'ธนาธร'ชี้'ไอโอกองทัพ'ทำปชช.แตกแยก สร้างความชอบธรรมยึดอำนาจ

'ธนาธร'ชี้'ไอโอกองทัพ'ทำปชช.แตกแยก สร้างความชอบธรรมยึดอำนาจ

"ธนาธร" ซัด "กองทัพ" เอาภาษีปชช. ทำไอโอ หวังสร้างความเกลียดชัง เมื่อปชช. แตกแยก เป็นความชอบธรรมให้ทหารยึดอำนาจ "พรรณิการ์" ยก งานวิจัย มหาลัยดัง ปฏิบัติการคุณภาพต่ำ ไร้ฝีมือ ชี้ "ก้าวไกล-ก้าวหน้า" ไม่ได้รับผลกระทบ

นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า และนางสาวพรรณิการ์ วานิช แกนนำคณะก้าวหน้า ร่วมจัดรายการเฟซบุคไลฟ์ประจำสัปดาห์ก้าวหน้าทอล์คเมื่อวันที่ 9 .. เวลา20.00 . โดยช่วงหนึ่งมีการพูดถึงกรณีที่ทวิตเตอร์เปิดโปงปฏิบัติการ IO โดยรัฐ ที่ใช้แพลทฟอร์มทวิตเตอร์ในการบิดเบือนข้อมูลข่าวสาร และละเมิดนโยบายของทวิตเตอร์ ซึ่งประกอบไปด้วย 1,594 บัญชีใน 5 ประเทศ คืออิหร่าน ซาอุดิอาระเบีย คิวบา ไทย และรัสเซีย ซึ่งบัญชีที่ถูกสั่งปิดไปในประเทศไทยอย่างเดียว มีจำนวนมากถึง 926 บัญชี ที่เชื่อมโยงกับกองทัพไทย มีเนื้อหาสนับสนุนกองทัพ สนับสนุนรัฐบาล และโจมตีฝ่ายตรงข้าม โดยเฉพาะสมาชิกพรรคอนาคตใหม่เดิมและพรรคก้าวไกล

โดยน..พรรณิการ์ กล่าวว่า เรื่องนี้เชื่อมโยงไปถึงผลการวิจัยของมหาวิทยาลัยแสตนฟอร์ด ที่เอาข้อมูลมาเปิดเผย ว่าปฏิบัติการ IO ของกองทัพไทยเป็นปฏิบัติการคุณภาพต่ำ ในจำนวน926 บัญชี มีถึง 684 บัญชีที่ไม่มีผู้ติดตามเลย และเกือบ 800 บัญชีไม่เคย tweet อะไรนอกจากretweet ปั่นกระแสอย่างเดียว โดยมียอด engagement ที่ต่ำมากในระดับ 0.26 ต่อ tweet จนนักวิจัยเรียกว่าเป็นปฏิบัติการ เชียร์ลีดเดอร์นำเชียร์ที่ไม่มีกองเชียร์จริง นอกจากนี้ รายงานของมหาวิทยาลัยแสตนฟอร์ดยังระบุด้วยว่าบัญชีที่เป็นปฏิบัติการของกองทัพไทยนี้ มีการ mention ถึงบัญชีของสมาชิกและ ..ของพรรคก้าวไกลอย่างน้อย 9 คน โดยบัญชีของตนเป็นบัญชีที่ถูกmention มากที่สุด หมายความว่าเราเป็นเป้าหมายที่สำคัญที่สุดของปฏิบัติการเหล่านี้

"พูดตรงๆ ว่าพรรคเราในฐานะที่เป็นพรรคการเมืองนักการเมืองไม่ได้รับผลกระทบมากมายอะไรจากปฏิบัติการของ IO ในทวิตเตอร์ เพราะมันประสิทธิภาพต่ำมาก พูดง่ายๆ ก็คือไม่มีฝีมือมันไม่สามารถทำอะไรได้ ต่างจากในเฟสบุ๊คซึ่งถือว่ามีขุมกำลังที่น่ากลัวอยู่พอสมควร แต่สิ่งที่เรากังวลมากกว่าผลกระทบต่อเราก็คือภาษีของประชาชน ถูกนำไปใช้ในการยุยงปลุกปั่นสร้างความเกลียดชังในหมู่ประชาชนหรือ..พรรณิการ์ กล่าว

