"ส.ว." ชี้ เยาวชนไม่เคยรู้ปัญหาการเมืองจากของจริง ท้าทำสำรวจ "เด็ก" ที่เตรียมชุมนุม

"ส.ว."  ชี้ เยาวชนไม่เคยรู้ปัญหาการเมืองจากของจริง ท้าทำสำรวจ  "เด็ก" ที่เตรียมชุมนุม

ในงานสัมมนาของกมธ.การเมือง ส.ว.ว่าด้วยการสร้างพลเมืองตามวิถีประชาธิปไตย ตอนหนึ่งของเวทีระบุถึงเยาวชนท่ีเตรียมชุมนุม ว่าไม่เคยรู้ปัญหาการเมืองจากของจริง

           คณะกรรมาธิการ (กมธ.) การพัมนาการเมืองและการมีส่วนร่วมของประชาชน วุฒิสภา จัดเวทีสัมมนา เรื่อง การสร้างพลเมืองตามวิถีประชาธิปไตยในบริบทไทย โดยมีนักวิชาการและนักการเมืองที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมเวที
           โดย นายดิเรกฤทธิ์ เจนรองธรรม ส.ว. ฐานะประธานคณะอนุกรรมาธิการ (กมธ.) การพัฒนาการเมือง กล่าวว่า ปัญหาทางการเมืองไทยที่สำคัญ คือ พรรคการเมืองไม่เป็นของประชาชน เมื่อเทียบกับพรรคการเมืองของประเทศจีน แม้เป็นคอมมิวนิสต์แต่ระบบภายในพรรคการเมืองมีกระบวนการคัดเลือกตัวแทนจากมณฑลต่างๆ นอกจากนั้นยังขาดการปลูกฝังแนวความคิดตามหลักการปกครองระบอบประชาธิปไตย คือ ยอมรับเสียงส่วนใหญ่ และเคารพ พร้อมกับรับฟังเสียงส่วนน้อย , รับผิดชอบต่อส่วนรวม หมายถึงเคารพกติกา เคารพกฎหมาย ไม่ใช่เลือกเคารพกติกาที่เป็นประโยชน์ให้กับตนเองเท่านั้น 

           “เด็กที่มาชุมนุม นับจากนี้ไม่รู้ว่าเยอะหรือน้อย ผมมองว่าควรทำสำรวจ ว่าพวกเขาเคยสนใจสภาตำบลของเขาหรือไม่หรือรู้ปัญหาชุมชนของพวกเขาหรือไม่ ทั้งนี้จากการลงพื้นที่ ทั้งจ.เชียงราย และ จ.สิงห์บุรี พบว่าการเรียนรู้การเมืองไม่เคยมาจากของจริง ผมลองคิดว่าหากพยายามทำหลักสูตร หรือวิธีการเรียนรู้จากชุมชน เช่น ระดับประถมศึกษา ให้ดูปัญหาในหมู่บ้านของตนเอง ให้เด็กเข้าร่วมการประชุมสภาตำบล สภาเทศบาลจะเกิดการเรียนรู้ หากให้เยาวชนมีส่วนร่วมกับสภาตำบล เชื่อว่าจะเกิดความรู้ความเข้าใจในการปกครอง และเห็นนักกาารเมืองของเขาต่อการแก้ปัญหา” นายดิเรกฤทธิ์ กล่าว

           ด้านพ.ต.อ.จรุงวิทย์ ภุมมา เลขาธิการคณะกรรมการกาเลือกตั้ง(กกต.) กล่าวถึงบทบาทของกกต.​ต่อการสร้างพลเมืองที่ดี ว่า ตั้งแต่ปี 2557 กกต.จริงจังต่อการส่งเสริมการให้ความรู้กับพลเมือง หลังจากที่มีประเด็นว่าการเลือกตั้งไม่สุจริต เพราะนักการเมืองแจกเงิน กกต.เผยแพร่หลักสูตรพลเมืองวิถีประชาธิปไตย ให้ความรู้กับประชาชนต่อการเลือกตั้ง การใช้สิทธิเพื่อเลือกให้คนดีเข้าสู่สภา ว่ คนที่ดีต้องมีจิตสาธารณะ ต้องไม่ทุจริต เคารพสิทธิของผู้อื่นมากกว่าสิทธิของตนเอง ยกตัวอย่างว่าไม่พอใจจะไรก็ปิดถนน เรียกร้องสิทธิของตนเอง ฉะนั้นจึงมีพ.ร.บ.ชุมนุมที่เวลาจะชุมนุมที่ไหนต้องไปขออนุญาต นั่นคือการเคารพระเบียบสังคม และมีส่วนร่วมอย่างแข็งขัน 

           ด้าน นายสติธร ธนานิธิโชติ ผู้อำนวยการสำนักนวัตกรรมเพื่อประชาธิปไตย สถาบันพระปกเกล้า กล่าวว่าการสร้างวิธีประชาธิปไตยต้องสลายขั้วระหว่าง ประชาธิปไตย กับ ประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข เพราะหากพูดแค่คำว่า ประชาธิปไตยอาจมีปัญหาขึ้นได้ ทั้งนี้การปกครองของประเทศไทยเป็นเหมือนกับสากลทั่วโลก แต่คำว่ามีพระมหากษัตริย์ คือความสัมพันธ์ระหว่างสถาบัน ฐานะองค์พระประมุข มีหน้าที่ต่อรัฐ กับประชาชน ทั้งนี้การสร้างพลเมืองในสังคม มีตัวอย่างจากต่างประเทศ  อาทิ ประเทศญี่ปุ่น ประเทศนอร์เวย์ ที่ประสบความสำเร็จเรื่องพลเมือง เพราะการปลูกฝังให้เคารพสิทธิ เสรีภาพ ของบุคคลอื่น