'สุพัฒนพงษ์' แนะ 4 ฝ่ายเจรจายืดพักชำระหนี้

'สุพัฒนพงษ์' แนะ 4 ฝ่ายเจรจายืดพักชำระหนี้

“สุพัฒนพงษ์” แนะ 4 ฝ่าย สถาบันการเงิน-ลูกหนี้เอกชน เจรจายืดพักชำระหนี้เป็นรายกรณี ยันไม่แทรกแซงการทำงานของ ธปท. ลั่น ยังไม่คิดเรื่องแต่งตั้งประธานบอร์ด ปตท.คนใหม่

นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กล่าวถึงข้อเสนอของภาคเอกชนที่ต้องการให้รัฐบาลออกมาตรการพักชำระหนี้ให้ผู้ประกอบการเป็นเวลา 2 ปีว่า การปรับโครงสร้างหนี้ เป็นอำนาจการพิจารณาของธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) ซึ่งรัฐบาลไม่สามารถเข้าไปแทรกแซงได้ ซึ่งเรื่องนี้ ทางผู้ประกอบการและสถาบันการเงิน ควรไปหารือร่วมกันให้ตกผลึก ตามแนวทางที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้กำชับไปแล้วให้เสร็จภายในปีนี้

ดังนั้น 4 ฝ่าย คือ ธปท. และผู้ประกอบการทั้ง สถาบันการเงิน สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ซึ่งมีข้อมูลของลูกหนี้ดีอยู่แล้ว ควรพูดคุยกันเป็นรายกรณีไป ซึ่งหากได้ข้อสรุปอย่างไร ก็ดำเนินการตามแนวทางที่ตกลงกันได้เลย โดยไม่จำเป็นต้องนำเสนอศูนย์บริหารสถานการณ์เศรษฐกิจที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 หรือ ศบศ. พิจารณา

อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมา รัฐบาลได้เดินหน้าออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจภายใต้ 3 แนวทางหลัก คือ เติมเงินบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ โครงการคนละครึ่ง และโครงการช้อปดีมีคืน รวมวงเงินที่จะหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจประมาณ 200,000 ล้านบาท ถือว่ามาตรการเหล่านี้เพียงพอแล้ว เหลือแค่รอระยะเวลาให้มาตรการนี้ส่งผลต่อการกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างแท้จริง

“เราอยากไปมองว่าเศรษฐกิจไม่ดี เพราะทุกประเทศเผชิญกับโควิด-19 หมด แต่ให้ดูว่าเราดีกว่าหลายๆประเทศ มาตรการที่รัฐบาลทำไปเพียงพอแล้ว รอแค่การออกผล และตอนนี้ ผมกำลังคิดว่า จะหาของขวัญอะไรให้คนกรุงเทพฯเป็นของขวัญปีใหม่ดี แต่จะไม่ใช่การให้เงิน”  

ส่วนสถานการณ์การเมืองในเดือนต.ค.นี้ ที่จะมีการนัดรวมตัวของกลุ่มประชาชนและนักศึกษานั้น ส่วนตัว ไม่มีความกังวล หากเป็นการรวมตัวแบบมีเหตุผล และอยู่ภายใต้กติกา มาแบบถูกกฏหมาย ก็สามารถแสดงความคิดเห็นต่างทางด้านการเมืองได้ แต่ถ้ามาแบบไม่มีเหตุผลก็มีกฎหมายดูแลอยู่แล้ว ตอนนี้ รัฐบาลก็มอว่าจะดูแลน้องๆ คนรุ่นใหม่ที่แสดงออกทางความคิดให้มีความปลอดภัยสูงสุด และไม่ได้มองว่าเป็นฝ่ายตรงข้าม เพราะเด็กรุ่นใหม่ก็เปรียบเสมือนเป็นลูก หลาน ลูกผมยังคิดต่าง ทุกคนคิดต่างได้ ขอให้ทุกคนสบายใจ นี่คือสิ่งดีงามที่ประเทศไทยมีอยู่

160214965210

นายสุพัฒนพงษ์ กล่าวถึงกระแสข่าวการแต่งตั้งประธานคณะกรรมการ(บอร์ด) บริษัท ปตท.จำกัด(มหาชน) แทนนายไกรฤทธิ์ อุชุกานนท์ชัย เป็นประธาน และจะครบวาระการดำรงตำแหน่งและอายุครบ 65 ปี โดยจะมีการเสนอรายชื่อ นายกุลิศ สมบัติศิริ ปลัดกระทรวงพลังงาน เข้าท้าชิงตำแหน่งว่า

เรื่องนี้ ยังไม่ได้คิด และก็เป็นเรื่องปกติเมื่อมีตำแหน่งว่างลง ก็จะต้องมีการสรรหาผู้ที่จะมาดำรงตำแหน่งประธานบอร์ดปตท.แทน ขอให้ทุกคนอย่ายึดติดตัวบุคคล