ขณะที่ นายธนาธร กล่าวว่า เรื่องนี้ทำให้ตนจำเป็นต้องพูดถึงผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ทั้งคนเก่าและคนใหม่ เมื่อประมาณ 2-3 เดือนที่แล้วตอนที่ตนยังเป็นกรรมาธิการงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2564 ระหว่างที่ พล..อภิรัชต์ คงสมพงษ์ อดีต ผบ.ทบ. มาชี้แจงงบประมาณของกองทัพบก ตนได้ถาม พล..อภิรัชต์ ว่าตกลงกองทัพมีปฏิบัติการ IO หรือไม่ เป็นหนึ่งในคำถามสำคัญ พล..อภิรัชต์ ตั้งใจที่จะไม่ตอบเรื่องนี้ แต่ให้ผู้ใต้บังคับบัญชาเป็นผู้ตอบต่อที่ประชุม ว่ากองทัพไม่มีปฏิบัติการ IO  ย้อนกลับไปเมื่อปีที่แล้ว พล..พงศกร รอดชมภู อดีตรองหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ และหนึ่งในกรรมการบริหารคณะก้าวหน้า ในระหว่างที่เป็นกรรมาธิการความมั่นคง ก็เคยเชิญ พล..อภิรัชต์ มาถามคำถามนี้ ซึ่งก็ได้คำตอบเหมือนกันคือไม่มี แต่วันนี้ปรากฏว่าสิ่งที่นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ..พรรคก้าวไกล ได้อภิปรายในการอภิปรายไม่ไว้วางใจเมื่อต้นปีที่ผ่านมา บวกกับการเปิดโปงโดยทวิตเตอร์เองนี้ เป็นที่ชัดเจนว่าวันนี้มีการเอาภาษีของประชาชนมาสร้างความเกลียดชังในหมู่ประชาชนให้เกลียดชังกันเอง

   

"วันนี้เราอยู่ในเดือนตุลาคม เราเพิ่งผ่านการรำลึกเหตุการณ์ 6 ตุลาคม 2519 ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่เป็นอาชญากรรมโดยรัฐมาเมื่อไม่กี่วันมานี้เอง มีประชาชนที่ถูกสังหารกลางกรุงเทพอย่างโหดเหี้ยม แล้วพื้นฐานของการอนุญาตให้เกิดเหตุการณ์แบบนั้นในวันที่ 6 ตุลาคม ก็เกิดจากการสร้างความเกลียดชังให้ประชาชนเกลียดชังกันเอง สังคมที่สร้างความเกลียดชัง เพาะเมล็ดพันธุ์แห่งความเกลียดชังไว้ พอมันเติบโตขึ้นมาแล้วมันหยุดไม่อยู่ รูปแบบการทำงานของรัฐไทยเป็นอย่างนี้มาตลอด คือปลุกปั่นยุยง สร้างความเกลียดชังให้เกิดขึ้นในหมู่ประชาชน เมื่อประชาชนแตกแยกกันก็เป็นความชอบธรรมที่ทหารจะเข้ามายึดอำนาจ ที่ทหารจะเข้ามาปราบปราม ตนคิดว่าเรื่องนี้น่ากลัวมาก และขอยืนยันว่า 1.มันเป็นการใช้งบประมาณที่ไม่ถูกต้อง เอาภาษีของประชาชนมาทำให้ประชาชนเกลียดกันเองไม่ได้ 2.การเพาะเมล็ดพันธุ์แห่งความเกลียดชังสุดท้ายจะนำไปสู่ความรุนแรง ไปดูสงครามที่ไหนก็อย่างนี้ เกลียดกันเพราะความเชื่อทางศาสนา เพราะสีผิว เพราะชาติพันธุ์ เพราะความเชื่อทางการเมืองเพียงเพื่อต้องการรักษาอำนาจไว้ กรณีนี้ก็เหมือนกัน" นายธนาธร กล่าว

    

นายธนาธร กล่าวว่า ถ้าเราต้องเรียนรู้อะไรจากเหตุการณ์ 6 ตุลาคมสักอย่างหนึ่งก็น่าจะเป็นเรื่องนี้ ว่าการสร้างความเกลียดชังไม่นำไปสู่การแก้ปัญหา จะนำไปสู่การเข่นฆ่ากัน จะนำไปสู่ความรุนแรงในท้ายที่สุด ตนเชื่อว่าสังคมจะเดินหน้าต่อไป ไม่ใช่ความเกลียดชังที่เราต้องการแต่เป็นการหันหน้าเข้าหากัน ขับเคลื่อนสังคมด้วยความเห็นอกเห็นใจกัน ขับเคลื่อนสังคมด้วยการให้เกียรติซึ่งกันและกัน ไม่ใช่ขับเคลื่อนสังคมด้วยความเกลียดชัง