หนังเล่าโลก:The Lunchbox ส่งอาหารป่วนยุคโควิด

หนังเล่าโลก:The Lunchbox ส่งอาหารป่วนยุคโควิด

หนังเล่าโลก:The Lunchbox ส่งอาหารป่วนยุคโควิด ขณะอีร์ฟาน ข่าน พระเอกของเรื่องผู้ได้ชื่อว่าเป็นนักแสดงมากฝีมือคนหนึ่งของวงการบอลลีวู้ดได้จากแฟนภาพยนตร์ไปเมื่อวันที่ 29 เมษายน ด้วยวัย 53 ปี

สำหรับคนดูหนังหลายคนคงมีนิสัยถ้าเจอเรื่องที่ประทับใจก็ต้องดูหลายรอบ แถมต้องซื้อแผ่นมาเก็บไว้ดูต่อยามคิดถึง ส่วนตัวผู้เขียนนั้นภาพยนตร์อินเดียเรื่อง The Lunchbox ฝีมือผู้กำกับ Ritesh Batra ผลงานเมื่อปี 2556 เข้าฉายในเมืองไทยเมื่อเดือน เม.ย.2557 เป็นอีกเรื่องหนึ่งทำให้เกิดพฤติกรรมแบบนี้ แต่พิเศษตรงที่ว่า นอกจากดูซ้ำตอนเข้าฉายรอบแรกแล้ว ยังตามไปดูในโรงภาพยนตร์อีกครั้งเมื่อไม่กี่วันก่อนเมื่อหนังถูกนำกลับมาฉายซ้ำอีกใน 6 ปีให้หลัง ซึ่งคราวนี้เป็นการดูหนังอินเดียที่ไม่มีฉากวิ่งๆ ด้วยมุมมองที่แตกต่างออกไป เพราะเป็นการดูภายใต้บรรยากาศโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) ระบาดไปทั่วโลกและยังไม่มีทีท่าอ่อนแรงลงง่ายๆ

ความแตกต่างประการแรกของการดูรอบนี้คือ อีร์ฟาน ข่าน พระเอกของเรื่องผู้ได้ชื่อว่าเป็นนักแสดงมากฝีมือคนหนึ่งของวงการบอลลีวู้ดได้จากแฟนภาพยนตร์ไปเมื่อวันที่ 29 เมษายน ด้วยวัย 53 ปี อีร์ฟานเคยประกาศเมื่อเดือน มี.ค.2561 ว่าตนป่วยด้วยโรคมะเร็งที่พบได้ยาก ก่อนเสียชีวิตเพียง 1 วันพระเอกดังเข้ารักษาตัวในห้องไอซียูโรงพยาบาลโคคิลาเบน ดิรุไบ อัมบานิ ในเมืองมุมไบ เนื่องจากมีการติดเชื้อในลำไส้ใหญ่ก่อนจะเสียชีวิต

ไม่นานหลังประกาศข่าวอีร์ฟานเสียชีวิตแล้ว ร่างของเขาถูกฝังที่สุสาน Versova Kabristan ในมุมไบ ท่ามกลางความอาลัยของครอบครัว ญาติสนิทและเพื่อนๆ แม้เขาจะจากไปเพราะมะเร็งไม่เกี่ยวอะไรกับโควิดที่กำลังเล่นงานอินเดียอย่างหนักหน่วง จนรัฐบาลต้องสั่งล็อกดาวน์ทั่วประเทศในช่วงนั้น แต่การแพร่ระบาดของไวรัสร้ายก็ทำให้แฟนภาพยนตร์ไม่สามารถมาอำลาอาลัยกับพระเอกในดวงใจได้ ว่ากันว่าถ้าสถานการณ์ปกติคอหนังอินเดียจะต้องมาร่ำลาอีร์ฟานเป็นครั้งสุดท้ายชนิดที่โรงพยาบาลแตกเป็นแน่

จากพระเอกมาถึงเนื้อเรื่อง ตัวหนังใช้ระบบส่งปิ่นโตอาหารเที่ยงอันเลื่องชื่อของมุมไบ (คนส่งอาหารเรียกว่า Dabbawalas หรือ Dabba) เป็นตัวสานต่อความสัมพันธ์ระหว่าง “สายัณ เฟอร์นันเดส” นักบัญชีพ่อม่ายวัยใกล้เกษียณกับ “อิลา” แม่บ้านสาวสวยผู้ถูกสามีนอกใจแน่นอนว่าเมื่อโควิดระบาด Dabbawalas ที่ให้บริการมานานกว่า 125 ปีก็หนีผลกระทบไปไม่พ้น ในฐานะคนที่ชื่นชอบภาพยนตร์เรื่อง The Lunchbox เมื่อได้ข่าวอินเดียล็อกดาวน์ก็อดคิดไม่ได้ว่า แล้วคนส่งปิ่นโตจะอยู่กันอย่างไร

เว็บไซต์ Gulfnews รายงานว่า ก่อนโควิดระบาดมุมไบมีคนส่งอาหารเที่ยง 5,000 ราย บริการลูกค้ากว่า 200,000 คน ครั้นประเทศถูกล็อกดาวน์ โรงเรียนปิด สำนักงานปิด เปิดทำการได้แค่ 30% จากของเดิม ประชาชนส่วนใหญ่ใช้วิธีเวิร์กฟรอมโฮม อีกทั้งทางการไม่อนุญาตให้เหล่า Dabba ใช้บริการรถไฟ คนที่จะส่งต้องปั่นจักรยานไปส่งเอง ดังนั้นการส่งปิ่นโตอาหารเพียงไม่กี่รายต่อวันจึงไม่คุ้มค่ากับการเสี่ยง

สภาพการณ์เช่นนี้สร้างความยากลำบากให้กับเหล่า Dabba ที่ขาดแคลนรายได้อย่างหนัก คนที่ออกมาช่วยเหลือมีเพียงองค์กรทางสังคมและผู้บริจาคเป็นรายบุคคลเท่านั้น ซึี่งแน่นอนว่าเงินช่วยเหลือเท่านี้ไม่พอยาไส้ Dabba หลายคนถึงกับต้องเปลี่ยนอาชีพหันไปขับสามล้อแทน ด้านสมาคม Dabba แห่งมุมไบก็รวมตัวกันเรียกร้องความช่วยเหลือทางการเงินจากรัฐบาลท้องถิ่นรัฐมหาราษฏระ

ข่าวล่าสุดจากเว็บไซต์อินเดียเอกซ์เพรสรายงานว่า สิ่งที่เหล่า Dabba รอคอยมานานหลายเดือนได้เป็นจริงแล้ว เมื่อวันที่ 30 ก.ย.รัฐมหาราษฏระอนุญาตให้พวกเขาเดินทางโดยรถไฟขบวนท้องถิ่นได้โดยจะต้องขอคิวอาร์โค้ดจากตำรวจก่อน แต่การกลับมาคราวนี้ของ Dabbawalas ไม่ง่ายเหมือนเดิมเนื่องจากความต้องการลดลงเข้าถึงลูกค้าได้จำกัดกว่าแต่ก่อน เป็นความยากลำบากเหมือนกับที่หลายๆ อาชีพต้องประสบ การได้กลับมาชมภาพยนตร์เรื่อง The Lunchbox อีกครั้งยิ่งเป็นเครื่องเตือนใจว่า ไม่มีอาชีพไหนหนีพ้นเงื้อมมือของโควิดและเราต้องอยู่กับไวรัสนี้ให้ได้แม้ยังไม่มีวัคซีน