การชุมนุมทางการเมืองกดดันตลาด

การชุมนุมทางการเมืองกดดันตลาด

ดัชนีวันจันทร์ที่ผ่านมาปิดปรับตัวขึ้น 6.29 จุด ได้แรงหนุนจากตลาดหุ้นภูมิภาคและดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์สที่อยู่ในแดนบวก

หลังจากสหรัฐปรับเพิ่มวงเงินสาหรับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจาก 1.6 ล้านล้านดอลลาร์ เป็น 1.8 ล้านล้านดอลลาร์ ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดตลาดที่ 1,273.43 จุด +6.29 จุด +0.50% มูลค่าการซื้อขาย 4.7 หมื่นลบ. ต่างชาติ +758.24 บาท TFEX +3,656 สัญญา ตราสารหนี้ +127 ลบ.

ปัจจัยบวก

+ราคาน้ามันดิบ WTI ปิดเพิ่มขึ้น 77 เซนต์ +2% ปิดที่ 40.20 ดอลลาร์/บาร์เรล ขานรับข่าวจีนนาเข้าน้ามันเพิ่มขึ้นในเดือนก.ย.
+IMF คาดศก.โลกปีนี้ -4.4% ดีกว่าตัวเลขคาดการณ์เดือนมิ.ย.ที่ -4.9% และคาดว่าศก.ไทยปีนี้ -7.1% ดีกว่าครั้งก่อนที่คาด -7.7%
+จีนเผยยอดขายรถยนต์พุ่งเกือบ 13% เดือนก.ย. หลังรัฐบาลออกนโยบายกระตุ้นดีมานด์
+เงินบาทเปิดอ่อนค่าที่ 31.26 นลท.จับตาการชุมนุมทางการเมือง
-ความไม่แน่นอนของการเมืองในประเทศหลังจากตารวจจับ 21 แกนนา
+ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตปิดเพิ่มขึ้น 1.28 จุด +0.038%
+ดัชนีนิกเกอิปิด +43.09 จุด +0.18% เช้าเปิด -56.12 จุด เหตุวิตกระงับทดลองวัคซีนโควิด

ปัจจัยลบ

-ดัชนีดาวโจนส์ปิดลดลง 157.71 จุด -0.55% หลังจาก J&J ระงับการทดลองวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 หลังพบผู้เข้าร่วมการทดลอง 1 รายป่วยโดยไม่ทราบสาเหตุ และบริษัท Eli Lilly & Co ประกาศระงับการรับอาสาสมัครเข้าร่วมการทดลองแอนติบอดีจากกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัย
-ความยุ่งยากของข้อตกลงกระตุ้นศก.รอบใหม่ในสหรัฐฯ หลังจากนางแนนซี เปโลซี ประธานสภาฯจากพรรคเดโมแครต ปฏิเสธข้อเสนอเยียวยาผลกระทบโควิด-19 ในวงเงิน 1,800,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ โดยระบุว่าไม่เพียงพอซึ่งจะทาให้ภาวะศกซถดถอยอย่างรุนแรง

แนวโน้มตลาดวันนี้

คาดดัชนีตลาดหุ้นไทยมีโอกาสปรับลง โดยมีแรงกดดันจากข่าวบริษัท J&J และบริษัท Eli Lilly & Co ประกาศระงับการทดลองวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 ชั่วคราว ประกอบกับประเด็นการเมืองในประเทศกดดันตลาด โดยวันนี้มีการนัดชุมนุมใหญ่ของกลุ่มคณะราษฎร คาดดัชนีเคลื่อนไหวในกรอบ 1,260-1,280 จุด

กลยุทธ์การลงทุน

• iPhone 12 เปิดตัววานนี้ COM7 SPVI CPW SYNEX JMART
• หุ้นที่คาดว่าผลประกอบการ 3Q20 เติบโตต่อเนื่อง WICE XO TACC SPVI
• ค่าการกลั่นฟื้นตัวและราคาน้ามันปรับตัวขึ้น TOP SPRC ESSO
• หุ้นกลุ่ม Laggard โรงไฟฟ้า GPSC EGCO กลุ่มสื่อสาร ADVANC

หุ้นรายงานพิเศษ

SO    ราคา IPO 6.50 บาท

•บมจ. สยามราชธานีประกอบธุรกิจ 2 กลุ่มธุรกิจหลัก 1) ธุรกิจจัดหาบุคลากร (Outsourcing Services) แบ่งออกเป็น 2 ประเภท ได้แก่ (1) จัดหาพนักงานขับรถ พนักงานสานักงาน พนักงานช่างเทคนิค และบริการงานบันทึกข้อมูล รวมทั้งพัฒนาซอฟต์แวร์ต่างๆ ใช้ในองค์กร (2) ธุรกิจบริการดูแลภูมิทัศน์ 2. ธุรกิจให้เช่ารถยนต์และให้เช่าอสังหาริมทรัพย์ ผ่านชื่อ “SO People” “SO Next” “SO Green” และ “SO Wheel” สัดส่วนรายได้จาก Outsource 87% และรายได้ค่าเช่า 11%

•วัตถุประสงค์การใช้เงินจะนาไปใช้ชาระคืนเงินกู้ยืมและใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน

•ปี 62 มีกาไรสุทธิ 109 ล้านบาท +8% 6M63 มีกาไรสุทธิ 59 ล้านบาท +23% เนื่องจากรายได้รวม 1,027 ลบ. +11% รายได้ค่าบริการจัดหาบุคลากรขยายตัวหลังเซ็นสัญญาลูกค้าภาครัฐ และรายได้บริการจัดการบันทึกข้อมูลเพิ่มขึ้นจากลูกค้ากลุ่มผู้ให้บริการขนส่งสินค้า และกลุ่มโรงพยาบาล

หุ้นมีข่าว

(+) ACE (Bloomberg Consensus - บาท) พร้อมชิงเค้กโรงไฟฟ้าชุมชนนาร่อง 150 เมกะวัตต์ รอความชัดเจนภาครัฐเปิดยื่นแข่งขันราคา ลั่นต้นทุนผลิตไฟฟ้าสู้คู่แข่งได้ ส่วนผลงานปีนี้มั่นใจเติบโตต่อเนื่อง จากกลยุทธ์พัฒนาโครงการใหม่และซื้อโรงไฟฟ้าที่ COD แล้ว (ที่มา ข่าวหุ้น)

(+) ILINK (Bloomberg Consensus 6.25 บาท) ส่งมอบรถไฟฟ้าไร้คนขับ APM ขบวนที่ 3 ให้ AOT ที่สนามบินสุวรรณภูมิแล้ว เตรียมส่งมอบขบวนที่ 4 ภายในปลายสัปดาห์นี้ คาดทยอยส่งมอบครบ 6 ขบวน จานวน 12 โบกี้ และใช้เวลาทดสอบไปจนถึงต้นปี 64 (ที่มา ข่าวหุ้น)

(+) INET (Bloomberg Consensus - บาท) เล็งยื่นไฟลิ่งตั้งกองทรัสต์ "IDCREIT" มูลค่า 4-5 พันล้านบาท ภายในเดือนนี้ คาดจัดตั้งได้ภายใน Q1/2564 นาเงินคืนหนี้-ลงทุนดาต้าเซ็นเตอร์แห่งใหม่ มูลค่ากว่า 1 พันล้านบาท รองรับความต้องการขยายบริการ Cloud Service Paperless และบริการ 5G ด้านผลประกอบการปีนี้มั่นใจยอดขายเติบโต 5% จากปีก่อน (ที่มา ทันหุ้น)

(+) AUCT (Bloomberg Consensus 10.65 บาท) ส่องแนวโน้มธุรกิจขาขึ้น โบรกคาดรายได้ไตรมาส 3/2563 ชะลอตัวจากมาตรการพักชาระหนี้ของภาครัฐ แต่การปรับราคาค่าธรรมเนียมการประมูลรถยนต์ขึ้นจาก 8,000 บาทต่อคัน เป็น 9,000 บาทต่อคัน เป็นบวก จับตาไตรมาส 4/2563 ฟื้นตัวเด่น ปริมาณรถยึดกลับเข้าสู่ภาวะปกติ คาดปี 2564 จะเห็นปริมาณรถยึดมาประมูลเพิ่มสูงขึ้นหลังจากมาตรการพักชาระหนี้สิ้นสุดลงในเดือนตุลาคมนี้ มองราคาเป้าหมาย 19-22 บาท (ที่มา ทันหุ้น)

ปัจจัยจับตา

   ในประเทศ

14 ต.ค. คณะราษฎร 2563 นัดชุมนุมทางการเมืองสัปดาห์ที่ 3 สภาธุรกิจตลาดทุนไทย แถลงผลสารวจดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุนและอัพเดตสถานการณ์ลงทุนสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(ส.อ.ท.) แถลงดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรม ยอดการผลิตและส่งออกรถยนต์ รถจักรยานยนต์และชิ้นส่วนยานยนต์ สัปดาห์ที่ 4 ก.พาณิชย์ แถลงตัวเลขการส่งออก-นำเข้า สศค.รายงานภาวะเศรษฐกิจการคลัง ภาวะเศรษฐกิจภูมิภาค และดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภูมิภาค สศอ. แถลงดัชนีอุตสาหกรรม

28 ต.ค. ศาลรธน.นัดชี้ชะตาสถานะส.ส.กรณีถือหุ้นสื่อ

30 ต.ค. ธปท.รายงานภาวะเศรษฐกิจ

    ต่างประเทศ

14 ต.ค. อียูเปิดเผยการผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนส.ค.สหรัฐเปิดเผยดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนก.ย.

15 ต.ค. จีนเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนก.ย.ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนก.ย. ยอดปล่อยกู้สกุลเงินหยวนเดือนก.ย. สหรัฐ เปิดเผย จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ราคานำเข้าและราคาส่งออกเดือนก.ย. ดัชนีภาคการผลิต (Empire State Manufacturing Index) เดือนต.ค.จากเฟดนิวยอร์ก ดัชนีการผลิตเดือนต.ค.จากเฟดฟิลาเดลเฟีย และ สต็อกน้ำมันรายสัปดาห์

22 ต.ค. ดีเบตรอบ 3 ผู้เข้าชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