จับตาอัยการฯ สั่ง 'ฟ้อง-ไม่ฟ้อง' ม็อบ 'ขอนแก่นพอกันที'

9 ต.ค.63 นายธนภณ เดิมทำรัมย์ พร้อมด้วยนายวชิรวิทย์ เทศศรีเมือง นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือเพนกวิน แกนนำสหภาพนักเรียน นิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทย และนายปฏิวัติสาหร่ายแย้ม พร้อมกลุ่มผู้ชุมรุมได้มารวมตัวกันที่บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย อ.เมืองจ.ขอนแก่น เพื่อเข้าพบพนักงารอัยการ จ.ขอนแก่น ตามหมายเรียก และร่วมเดินขบวนรณรงค์ให้ประชาชนชาวขอนแก่น ออกมาร่วมชุมนุมในวันที่ 14 ต.ค.

ทั้งนี้ พ.ต.อ.ปรีชา เร่งสาริกิจ ผกก.สภ.เมืองขอนแก่น ได้แจ้งสิทธิ์การชุมนุม ตามข้อกฎหมายและมาตรการควบคุมโรคจากสถานการณ์โควิด พร้อมส่งเจ้าหน้าที่ตรวจสอบป้ายที่ผู้ชุมนุม โดยพบว่ามีป้ายที่ผู้ชุมนุมเตรียมมามี 1 ป้ายที่มีข้อความหมิ่นเหม่ต่อสถาบัน เจ้าหน้าจึงขอตรวจยึด แต่ผู้ชุมนุมไม่พอใจและยื้อแย่งป้ายจนเกือบการปะทะ จากนั้นกลุ่มผู้ชุมนุมได้ร่วมกันเดินขบวนออกจากอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย มุ่งหน้าถนนศรีจันทร์ เพื่อมายังสำนักงานอัยการจังหวัดตามการนัดหมาย โดยมีป้ายใช้ป้ายข้อความต่างๆจนกระทั่งเดินมาได้ประมาณ 100 เมตรเจ้าหน้าที่ตรวจพบว่ามีการถือป้ายข้อความว่าหมิ่นเหม่ต่อสถาบัน เจ้าหน้าที่จึงเข้าเจรจาเพื่อขอยึดป้ายจนเกิดการปะทะคารม ทำให้เจ้าหน้าที่ได้วางกำลัง พร้อมสั่งการปิดการจราจร ถนนศรีจันทร์ ไปจนถึงสี่แยกเตียวฮง ตัด ถ.หน้าเมือง

สำหรับการเข้ารายงานตัวและพบกับพนักงานอัยการ จ.ขอนแก่น วันนี้เป็นการดำเนินการตามขั้นตอนการสอบสวนภายหลังจากวันที่10 ก.ย.2563 พนักงานสอบสวน สภ.เมืองขอนแก่น มีหมายเรียกให้แกนนำกลุ่ม "ขอนแก่นพอกันที" ที่ได้ร่วมชุมนุมเมื่อวันที่ 23 ก.ค.2563 ในกิจกรรมขอนแก่นพอกันที ที่บริเวณสวนรัชดานุสรณ์ ให้มาพนักงานอัยการเมื่อวันที่ 25 ก.ย.2563 ตามขั้นตอนของกฎหมาย ซึ่งมีรายชื่อแกนนำ ประกอบด้วย นายจตุภัทร์ บุญภัทรรักษา หรือ "ไผ่ ดาวดิน" นายธนภณ เดิมทำรัมย์ นายวชิรวิทย์ เทศศรีเมือง นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ แกนนำสหภาพนักเรียน นิสิต นักศึกษาแห่งประเทศไทย และนายปฏิวัติ สาหร่ายแย้ม

ฐานความผิดร่วมกันจัดให้มีกิจกรรม ซึ่งมีผู้เข้าร่วมเป็นจำนวนมากในลักษณะมั่วสุมกัน หรือมีโอกาสติดต่อสัมผัสกันง่าย หรือกระทำการดังกล่าวอันเป็นการยุยงให้เกิดความไม่สงบเรียบร้อย หรือในลักษณะที่เสี่ยงต่อการแพร่เชื้อโรค หรือฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของเจ้าพนักงานควบคุมโรค อย่างไรก็ตาม ภายหลังการสอบสวนตามข้อกล่าวหาเสร็จสิ้น พนักงานอัยการ จ.ขอนแก่น จะพิจารณาอีกครั้งว่าจะสั่งฟ้องผู้ต้องหาทั้ง 5 คนต่อศาลแขวง จ.ขอนแก่น หรือไม่