยบุตร ว่างก็อยากให้ไปเข้าเฝ้ารอรับเสด็จบ้างจะได้ซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณ