‘ไทยพาณิชย์’ ชี้ศก.เริ่มฟื้น เอสเอ็มอีเกินครึ่งชำระหนี้

‘ไทยพาณิชย์’ ชี้ศก.เริ่มฟื้น เอสเอ็มอีเกินครึ่งชำระหนี้

“ไทยพาณิชย์” ลั่นพร้อมช่วยเหลือลูกหนี้เต็มที่ สั่งเกาะติดกลุ่มเอสเอ็มอีใกล้ชิด หวังต่อยอดการช่วยเหลือเพิ่มเติม คาด 50% กลับมาชำระหนี้ได้ตามปกติ ส่วนแผนธุรกิจ SCB10X ล่าสุดรุกลงทุนใน "สตาร์ทอัพ" บริษัทคลังสินค้าออนไลน์

นายอารักษ์ สุธีวงศ์ ผู้จัดการใหญ่ ธนาคารไทยพาณิชย์ และ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอสซีบี เท็นเอกซ์ จำกัด กล่าวว่า กรณีที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เร่งให้ธนาคารพาณิชย์ต่างๆ พิจารณามาตราการและเร่งปรับโครงสร้างหนี้ให้กับลูกหนี้ที่ได้รับผลกระทบจากโรคโควิด-19 นั้น ปัจจุบันธนาคารไทยพาณิชย์ได้เข้าไปช่วยเหลือลูกหนี้ทุกกลุ่มอย่างต่อเนื่องอยู่แล้ว

โดยเฉพาะลูกหนี้กลุ่มเอสเอ็มอี ที่ธนาคารเข้าไปหารือและพูดคุยอย่างใกล้ชิด เพื่อดูว่าธนาคารจะสามารถเข้าไปช่วยเหลือลูกค้ากลุ่มเหล่านี้อย่างไรได้บ้าง รวมไปถึงการให้ความช่วยเหลือ โดยการปรับโครงสร้างหนี้ให้ลูกค้าต่อเนื่อง เมื่อลูกค้าหมดมาตรการช่วยเหลือของธนาคาร

ทั้งนี้ จากการสอบถามพูดคุยกับลูกหนี้แต่ละกลุ่มที่ผ่านมา โดยเฉพาะเอสเอ็มอี เริ่มมีสัญญาณว่า ลูกหนี้ที่ขอความช่วยเหลือจากแบงก์ผ่านมาตรการต่างๆ ในช่วงที่ผ่านมา เริ่มออกจากโครงการได้ และเริ่มมีศักยภาพในการกลับมาชำระหนี้ได้ในสัดส่วนที่สูงเกิน 50% แล้วในปัจจุบัน หากเทียบกับลูกหนี้ที่เคยเข้าโครงการช่วยเหลือจากธนาคารทั้งหมด

 ซึ่งธุรกิจที่เริ่มเห็นการฟื้นตัว ส่วนใหญ่เป็นธุรกิจที่เน้นการพึ่งพาเศรษฐกิจในประเทศ ดังนั้นเมื่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจเริ่มกลับมา ธุรกิจเหล่านี้ก็เริ่มกลับมาดีขึ้น

อย่างไรก็ตาม พบว่าลูกหนี้เอสเอ็มอีบางกลุ่มธุรกิจ ก็ยังต้องการความช่วยเหลืออย่างต่อเนื่อง เช่นธุรกิจ ที่ได้รับผลกระทบโดยตรงจากโควิด-19 เช่น อุตสาหกรรม ส่งออก อุตสาหกรรมท่องเที่ยว โรงแรมต่างๆ ที่แบงก์ต้องประคองและช่วยเหลือลูกหนี้ต่อไป ขณะเดียวกันมีบางกลุ่มที่เริ่มมีสัญญาณดีขึ้น และรับการช่วยเหลือแบบไม่เต็มรูปแบบ เช่น ขอยืดเวลาชำระหนี้อีกสักระยะ หรือจ่ายเฉพาะดอกเบี้ย หรือเงินต้น เท่านั้นเผื่อให้สามารถผ่านพ้นวิกฤตระยะนี้ไปก่อน

“ลูกหนี้เอสเอ็มอีเราพบว่าเกินครึ่ง ที่มีสัญญาณออกจากโครงการ โดยเฉพาะโครงการพักหนี้ ที่จะทยอยหมดต.ค.นี้ และไม่ต้องการช่วยเหลือจากแบงก์ต่อ แต่มีส่วนหนึ่งที่ขอความช่วยเหลือต่อ แต่ไม่ใช่การช่วยเหลือเต็มรูปแบบ ซึ่งโดยรวมถือว่าดีขึ้น ส่วนลูกหนี้ที่ต้องช่วยเหลือต่อเช่น ท่องเที่ยว โรงแรม ส่งออก เหล่านี้ยังต้องช่วยต่อ เพราะซับพลายเชนสะดุด แต่ก็มีบางรายที่กลับมาจ่ายหนี้ได้ เช่นธุรกิจที่ทำธุรกิจหลากหลาย ไม่ได้ทำโรงแรมอย่างเดียว เหล่านี้ก็กลับมาจ่ายหนี้ได้บ้าง แต่ธุรกิจที่พึ่งพารายได้ท่องเที่ยวเป็นหลักกลุ่มนี้ก็ต้องช่วยเหลืออย่างใกล้ชิด”

สำหรับลูกหนี้รายย่อย ปัจจุบันเริ่มเห็นลูกหนี้ กลับมาชำระหนี้ได้ปกติแล้ว ราว 70% จากลูกหนี้ทั้งหมดที่เคยเข้าขอรับการช่วยเหลือ หลังมาตรการช่วยเหลือทยอยครบกำหนด ซึ่งถือว่าเป็นไปตามประมาณการที่ธนาคารประเมินไว้

ส่วนแผนธุรกิจของ SCB10X ล่าสุด ได้ประกาศเข้าไปลงทุนในสตาร์ทอัพรายใหญ่ คือ MyCloudFulfillment ซึ่งเป็นบริษัทสตาร์ทอัพที่ทำเกี่ยวกับบริษัทคลังสินค้าออนไลน์ครบวงจร โดย SCB10X ถือเป็นหนึ่งในผู้ลงทุนที่เข้าไปลงทุนในบริษัทนี้ เนื่องจากบริษัทมีทิศทางการเติบโตอย่างรวดเร็ว

โดยเฉพาะช่วงโควิด-19 ที่เริ่มเห็นการเปลี่ยนผ่านของผู้บริโภคมุ่งไปสู่ดิจิทัลมากขึ้น ทำให้การซื้อสินค้าผ่านช่องทางอีคอมเมิร์ซเติบโตได้ก้าวกระโดด ส่งผลให้ความต้องการด้านบริการคลังสินค้าออนไลน์เป็นที่ต้องการมากขึ้น ตามการขยายตัวของธุรกิจอีคอมเมิร์ซและโลจิสติกส์ที่มีโอกาสเติบโตสูงขึ้นได้อีกในอนาคต