หนุน "มาร์เก็ตเพลส”มหาวิทยาลัย ช่วยเศรษฐกิจ

หนุน "มาร์เก็ตเพลส”มหาวิทยาลัย ช่วยเศรษฐกิจ

"เอนก” ผุดไอเดีย"มาร์เก็ตเพลส”มหาวิทยาลัยสร้างมูลค่าเพิ่ม 3 แสนล้าน ขับเคลื่อนเศรษฐกิจและพัฒนานวัตกรรม พร้อมหนุน ม.ขอนแก่นผู้นำอุดมศึกษาอินโดจีน

จากการประชุมเชิงนโยบายร่วมกับผู้บริหารมหาวิทยาลัยขอนแก่น(มข.) .ขอนแก่น ระหว่างลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมผลการดําเนินงานโครงการจ้างงานประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด – 19  และโครงการยกระดับเศรษฐกิจและสังคม รายตําบล แบบบูรณาการ หรือโครงการ 1 ตําบล 1 มหาวิทยาลัย

.ดร.เอนก เหล่าธรรมทัศน์ รัฐมนตรึว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม(รมว.อว.) กล่าวว่า อว.มีนโยบายให้มหาวิทยาลัยทุกแห่งเป็นหน่วยเศรษฐกิจที่สำคัญของประเทศ (University as Marketplace) งบประมาณ อว. 150,000 ล้านบาท ร่วมกับกำลังซื้อของบุคลากรและนักศึกษาในมหาวิทยาลัย ประมาณ 150,000 ล้านบาท เป็นกำลังซื้อรวมถึง 300,000 ล้านบาท หากจัดให้มีระบบการซื้อสินค้าอย่างมีเป้าหมาย จะช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจและพัฒนานวัตกรรมได้ เช่น ให้มหาวิทยาลัยซื้อสินค้านวัตกรรมของมหาวิทยาลัย เป็นต้น ขณะที่ อว.ยังมีหน่วยงานวิทยาศาสตร์ มีเครื่องมือที่ทันสมัย เช่น เครื่องฉายแสงซินโครตรอน เครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์ สามารถใช้เป็นจุดดึงดูดคนเก่งทั่วโลกให้มาทำงานในประเทศไทย

.ดร.เอนก กล่าวต่อว่าภาคอีสานมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อประเทศไทย ทั้งในด้านขนาดพื้นที่ จำนวนประชากร 1 ใน3 ของประชากรทั้งหมดของไทย และมีความสำคัญเชิงภูมิศาสตร์ที่เชื่อมต่อถึงความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ โดยมีพรมแดนติดกับลาวและกัมพูชา และอยู่ใกล้เวียดนามและจีน สำหรับประเทศลาว กัมพูชา เวียดนาม หรือกลุ่ม CLMV ขอให้ มข. เป็นผู้นำด้านการอุดมศึกษาในภูมิภาค

ส่วนประเทศจีน มองว่า .ขอนแก่น และภาคอีสานมีความสำคัญเชิงยุทธศาสตร์ เนื่องจาก 1.ระบบรางรถไฟจากจีนเชื่อมสู่ภาคอีสาน และ 2. การเดินทางทางอากาศ คือ เครื่องบิน จากเมืองสำคัญของจีนในทิศตะวันออกเฉียงเหนือของไทยผ่านภาคอีสานมากกว่าภาคเหนือ นอกจากนั้น สหรัฐอเมริกา ก็เห็นความสำคัญเชิงยุทธศาสตร์ของภาคอีสาน ในการตั้งฐานทัพสหรัฐฯ เพื่ออยู่ใกล้ลาว กัมพูชา และจีน

ทั้งนี้ แสดงให้เห็นถึงความสำคัญของภาคอีสาน ในเชิงการเมืองยุคปัจจุบัน หากอีสานขยับ ประเทศไทยก็เขยื้อน ขอให้มหาวิทยาลัยในภาคอีสานขยับ นำให้เกิดความภูมิใจในภาคอีสาน เป็นอีสานใหม่ที่มีคนเก่ง มีความรู้ทางวิชาการพัฒนาประเทศไทยในอนาคต ดังนั้น ขอให้มหาวิทยาลัยนำพาให้คนอีสาน มองเห็นโอกาส แทนที่การมองปัญหา