'อนุทิน'ประกาศปีงบ 64 ยกระดับ '30บาท'มุ่ง 3 ประการ

'อนุทิน'ประกาศปีงบ 64 ยกระดับ '30บาท'มุ่ง 3 ประการ

“อนุทิน”ประกาศปีงบ 64 ยกระดับ “30บาทรักษาทุกที่ คนไทยต้องวีไอพีทุกรพ.” มุ่งหลัก 3 ประการ เท่าเทียม-ประสิทธิภาพ-มีส่วนร่วม จัดระบบ “พรีเมี่ยมปฐมภูมิ” เล็งจ้างงานแพทย์เกษียณตรวจรักษาผู้ป่วยในรพ.สต.      

       เมื่อวันที่ 14 ต.ค.2563 ที่โรงแรมเซ็นทราบายเซ็นทรา ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข(รมว.สธ.) ปาฐกถาพิเศษ เรื่อง “การยกระดับหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า” ในงานประชุมชี้แจงหลักเกณฑ์การดำเนินงานและการบริหารจัดการกองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ปีงบประมาณ 2564 ว่า หลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าอยู่บนพื้นฐานของ 3 หลักการ ประกอบด้วย  1.ความเท่าเทียม โดยให้คนไทยทุกคนล้วนมีศักดิ์ศรีสามารถเข้าถึงบริการที่มีคุณภาพไม่เลือกปฏิบัติ ซึ่งเห็นได้กระทรวงสาธารณสุขไม่ว่าอยู่ในรัฐบาลยุคไหนก็พยายามยกระดับและพัฒนาระบบการบริการมาตลอด อย่าง 30 บาทรักษาทุกโรคตอนที่เริ่มมาก่อนก็ยังไม่ได้รักษาทุกโรคจริงๆเราทยอยทำ อย่างตนสมัยเป็นรัฐมนตรีช่วยฯ ขณะนั้นยังไม่มีสิทธิเรื่องรักษาไต ไม่มีทันตกรรมสุดท้ายก็ได้สิทธิมา รวมเรื่องโรคหายาก ทุกวันนี้เรียกได้เต็มปากว่า 30 บาทรักษาทุกโรคจริงๆ ทั้งหมดก็เพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายของพี่น้องประชาชนและลดภาระค่ารักษาพยาบาลที่ประชาที่รัฐบาลต้องจ่ายเกือบ3-4 แสนล้านบาท แต่สิ่งสำคัญต้องทำให้ประชาชนตระหนักในการดูแลสุขภาพด้วย

          2.ประสิทธิภาพ รัฐบาลจัดสรรงบประมาณกองทุนหลักประกันสุขภาพสำหรับการสร้างเสริมสุขภาพและป้องกันโรค 12% หรือหลายหมื่นล้านบาทในการนำความรู้ สร้างความรู้ความเข้าใจให้ประชาชนดูแลตัวเองโดยใช้หน่วยบริการท้องถิ่นให้ความรู้เพื่อให้เกิดการดูแลซึ่งกันและกัน และ3. การมีส่วนร่วม แม้สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ(สปสช.)กับสธ.ต้องทำงานร่วมกันแยกกันไม่ได้  นอกจากนี้   ในเรื่องการดูแลผู้สูงอายุก็เป็นสิ่งสำคัญ ต้องจัดระบบดูแลและดำเนินการเรื่องนี้ ซึ่งเป็นนโยบายของรัฐบาลและยุทธศาสตร์ของชาติในการเตรียมพร้อมรองรับสังคมผู้สูงอายุ ต้องให้พวกเขาอยู่ได้ ไม่เช่นนั้นจะไม่กระทบแค่ผู้สูงอายุ แต่ครอบครัวด้วยจะส่งผลต่อการทำงาน เพราะต้องมาดูแลจุดนี้ ดังนั้น ต้องมีระบบการดูแลผู้สูงอายุโดยเฉพาะที่ติดเตียงให้เป็นพรีเมี่ยม ส่วนลูกหลานก็ยังทำงานได้พร้อมๆกับการดูแลสภาพจิตใจของบุพการีได้เช่นกัน  

      นายอนุทิน กล่าวอีกว่า ส่วนความคืบหน้านโยบาย 30 บาทรักษาทุกที่ บางคนกังวลว่าจะแห่ไปรพ.ใหญ่ แต่เชื่อว่าจะไม่เป็นเช่นนั้นหากมีระบบจัดการดี เพราะถ้าไปรพ.ใหญ่ก็ต้องไปรอคิวนาน ส่วนแพทย์ขาดแคลน สามารถดึงแพทย์ที่เกษียณอายุราชการแล้วมาช่วยตรวจผู้ป่วยได้ในรพ.สต.ได้เพราะหลายคนยังทำงานได้ 

    “30 บาทรักษาทุกที่ คนไทยต้องเป็นวีไอพีทุกรพ. จะเป็นแรงผลักดันให้ผู้บริหารรพ.ทุกคน มุ่งดูแลผู้ป่วยต้องเป็นวีไอพีทุกรพ. แปลว่าจะทิ้งขว้างไม่ได้  คำว่าอนาถาต้องไม่มี รพ.คนก็ต้องให้คนอยู่ต้องไม่ให้สัตว์มาอยู่  นี่คือคำว่าวีไอพี ไม่ใช่ให้แมวกระโดดข้ามเตียงผู้ป่วยตามทางเดิน รวมถึง การใช้เทลเมเดิซีน การส่งยาถึงบ้าน การให้คีไมที่บ้าน นี่คือการยกระดับ ถ้าทำได้หมดนี้เพียงพอสำหรับวีไอพีของคนไทยทุกคน ให้อยู่อย่างมีคุณภาพชีวิต หวังเป็นอันกับ 1 ของโลกในการักษาพยาบาลของคนในประเทศในระบบสาธารณสุข”นายอนุทินกล่าว