'หัวเว่ย' ปักหมุดดิจิทัลไทย ชู ‘คลาวด์’ ปฏิรูปธุรกิจ

'หัวเว่ย' ปักหมุดดิจิทัลไทย ชู ‘คลาวด์’ ปฏิรูปธุรกิจ

ภายใน 5 ปี องค์กรธุรกิจไทยจะปรับใช้คลาวด์อย่างเต็มรูปแบบ

“พับลิกคลาวด์ช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นให้องค์กร เปิดโอกาสให้ผู้ใช้งานสามารถขยายการลงทุนในด้านอื่นๆ ของธุรกิจควบคู่กัน ซึ่งองค์กรที่ยังต้องการมาตรฐานความปลอดภัยของข้อมูลเป็นพิเศษก็สามารถใช้บริการไฮบริดคลาวด์หรือพับลิกคลาวด์ที่มีศูนย์ข้อมูลอยู่ในประเทศไทยได้”

คลาวด์ = รันเวย์ดิจิทัล

เขาเผยว่า ไทยเป็นตลาดกลยุทธ์ที่สำคัญสำหรับหัวเว่ยในระดับเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ จากนี้จะมีการลงทุนอย่างต่อเนื่อง รวมถึงทำงานร่วมกับพันธมิตร และรัฐบาลไทย เพื่อสนับสนุนนโยบายไทยแลนด์ 4.0 และการพัฒนาดิจิทัลในมิติต่างๆ

"การร่วมกันผลักดันเทคโนโลยีทั้งด้านนโยบายภาครัฐและการสนับสนุนจากเอกชน มีส่วนสำคัญที่จะทำให้ไทยกลายเป็นประเทศที่มีความก้าวหน้าในการประยุกต์ใช้นวัตกรรมใหม่เป็นอันดับต้นๆ ของอาเซียน"

ปัจจุบัน หัวเว่ยนำบริการเทคโนโลยีครบทั้ง 4 กลุ่มธุรกิจหลัก ได้แก่ เครือข่าย, เอนเตอร์ไพรส์, คอนซูมเมอร์, และ คลาวด์และเอไอ เข้ามาทำตลาดไทย มั่นใจว่ามีอีโคซิสเต็มที่สมบูรณ์ ครอบคลุมทั้งด้านฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ 

ด้านแนวทางการตลาดให้ความสำคัญอย่างมากกับเทคโนโลยี “คลาวด์” ด้วยการลงทุนจัดตั้งศูนย์ข้อมูลสำหรับให้บริการในประเทศไทยโดยเฉพาะ รวมถึงกลยุทธ์ “Cloud First” ที่มุ่งเน้นพัฒนาอีโคซิสเต็มสำหรับประเทศไทย การเป็นเจ้าของเทคโนโลยีทั้งอีโคซิสเต็ม ทำให้การบริการให้ประสิทธิภาพสูงกว่าบริการคลาวด์ทั่วไปถึง 30% ประหยัดต้นทุนการดำเนินงานได้ถึง 30%

“คลาวด์ถือเป็นโครงสร้างพื้นฐานสำหรับการรองรับเทคโนโลยีต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเอไอ ไอโอที วีอาร์ เออาร์ และ 5จี เปรียบเสมือนรันเวย์ที่เสริมพลังการขับเคลื่อนด้านการประมวลผลให้แก่เทคโนโลยีต่างๆ”

ปฏิรูปสู่ยุค ‘สมาร์ท’

ปิยะธิดา อิทธิระวิวงศ์ ประธานกรรมการ แผนกธุรกิจคลาวด์ ประเทศไทย หัวเว่ย ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า การผสานการทำงานระหว่างคลาวด์ เอไอ และไอโอทีจะช่วยผลักดันให้เกิดสมาร์ทซิตี้ในระดับประเทศ ส่วนภาคเอกชน การผสานของเทคโนโลยีดังกล่าวจะช่วยปรับกระบวนการดำเนินงานขององค์กรธุรกิจให้ “สมาร์ท” และ “อัตโนมัติ” ในหลายมิติ

โดยระบบเครือข่ายรวมไปถึงแอพพลิเคชั่นต่างๆ ของไอโอที จะทำหน้าที่เก็บรวบรวมข้อมูลจากหลายส่วนแล้วส่งขึ้นไปให้เอไอช่วยประมวลผลบน ส่งผลให้องค์กรธุรกิจในประเทศไทยที่ประยุกต์ใช้เทคโนโลยีดังกล่าวสามารถลดต้นทุนการประกอบการ เพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานหลังบ้าน และส่งมอบประสบการณ์ที่ดีขึ้นให้แก่ลูกค้า

สุรศักดิ์ วนิชเวทย์พิบูล หัวหน้าเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคโนโลยี แผนกธุรกิจคลาวด์ ประเทศไทย หัวเว่ย กล่าวเสริมว่า หัวเว่ยคลาวด์ถือเป็นผู้ให้บริการระดับโลกรายแรก และเป็นรายเดียวในปัจจุบันที่มีศูนย์ข้อมูลในประเทศไทยสองศูนย์ เพื่อรองรับการให้บริการคลาวด์โดยเฉพาะ 

ขณะนี้การให้บริการลูกค้าครอบคลุมทั้งในอุตสาหกรรมค้าปลีก การเงินการธนาคาร รวมไปถึงการผลิตรายใหญ่ของประเทศ จุดต่างธุรกิจมีทั้งด้านความเร็วในการรับส่งข้อมูล ความหน่วงต่ำ ปลอดภัย และอยู่ภายใต้กฎหมายของประเทศไทย