เปิด '2 ไทม์ไลน์' กกต. ศึกชิง อบจ.76 จังหวัด
ไทม์ไลน์จัดเลือกตั้ง นายก อบจ.ไปจนถึง "กรอบเวลา" การเลือกตั้งท้องถิ่นรูปแบบอื่น ในสถานการณ์ทางการเมืองที่ส่งผลต่อความเป็นไปของท้องถิ่นทั้งสิ้น
พลันที่คณะรัฐมนตรี(ครม.) มีมติให้จัดเลือกตั้งท้องถิ่น โดยประเดิม นายก-สมาชิก องค์การบริหารส่วนจังหวัด(อบจ.) ทั้ง 76 จังหวัดรวม 380 คน เป็นรูปแบบแรก จากนั้นจึงมอบหมายให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) กำหนดวันเลือกตั้งภายในปี 2563 ถือเป็นการเลือกตั้งท้องถิ่นครั้งแรก หลังมีกฎหมายเลือกตั้งท้องถิ่นฉบับใหม่ประกาศออกมา
เป็นเส้นสตาร์ทสำคัญตั้งแต่คำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) ที่ 1/2557 เมื่อ 25 ธ.ค.2557 แช่แข็งนักการเมืองท้องถิ่นทั้งหมด 98,940 ตำแหน่ง จนมาถึงครบวาระการดำรงตำแหน่งของสมาชิกและผู้บริหารท้องถิ่นขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ทั่วประเทศ ตั้งแต่เดือน พ.ค.2561 เมื่อสนาม "อบจ." กำลังเป็นหัวหาดแรก เพื่อวัดกำลังตระกูลการเมืองท้องถิ่นวางเครือข่ายในสมาชิกองค์การบริหารส่วนจังหวัด(สจ.)
โดยเฉพาะตัวเลข สจ.ครั้งนี้ได้ถูกกำหนดตามสัดส่วนจำนวนประชากรแต่ละจังหวัด แบ่งเป็น ประชากรไม่เกิน 5 แสนคน มี สจ. 24 คนประชากรไม่เกิน 1 ล้านคน มี สจ. 30 คน ประชากรไม่เกิน 1.5 ล้านคน มี สจ. 36 คน ประชากร ไม่เกิน 2 ล้านคน มี สจ. 42 คน และประชากรเกิน 2 ล้านคนขึ้นไป จะมี สจ.ได้ถึง 48 คน
ทำให้จังหวัดที่มี สมาชิก อบจ.มากที่สุดของประเทศ อยู่ที่ จ.นครราชสีมา มีสมาชิก อบจ.48 คน ขณะที่จังหวัดที่มี สมาชิก อบจ.42 คนมีทั้งหมด 7 จังหวัด 1.ขอนแก่น 2.ชลบุรี 3.เชียงใหม่ 4.นครศรีธรรมราช 5.บุรีรัมย์ 6.อุดรธานี และ 7.อุบลราชธานี จังหวัดที่มีสมาชิกอบจ.ได้ 36 คนมี 12 จังหวัด จังหวัดที่มีสมาชิก อบจ.ได้ 30 คนมี 33 จังหวัด และจังหวัดที่มีสมาชิก อบจ.ได้ 24 คนมีอีก 23 จังหวัด
เมื่อมีมติ ครม. 6 ต.ค.2563 "ปลดล็อค" ประตูบานแรกในสนาม "อบจ." ทำให้จากนี้ กกต.ต้องจัดเลือกตั้งหลังจากที่ได้รับแจ้งจากครม.ภายใน 60 วัน ภายใต้พระราชบัญญัติ(พ.ร.บ.)การเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่น หรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ.2562 และระเบียบคณะกรรมการการเลือกตั้งว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นและผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ.2562 ซึ่งมี 4 ขั้นตอนสำคัญ ประกอบด้วย
1.ภายหลัง กกต.ได้รับแจ้งจาก ครม.แล้ว จะออกประกาศกำหนด "ให้มี" การเลือกตั้งนายกและสมาชิกองค์การบริหารส่วนจังหวัด(อบจ.) ทั้ง 76 จังหวัด
2.หัวหน้าพนักงานส่วนท้องถิ่น ประกอบด้วย ปลัดองค์การบริหารส่วนจังหวัด ปลัดเทศบาล ปลัดองค์การบริหารส่วนตำบล จะแจ้งให้ผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำจังหวัดทราบ เพื่อเตรียมการจัดให้มีการเลือกตั้ง ส่วนผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำจังหวัดให้รายงานให้ กกต.ทราบโดยเร็ว
