'วิลาศ' คุ้ยทุจริต 'ถุงมือยาง' อคส.แสนล้าน เปิดชื่อ คนใน-คนนอก ร่วมธุรกิจ

'วิลาศ' คุ้ยทุจริต 'ถุงมือยาง' อคส.แสนล้าน เปิดชื่อ คนใน-คนนอก ร่วมธุรกิจ

"วิลาศ" ลุยตรวจโกดัง จับพิรุธทุจริต "อคส." จัดซื้อ "ถุงมือยาง" 3 บริษัทวงเงิน 1.1 แสนล้าน ปูดจ่ายไปแล้ว 2 พันล้าน จี้ "บิ๊กตู่" นำคนผิดลงโทษ

นายวิลาศ จันทร์พิทักษ์ อดีตส..กทม.พรรคประชาธิปัตย์ แถลงข่าวถึงโครงการจัดซื้อถุงมือยางขององค์การคลังสินค้า(อคส.) มูลค่า112,500 ล้านบาท ว่า เชื่อว่าโครงการการจัดซื้อไม่น่าจะโปร่งใส แต่ใครจะทุจริตเป็นอีกหนึ่งจึงต้องตรวจสอบเพื่อหาผู้ที่รับผิดชอบ ซึ่งโครงการนี้เริ่มตั้งแต่วันที่ 22 มิ..2563 แต่กลับมีการส่งสัญญาณอะไรบางอย่างออกมา เพราะมีการจดทะเบียนบริษัทด้วยทุนจดทะเบียน 5 ล้านบาท ชื่อว่าบริษัทการ์เดียน โกลฟ์ จำกัด มีวัตถุประสงค์ว่าประกอบกิจการซื้อขายนำเข้าและส่งออกถุงมือยางและอุปกรณ์ทางการแพทย์ โดยมีผู้ถือหุ้นจำนวน 3 คน ซึ่งหนึ่งในนั้นมีประวัติมีคดีความหลายคดี ทั้งนี้ ภายหลังการจดทะเบียนตั้งบริษัทเสร็จสิ้น ขบวนการก็เริ่มโดยการทำสัญญาซื้อขายระหว่าง อคส. กับบริษัทการ์เดียน โกลฟ์ จำกัด ซึ่งมีพนักงานรัฐวิสาหกิจเป็นผู้ประสาน รวมถึงมีบุคคลภายนอก อคส. 2 คนที่เกี่ยวข้อง มีอักษรย่อนาย "." ซึ่งเป็นอดีตสื่อมวลชนที่รู้จักคนใน อคส. และนาย "." ซึ่งเป็นอดีตข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ในกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์(พม.)

3 บริษัทติดต่อซื้อถุงมือยาง

นายวิลาศ กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ เมื่อมีการจดทะเบียนเป็นบริษัทแล้ว นาย "." ซึ่งเป็นอดีตสื่อมวลชนได้โพสต์ข้อความเกี่ยวกับถุงมือยางเป็นจำนวนมาก อาทิ วันที่ 5 ..2563 มีการโพสต์ว่า "มันก็ไม่ได้ยากอะไรหรอกครับ แค่ยังไม่รู้ก็เรียนรู้มันซะ เลวลึกเท่าไหร่ก็ไปไกลได้มากเท่านั้น แค่ได้ชื่อว่าถุงมือแพทย์ก็ใช่ว่าต้องเก่งระดับดอกเตอร์ถึงจะเข้าใจมัน" นอกจากนี้ยังมีการโพสต์ภาพถุงมือยางไว้ด้วยโดยคนใน อคส.ได้พูดว่า นาย "." เป็นผู้นัดแนะให้บริษัทการ์เดียน โกลฟ์ จำกัด ได้พบกับ อคส.จากนั้นวันที่ 25 ..2563 มี 3 บริษัทติดต่อมาที่ อคส.เพื่อจะขอซื้อถุงมือยาง และทำสัญญาโดยบริษัทแรกขอซื้อ 500 ล้านกล่องราคากล่องละ 100 บาท รวมเป็น 50,000 ล้านชิ้น ซึ่งบริษัทนี้มีสำนักงานตั้งอยู่ที่รัฐเท็กซัส สหรัฐอเมริกา ส่วนบริษัทที่สอง ตั้งอยู่ที่จ.นนทบุรี ทำกิจการแปรรูปถนอมผลไม้ มาขอซื้อถุงมือยาง 52 ล้านกล่อง รวม 5,200 ล้านชิ้น และบริษัทที่สาม มาขอซื้อถุงมือยาง 100 ล้านกล่อง

ล็อคซื้อ บ.การ์เดียน โกลฟ์

"ทั้ง 3 บริษัทรวมจัดซื้อทั้งหมด 652 ล้านกล่อง เป็นเงิน 112,500 บาท ที่แปลกก็คือได้ทำสัญญากับ อคส.แล้วโดยในสัญญาระบุอีกว่าต้องการองถุงมือยางจากบริษัทการ์เดียน โกลฟ์ จำกัด ทั้งที่ อคส.ไม่เคยทำเรื่องถุงมือยาง และขณะนั้น อคส.ก็ยังไม่รู้ว่าจะมีการทำสัญญากับบริษัทการ์เดียน โกลฟ์เลย จำกัด จึงต้องถามว่าหากไม่มีแผนล่วงหน้าจะรู้ได้อย่างไรว่าบริษัทนี้จะทำสัญญากับ อคส."นายวิลาศ กล่าว

พบไม่มีประกวดราคา

นายวิลาศ กล่าวว่า จากนั้นวันที่ 26 ..2563 มีการประชุมบอร์ด อคส.แต่กลับสั่งให้ไม่มีบันทึกการประชุม ต่อมาวันที่ 27 ..2563 ทางอคส.ได้ไปเจรจากับบริษัทการ์เดียน โกลฟ์ จำกัด โดยมีการตกลงว่าจะจ่ายเงินล่วงหน้า 2 พันล้านบาท ซึ่งบริษัทการ์เดียน โกลฟ์จำกัด ก็ไม่มีโรงงานผลิตถุงมือยาง ตนจึงได้ไปที่บริษัทการ์เดียน โกลฟ์ จำกัด ซึ่งพบว่าเป็นโกดังจึงไม่ทราบว่าโรงงานผลิตอยู่ที่ไหน แต่ก็มีการตกลงว่าต้องจ่ายเงินล่วงหน้า 2 พันล้านบาท แต่ไม่มีการประกวดราคาเลย มีเพียงการเจรจาตกลงกัน โดยอ้างว่า อคส.มีระเบียบที่จะจัดซื้อได้ จนมาถึงวันที่ 28 ..2563 มีการประชุมจากคณะกรรมการเพื่อพิจารณาการนำเงินไปลงทุนของ อคส.โดยรักษาการผู้อำนวยการ อคส.ได้เสนอว่ามีสัญญาได้ทำ จะขายถุงมือยางได้ 112,500 ล้านบาท ถือเป็นโครงการเร่งด่วนมีความจำเป็นจะต้องอนุมัติโดยเร็ว เพราะจะทำกำไรให้ อคส.มหาศาล จึงขอคณะกรรมการนำเงินลงทุน 2 พันล้านบาท เพื่อไปจ่ายให้บริษัทการ์เดียนโกลฟ์ จำกัด

เคยเป็นตำรวจยศ "พันเอก"

"บริษัทการ์เดียน โกลฟ์ จำกัด ซึ่งมีแต่โกดัง ได้ไปนัดเซ็นสัญญากับ อคส.วันที่ 31 ..2563 ซึ่งรักษาการผู้อำนวยการ อคส.คนนี้บอกว่า ที่คณะกรรมการอนุมัติเงินลงทุนจำนวน 2 พันล้านบาท ไม่ต้องนำเข้าเสนอบอร์ดเพื่อพิจารณานั้น เพราะระเบียบข้อบังคับของบอร์ดระบุว่า หากมีการเซ็นสัญญาอยู่ที่ 25 ล้านบาท จะอยู่ในอำนาจผู้อำนวยการ อคส. ถ้าอยู่ที่ 25-50 ล้านบาท อยู่ที่อำนาจประธานบอร์ดถ้าอยู่ที่ 50 ล้านบาทขึ้นไปต้องเข้าพิจารณาในคณะกรรมการบอร์ด แต่รักษาการผู้อำนวยการ อคส.เคยเป็นตำรวจยศ ... และเป็นผู้กำกับสอบสวนมาก่อนบอกว่า ข้อบังคับของ อคส.ไม่ได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษา จึงไม่มีผลใช้บังคับ ทำให้ไม่ต้องปฏิบัติตามและไม่ต้องขออนุมัติจากบอร์ด จึงสงสัยว่ามีใครอยู่เบื้องหลังหรือไม่"นายวิลาศ กล่าว

ทยอยส่งของภายใน ธ.ค.65

นายวิลาศ กล่าวว่า ทั้งนี้ สัญญาที่เซ็นต์เมื่อวันที่ 31 ..2563 เขียนไว้ว่าจะซื้อถุงมือยางสารสังเคราะห์ จำนวน 500 ล้านกล่อง กำหนดทยอยส่งภายในเดือน ..2565 โดยกำหนดจะจ่ายเงินล่วงหน้า 2 พันล้าน แต่ในสัญญาไม่มีข้อไหนเขียนว่า หากมีการผิดสัญญาเงินจำนวน 2 พันล้านบาทจะทำอย่างไร จึงมีการทำสัญญากันเสร็จเรียบร้อย โดยอ้างว่าสัญญานี้ไม่ต้องผ่านอัยการสูงสุดเพราะ อคส.เคยทำสัญญาจัดซื้อข้าว ก็มีร่างทำสัญญาที่ผ่านอัยการสูงสุดมาแล้ว ก็นำสัญญาการจัดซื้อครั้งนี้เทียบไปกับสัญญาซื้อข้าว ต่อมาวันที่ 1 ..2563 คณะรัฐมนตรี(ครม.) มีมติอนุมัตินายเกรียงศักดิ์ ประทีปวิศรุต เป็นผู้อำนวยการบอร์ด อคส.คนใหม่ จนมีการสั่งการกันภายในให้นายเกรียงศักดิ์ ยังไม่ต้องมาที่ อคส.วันที่ 2 ..2563 แต่ให้มาวันที่ 8 ..2563 เพื่อขั้นตอนจัดซื้อถุงมือยางดำเนินการให้เสร็จเรียบร้อยก่อน ทำให้วันที่ 2 ..2563 มีการจ่ายเงินล่วงหน้าจำนวน 2 พันล้านบาท

ใบปลิวว่อน อคส.

"มีการบอกกันว่าโครงการนี้ต้องรีบเร่งจะทำ ต้องรีบเร่งเซ็นต์จ่ายเงินล่วงหน้า เมื่อถึงวันที่ 8 ..2563 นายเกรียงศักดิ์มาทำงาน จนพนักงาน อคส.ที่เริ่มรู้เรื่องนี้ได้พิมพ์ใบปลิวแล้วแจกใน อคส.กันว่อนไปหมด โดยสิ่งที่พนักงานโจมตีหนักที่สุดคือบริษัทการ์เดียนโกลฟส์ จำกัด มีทุนจดทะเบียน 5 ล้านบาท แต่ไปจ่ายเงินล่วงหน้าได้อย่างไร 2 พันล้านบาท จึงเป็นที่ฮือฮากันมาก"นายวิลาศ กล่าว

เพิ่มทุนจดทะเบียน 2.5 พันล้าน

นายวิลาศ กล่าวว่า ต่อมาวันที่ 14 .. พล..ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ออกคำสั่งที่ 31/2563 ย้ายรักษาการผู้อำนวยการอคส.ไปประจำที่ทำเนียบรัฐบาล แต่วันนี้กลับยังไม่มีคำสั่งจากนายกรัฐมนตรีว่าจะทำอย่างไรก็เงิน 2 พันล้านบาท จนถึงวันที่ 15 ..2563 นายเกรียงศักดิ์ได้ตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงขึ้นมา โดยมีผู้ตรวจการกระทรวงพาณิชย์เป็นประธานคณะกรรมการชุดนี้แต่ไม่รู้ว่าตั้งจริงจังหรือแค่บังหน้า เพราะในคำสั่งบอกว่าให้ตรวจสอบการใช้อำนาจรักษาการผู้อำนวยการ อคส.ว่าทำถูกกฎหมายหรือระเบียบหรือไม่ แต่ไม่พูดถึงเลยว่าต้องสอบทุจริต ทั้งที่พนักงาน อคส.เห็นว่ามีทุจริต จากนั้นวันที่ 15 ..2563 บริษัทการ์เดียนโกลฟส์ จำกัด ได้ไปเพิ่มทุนจดทะเบียนจากเดิม 5 ล้านบาทเพิ่มเป็น 2,500 ล้านบาท

"ไม่รู้ว่าเอาเงินมาจากไหน แต่การจดทะเบียนเพิ่มทุนมีการใช้หนังสือรับรองจากธนาคาร 4 บัญชี เป็นเงิน 2,800 ล้านบาท แต่เมื่อเป็นเรื่องเกิดข้ึนบริษัทการ์เดียน โกลฟส์ จำกัด นำของไปส่งที่โกดังของคลังสินค้าอยู่ที่ข้างธนาคารกสิกรไทย ริมแม่น้ำเจ้าพระยา โดยมีรักษาการผู้อำนวยการ อคส.เป็นผู้ไปรับ ทั้งที่ในสัญญาบอกไว้ว่า อคส.ต้องไปรับมอบเองที่โกดังของบริษัทการ์เดียน โกลฟส์ จำกัด ที่อำเภอบางเลน จังหวัดนครปฐม"นายวิลาศ กล่าว

ยกเลิกสัญญา-ยื่น"ดีเอสไอ" 

นายวิลาศ กล่าวอีกว่า วันที่ 17 ..2563 มีการประชุมบอร์ด อคส.แล้วให้ยกเลิกสัญญาให้เป็นโมฆะ เพราะไปเซ็นต์สัญญาเกิน 25 ล้านบาท ซึ่งเกินอำนาจของรักษาการผู้อำนวยการ อคส. จากนั้นวันที่ 18 ..2563 บอร์ด อคส.ได้มอบอำนาจให้นายเกรียงศักดิ์ ร้องทุกข์กล่าวโทษที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) จึงเชื่อว่าโครงการนี้ไม่บริสุทธิ์แน่นอน แต่วันนี้กลับยังไม่มีการเรียกบริษัทการ์เดียนโกลฟส์ จำกัด มาพูดคุยว่าจะเป็นอย่างไร

จี้นายกฯ ปราบทุจริต

"รัฐบาลประกาศตลอดว่าเป็นรัฐบาลปราบทุจริต วันนี้นายกฯหรือ รมว.พาณิชย์ต้องสั่งเอาคนผิดมาลงโทษ ซึ่ง อคส.มีเงินหมุนเวียน3,230 ล้านบาท แต่อยู่ดีๆถอนเงิน 2 พันล้านออกไปจากเงินฝากประจำ หากเงินจำนวนนี้ยังอยู่ถึงต้นเดือน ..จะได้ดอกเบี้ยอยู่ที่ 3.7 ล้านบาท จึงต้องมีผู้รับผิดชอบ"นายวิลาศ กล่าว