พาสปอร์ตญี่ปุ่นทรงอิทธิพลที่สุดในโลกยุคโควิด-19

พาสปอร์ตญี่ปุ่นทรงอิทธิพลที่สุดในโลกยุคโควิด-19

พาสปอร์ตญี่ปุ่นทรงอิทธิพลที่สุดในโลกยุคโควิด-19 ขณะที่พาสปอร์ตสิงคโปร์ เป็นพาสปอร์ตที่มีอิทธิพลมากสุดเป็นอันดับที่ 2 ของโลก

เฮนรี พาสปอร์ต อินเด็กซ์ ซึ่งทำการศึกษาโดยใช้ข้อมูลพิเศษจากสมาคมขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศ (ไออาต้า) ระบุว่า การแพร่ระบาดของโควิด-19 เข้ามาพลิกโฉมการจัดอันดับการเดินทางทั่วโลกที่ดูเหมือนจะไม่สั่นคลอนตลอดหลายสิบปีที่ผ่านมาให้เปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง และยังจะมีการเปลี่ยนแปลงปรากฏให้เห็นอีกมาก

รายงานฉบับล่าสุดของ เฮนรี พาสปอร์ต อินเด็กซ์ บ่งชี้ว่า พาสปอร์ตของสหรัฐ ซึ่งเคยติดอันดับ 6 ในการจัดอันดับนี้ ด้วยจำนวนจุดหมายปลายทางที่ผู้ถือพาสปอตสามารถเดินทางเข้าได้โดยไม่ต้องมีวีซ่า 185 แห่งในช่วงต้นปี ปัจจุบันมีจุดหมายปลายทางเหลือเพียงไม่ถึง 75 แห่งเท่านั้นที่ผู้ถือพาสปอร์ตสหรัฐสามารถเดินทางเข้าได้โดยไม่ต้องมีวีซ่า

ขณะที่พาสปอร์ตสิงคโปร์ ซึ่งนับว่าเป็นพาสปอร์ตที่มีอิทธิพลมากสุดเป็นอันดับที่ 2 ของโลก โดยที่ผู้ถือพาสปอร์ตสิงคโปร์สามารถเดินทางเข้าออกต่างประเทศได้อย่างอิสระมากถึง 190 ประเทศทั่วโลก แต่ภายใต้ข้อกำหนดการเดินทางในขณะนี้ ชาวสิงคโปร์สามารถเดินทางไปได้เพียงไม่ถึง 80 ประเทศเท่านั้น เช่นเดียวกับบราซิล ซึ่งจุดหมายปลายทางที่ผู้ถือพาสปอร์ตสามารถเดินทางเข้าได้โดยไม่ต้องมีวีซ่าเคยมีถึง 170 แห่ง แต่ปัจจุบันเหลือเพียงประมาณ 70 แห่งเท่านั้น

ข้อมูลในรายงานระบุว่า แม้ยังมีประเทศบางประเทศ เช่น อินเดียและรัสเซียที่อิทธิพลและความคล่องตัวของพาสปอร์ตลดลงน้อยมาก แต่ก็ยังคงมีการเปลี่ยนแปลงปรากฏขึ้นมาให้เห็น โดยก่อนโควิด-19 ระบาด จุดหมายปลายทางที่พลเมืองรัสเซียสามารถเดินทางเข้าได้โดยไม่ต้องมีวีซ่ามีทั้งสิ้น 119 แห่ง แต่ปัจจุบันเหลือไม่ถึง 50 แห่ง

ขณะที่อินเดีย ซึ่งเคยมีจุดหมายปลายทางที่ผู้ถือพาสปอร์ตสามารถเดินทางเข้าไปโดยไม่ต้องมีวีซ่าอยู่ที่ 61 แห่งเมื่อต้นปี แต่เนื่องจากข้อกำหนดการเดินทางเพื่อคุมการระบาดของโควิด-19 ทำให้ปัจจุบันเหลือเพียงไม่ถึง 30 แห่งเท่านั้น

อย่างไรก็ตาม หากไม่นับรวมมาตรการแบนและจำกัดการเดินทางอันเนื่องมาจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ญี่ปุ่นยังคงติดอันดับ 1 ในดัชนีพาสต์ปอร์ตนี้ ด้วยคะแนนด้าน visa-free/visa-on-arrival สูงถึง 191 คะแนน ตามด้วยสิงคโปร์ ซึ่งอยู่ในอันดับที่ 2 ด้วยคะแนน 190 คะแนน ขณะที่เยอรมนีและเกาหลีใต้ ครองอันดับที่ 3 ร่วมกันโดยมีคะแนน 189 คะแนน