สนามท้องถิ่นขุมทรัพย์ “นักเลือกตั้ง”

สนามท้องถิ่นขุมทรัพย์ “นักเลือกตั้ง”

คดีดังกล่าวยังคาอยู่ในชั้นไต่สวนของ ป.ป.ช. แต่ว่ากันว่า “บ.ก่อสร้างยักษ์ใหญ่” เดินเกมดิ้นสุดฤทธิ์ เพราะหากโดนตัดสินให้มีความผิด จะส่งผลเสียหายกับอีกหลายโครงการ เพราะจะถูกแบนห้ามเข้าประมูลโครงการของหน่วยงานรัฐอีกบานตะไท...

ภายในเดือน ธ.ค.นี้ คนไทยได้เข้าคูหาเลือกตั้งท้องถิ่นแน่นอน ภายหลังครม.ไฟเขียวประเดิมที่สนามเลือกตั้ง นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) 76 จังหวัด หลังตำแหน่งนายกฯอบจ. ถูกแช่แข็งมานานกว่า 7 ปี

ทว่าสนามท้องถิ่นที่นับวันยิ่งเดิมพันกันสูง เพราะเป็นสนามที่ถูกใช้เป็นฐานเสียง-ฐานกำลังของการเมืองสนามใหญ่ แถมยังเป็นขุมทรัพย์ของ “เสือหิว” ที่เข้ามากอบโกยผลประโยชน์

ข้อมูลจาก สำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) พบว่า การทุจริตในประเทศนั้นร้อยละ 50 เกิดในองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น โดยมักปรากฏข่าว การจับทุจริต-การฮั้วประมูล-เงินทอน-ฆาตกรรม

แม้จะมีการเชือดไก่ให้ลิงดู เอาผิดกับการทุจริตระดับท้องถิ่นหลายครั้ง แต่ปราบปรามเท่าไรก็ไม่หมดสิ้นจากประเทศไทย อาทิ ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 3 ตัดสินเรียงกระทงลงโทษจำคุกรวม 20 ปี “พรชัย โควสุรัตน์” อดีตนายกอบจ. อุบลราชธานี กับพวก คดีทุจริตจัดซื้อครุภัณฑ์ส่งเสริมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี วงเงิน 9.9 ล้านบาท

การเช็กบิล “นิรันดร์ ด่านไพบูลย์” นายกอบจ.ลำพูน กับพวก 18 คน ซึ่งป.ป.ช.ชี้มูลว่า ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ กรณีดำเนินโครงการป้องกันผู้สูงอายุกลุ่มเสี่ยงต่อการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 โดยจัดซื้อชุดของใช้ประจำวันหรือแคร์เซตในราคาที่สูง 17ล้านบาทเศษ

ปปช.ชี้มูล “บังอร วิลาวัลย์” นายกอบจ.ปราจีนบุรี กับพวก ทุจริตต่อหน้าที่หรือกระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการเกี่ยวกับโครงการก่อสร้างของ อบจ.ปราจีนบุรี 15 โครงการ เมื่อปี 2555 วงเงินกว่า52ล้านบาท โดยพบว่ามีการฮั้วประมูล -เรียกรับเงิน 8-9% ของโครงการ และขัดขวางบริษัทอื่นที่ไม่ได้ตกลงจะฮั้วประมูล ไม่ให้เข้าซื้อซองประกวดราคา

ไม่เว้นแม้พื้นที่กทม. ที่มักพบการทุจริตหลายคดี โดยเฉพาะโครงการ จัดซื้อรถ-เรือดับเพลิง ที่มีคนผิดเพียบ เเละยังมีโครงการสมัยนั้นที่กำลังจะปิดกล่องไม่ให้เรื่องเเดง....เพราะใครบางคนมีเอี่ยวกับ “บ.ก่อสร้างยักษ์ใหญ่” สมัยสร้างอุโมงค์ระบายน้ำคลองแสนแสบและคลองลาดพร้าว ช่วงนายสมัคร สุนทรเวช เป็นผู้ว่าฯกทม.(พ.ศ.2543-2547)

แถมยังมี “สำนักข่าวญี่ปุ่น” เคยเปิดเผยข้อมูล “บ.ก่อสร้างยักษ์ใหญ่ไทย” ร่วมเป็นพาร์ทเนอร์ “บ.ยักษ์ใหญ่ญี่ปุ่น” คว้างานดังกล่าวในราคา 2 พันล้านบาทเศษ โดยบริษัทที่ร่วมแข่งขัน แต่ไม่ผ่านการพิจารณาร้องเรียนว่าการประกวดราคาครั้งนี้ไม่โปร่งใส แต่แล้วเรื่องนี้ก็เงียบไป

คดีดังกล่าวยังคาอยู่ในชั้นไต่สวนของ ป.ป.ช. แต่ว่ากันว่า “บ.ก่อสร้างยักษ์ใหญ่” เดินเกมดิ้นสุดฤทธิ์ เพราะหากโดนตัดสินให้มีความผิด จะส่งผลเสียหายกับอีกหลายโครงการ เพราะจะถูกแบนห้ามเข้าประมูลโครงการของหน่วยงานรัฐอีกบานตะไท...

เมื่อความเสียหายมีมูลค้าหลายล้านล้านบาท “บ.ก่อสร้างยักษ์ใหญ่” จึงวางเกมยื่นดีลเพื่อ “ล้มคดี” จึงต้องจับตาหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะมีท่าทีอย่างไร....