3.ผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น มีหน้าที่เสนอ "ร่างประกาศ" ให้มีการเลือกตั้งให้ผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำจังหวัดเห็นชอบ ซึ่งในประกาศดังกล่าวจะมีรายละเอียดที่สำคัญ ตั้งแต่ วันเลือกตั้ง ระยะเวลาการสมัครรับเลือกตั้ง เขตเลือกตั้ง หลักฐานการสมัครรับเลือกตั้ง
4.เมื่อผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำจังหวัด เห็นชอบประกาศให้มีการเลือกตั้งแล้ว ผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จะประกาศให้มีการเลือกตั้งก่อนวันเลือกตั้งไม่น้อยกว่า 30 วัน
แต่เงื่อนไขการเลือกตั้งท้องถิ่น "ครั้งแรก" ตามบทเฉพาะกาลในมาตรา 142 พ.ร.บ.การเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ.2562 บัญญัติให้การเลือกตั้งอยู่ที่ กกต.เป็นผู้กำหนด แต่หากถึงการเลือกตั้งท้องถิ่นครั้งต่อไป ให้ใช้บทหลักซึ่งให้อำนาจจากผู้อำนวยการเลือกตั้งประจำองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น โดยความเห็นชอบของผู้อำนวยการเลือกตั้งประจำจังหวัดเป็นผู้ประกาศ 6 ข้อกำหนด ดังนี้
1.วันเลือกตั้ง 2.วันรับสมัครเลือกตั้ง ต้องให้มีการเริ่มรับสมัครไม่เกิน 10 วัน นับแต่วันประกาศให้มีการเลือกต้ัง และต้องกำหนดวันรับสมัครไม่น้อยกว่า 5 วัน 3.สถานที่รับสมัครเลือกตั้ง 4.จำนวนสมาชิกสภาท้องถิ่นที่จะมีการเลือกตั้งในแต่ละเขตเลือกตั้งหรือผู้บริหารท้องถิ่น ในเขตเลือกต้ัง 5.จำนวนเขตเลือกตั้ง ซึ่งต้องมีรายละเอียดเก่ียวกับอำเภอหรือตำบลหรือเขตท้องที่ที่อยู่ ภายในเขตเลือกตั้ง และ 6.หลักฐานการสมัครรับเลือกตั้ง
เมื่อเช็คความพร้อมของ กกต.พบว่า ขณะนี้ดำเนินการไปแล้ว 4 ขั้นตอน
1.ออกระเบียบและประกาศกกต.แล้ว
2.แบ่งเขตเลือกตั้งของอบจ.ครบทุกแห่งและประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้ว
3.สรรหา กกต.ประจำองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นครบแล้ว
4.อบรมผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำจังหวัด ผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และผู้ปฏิบัติงานที่เกี่ยวข้องในระดับจังหวัดและระดับอำเภอ จำนวน 10,749 คน ตั้งแต่ ก.ย.2563 ส่วนการอบรม กกต.ประจำหน่วยเลือกตั้ง จะดำเนินการเมื่อมีการประกาศให้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่นขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นนั้นๆ
ขณะที่ความพร้อมจาก "กระทรวงมหาดไทย" ดำเนินการไปแล้ว 3 ขั้นตอน ประกอบด้วย
1.ข้อมูลจำนวนราษฎรที่ใช้ในการแบ่งเขตเลือกตั้งสำนักทะเบียนกลาง "กรมการปกครอง" ได้ประกาศจำนวนราษฎรทั่วราชอาณาจักรตามหลักฐานการทะเบียนราษฎร
2.การรวมหมู่บ้านเป็นเขตเลือกตั้งสำหรับการเลือกตั้งขององค์การบริหารส่วนตำบล(อบต.) กรณีหมู่บ้านใดในเขต อบต.มีราษฎรตามหลักฐานการทะเบียนไม่ถึง 25 คน ให้รวมหมู่บ้านนั้นกับหมู่บ้านที่มีพื้นที่ติดต่อกัน ดำเนินการเรียบร้อยแล้ว
3.ความพร้อมด้านงบประมาณค่าใช้จ่ายในการเลือกตั้งท้องถิ่น กระทรวงมหาดไทยได้แจ้งจังหวัดกำชับส่วนท้องถิ่น เตรียมการจัดทำงบประมาณรายจ่ายประจำปี พ.ศ.2564 เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่นไว้เป็นการล่วงหน้า
