'รัฐบาล'ค้านข้อเรียกร้อง'คณะราษฎร'ปม'ปฏิรูปสถาบัน'อยู่ใต้'รธน.'

'รัฐบาล'ค้านข้อเรียกร้อง'คณะราษฎร'ปม'ปฏิรูปสถาบัน'อยู่ใต้'รธน.'

"อนุชา" ห่วง นิสิตนักศึกษา ชุมนุม "14ตุลาฯ" นำสู่สถานการณ์เลวร้าย วอน ทำตามกรอบ "รธน." ชี้ ใช้ชื่อ "คณะราษฎร" เหตุที่ผ่านมาไม่สำเร็จ จี้ สังคมตอบเอาด้วยหรือไม่ ลั่น หัวเด็ดตีนขาด ไม่เอาด้วย "ปฏิรูปสถาบัน" เพราะมีคุณูปการทำบ้านเมืองปลอดภัยมา

ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุชา นาคาศัยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการชุมนุมของ "กลุ่มคณะราษฎร" ในวันที่ 14ตุลาคม นี้ว่า ไม่เห็นว่ามีอะไรแตกต่างจากครั้งก่อน และนำไปสู่สถานการณ์ที่เลวร้าย ถือเป็นการแสดงออกของนักเรียนและนักศึกษา ซึ่งเป็นลูกหลาน ที่มาแสดงออกตามสิ่งที่เขาคิดเขาเห็น และสิ่งที่เขาอยากให้มันเกิด อีกส่วนหนึ่งก็อยู่ที่ประชาชนเห็นด้วยหรือเห็นต่างอย่างไร เราต้องรอดูผลความคิดเห็นของสังคมส่วนรวมด้วย ถ้าถามว่าเป็นกังวลหรือไม่ ก็ต้องบอกว่าเป็นกังวล เป็นห่วง นิสิต นักศึกษาที่เป็นลูกหลาน อยากให้ทุกฝ่ายดำเนินการตามขอบเขตรัฐธรรมนูญตามขอบเขตประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นพระประมุข ซึ่งความเห็นต่างไม่ใช่เรื่องแปลก แต่การดำเนินการให้บ้านเมืองสงบสุข นำความเห็นต่างสู่เวทีประชาธิปไตยที่เราอยากเห็น โดยไม่เกิดวิบัติ กับชาติบ้านเมือง โดยกลุ่มที่ออกมาเคลื่อนไหวจะได้เข้าใจขึ้นเป็นตามลำดับ ตามที่เขาได้พยายามเรียกร้อง

นายอนุชา กล่าวว่า ขณะนี้ คงประเมินอะไรได้ไม่มากว่าผู้ชุมนุมจะมามากหรือน้อยกว่าวันที่ 19 ..ที่ผ่านมา แต่คงมีผู้ร่วมอุดมการณ์ และคงอยู่ในกรอบตามที่เขาดำเนินมา และคงไม่แตกต่างไปกว่าเดิม  ส่วนที่มีการเปลี่ยนชื่อเป็นกลุ่มคณะราษฎรนั้น ส่วนตัวคิดว่า เป็นเรื่องธรรมดาที่เขาจะเปลี่ยนมิติ เพราะที่ผ่านมายังไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่เขาคิด จึงเปลี่ยนรูปแบบเพื่อหาแนวร่วมเพิ่มเติม เป็นสิ่งที่เราวิเคราะห์ ไม่เป็นไรถือเป็นความคิดเห็นและเขาต้องการให้เกิดขึ้นในบ้านเมือง แต่สังคมต้องการด้วยหรือไม่ สังคมต้องตอบ อยู่ที่ประชาชนคนไทย จะเป็นผู้ตอบโจทย์ประเทศจะไปในทิศทางไหน


นายอนุชา กล่าวว่า อยากวิงวอนนิสิต นักศึกษาหันหน้ามาคุยกันเพื่อหาทางออกให้ประเทศรัฐบาล และนายกฯมีความจริงใจ และเป็นห่วงลูกหลานทุกคนไม่มีความคิดเป็นอย่างอื่น ไม่มีความคิดมาดร้ายหรือคุกคาม แต่บางครั้งผู้ชุมนุมอาจเกินเลยขอบเขตกฎหมาย เราก็เห็นกันอยู่เราก็รู้อยู่แก่ใจว่ามันเกินเลยแล้ว แต่รัฐบาลหรือผู้เกี่ยวข้องอะลุ่มอล่วยให้เขาได้แสดงออก ทั้งนี้เราต้องช่วยนำพาประเทศพ้นวิกฤติ โดยเฉพาะโควิด-19 การชุมนุมก็มีความเสี่ยง แต่ก็ไม่รู้จะพูดอย่างไรเพราะเขาก็บอกว่าเป็นสิทธิ

เมื่อถามถึง หนึ่งในข้อเรียกร้องให้ปฏิรูปสถาบันอยู่ใต้รัฐธรรมนูญ  นายอนุชา กล่าวว่า บ้านเมืองเรามีเสาหลัก ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ มานาน ที่เราไม่ต้องเป็นเมืองขึ้นของใคร ไม่อยู่ภายใต้ระบบเผด็จการ เรามาแถลงข่าวยืนพูด เดินขบวนกันได้ขนาดนี้ นับเป็นโชคดีของประเทศไทย ที่เรามีเสาหลัก ที่สามารถคานอำนาจสิ่งที่ไม่คาดฝันเหมือนที่ประเทศอื่นได้รับ นี่คือสิ่งที่เป็นคุณูปการที่เราได้รับมา ส่วนตัวถ้ามีเรื่องนี้ไม่เอาแน่นอน หัวเด็ดตีนขาด ก็ไม่มีตนอยู่ในนั้นแน่นอนในการคิดและเปลี่ยนในสิ่งนี้ ถ้ามีเรื่องนี้ตนก็เดินตรงข้ามอย่างเต็มที่ เว้นเรื่องนี้เรื่องเดียว เรื่องอื่นคุยได้หมด เพราะเรื่องนี้คิดว่าเป็นเรื่องของชาติบ้านเมืองที่เราอยู่ปลอดภัยมาบางครั้งอะไรที่เราควรจะอดทนอดกลั้นเพื่อประเทศที่สงบและมีเสาหลักคานให้เราอยู่ได้เป็นที่ค้ำยันให้เรามีเสรีภาพในระบอบของเมืองไทยของเรา และเมืองไทยของเราไม่จำเป็นต้องคิดเหมือนคนอื่น100% และสิทธิเสรีภาพที่เราก็ค่อนข้างสูงแล้วในโลกใบนี้