แหล่งข่าวเปิดเผยกับ "กรุงเทพธุรกิจ" ว่า เบื้องต้นได้ "ร่าง" กำหนดวันเลือกตั้ง อบจ.ไว้ 2 วัน ระหว่างวันอาทิตย์ที่ 13 ธ.ค. หรือวันอาทิตย์ที่ 20 ธ.ค. เพื่อให้เป็น "โรดแมพ" ขั้นตอนและระยะเวลาที่เจ้าหน้าที่ต้องปฏิบัติตาม พ.ร.บ.การเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นและผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ.2562 ดังนี้
"ไทม์ไลน์แรก" วันที่ 28 ต.ค.2563 กกต.ประกาศให้มีการเลือกตั้ง อบจ. 5-9 พ.ย. เปิดรับสมัครเลือกตั้ง 27 พ.ย.วันสุดท้ายที่ผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น แจ้งรายชื่อผู้มีสิทธิเลือกตั้งไปยังเจ้าบ้าน 2 ธ.ค.วันสุดท้ายการเพิ่ม/ถอนชื่อผู้มีสิทธิเลือกตั้ง และ 13 ธ.ค.วันเลือกตั้ง อบจ.
"ไทม์ไลน์สอง" วันที่ 28 ต.ค.2563 กกต.ประกาศให้มีการเลือกตั้ง อบจ. 9-13 พ.ย.เปิดรับสมัครเลือกตั้ง 5 ธ.ค.วันสุดท้ายที่ผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น แจ้งรายชื่อผู้มีสิทธิเลือกตั้งไปยังเจ้าบ้าน 12 ธ.ค.ผู้สมัครแต่งตั้งตัวแทนผู้สมัครประจำหน่วยเลือกตั้ง และ 20 ธ.ค.วันเลือกตั้ง อบจ.
ประเด็นสำคัญขณะนี้ อยู่ที่ "เพดาน" จัดเลือกตั้งท้องถิ่น หากจะจัดเลือกตั้งวันอาทิตย์ที่ 13 ธ.ค.ให้สอดคล้องกับช่วงที่ ครม.มีมติให้หยุดยาววันที่ 10-13 ธ.ค. ยังอยู่ในช่วง 60 วันตามกฎหมายกำหนด หรือหากขยับเป็นวันอาทิตย์ที่ 20 ธ.ค. ถือเป็นวันที่ 54 ตามกรอบระยะเวลา 60 วันที่สมาชิกหรือผู้บริหารท้องถิ่นต้องพ้นจากตำแหน่งเพราะ "เหตุอื่น" ตามมาตรา 11 วรรคหนึ่งของ พ.ร.บ.เลือกตั้งท้องถิ่น บนเงื่อนไขในกรอบ 60 วัน หาก กกต.ประกาศวันเลือกตั้งยังอยู่ในวันที่ 28 ต.ค.2563
นอกจากนี้ ยังพบว่าในหนังสือ "สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี" ที่ นร.0503/31136 ลงวันที่ 6 ต.ค.2563 ลงนามโดยนางสาวสาวิตรี ชํานาญกิจ รองเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ปฏิบัติราชการแทนเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ไปถึงเลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง เรื่อง "เสนอคณะรัฐมนตรีเห็นสมควรให้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นและผู้บริหารท้องถิ่นขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น" มีเนื้อหาส่วนหนึ่งระบุถึงการให้มีการเลือกตั้ง อบจ.ก่อนการเลือกตั้งท้องถิ่นอื่น
ส่วนการเลือกตั้งท้องถิ่น "ประเภทอื่น" จะพิจารณาต่อไป โดยคำนึงถึงสถานการณ์ เช่น ระยะห่างกับการดำเนินการตามกระบวนการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ (การลงประชามติ การเลือกตั้งสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ(ส.ส.ร.) และความพร้อมของ กกต.)
นี่เป็นข้อมูลล่าสุด ต่อความพร้อมและไทม์ไลน์จัดเลือกตั้ง นายก อบจ. สมาชิกสภา อบจ. ไปจนถึง "กรอบเวลา" การเลือกตั้งท้องถิ่นรูปแบบอื่น ในสถานการณ์ทางการเมืองที่ส่งผลต่อความเป็นไปของท้องถิ่นทั้งสิ้น.