'กุลิศ' ยัน พลังงานยึดโปร่งใส พร้อมร่วมมือ ป.ป.ท.รวบ 2 ข้าราชการ ซี8 เรียกรับผลประโยชน์

'กุลิศ' ยัน พลังงานยึดโปร่งใส พร้อมร่วมมือ ป.ป.ท.รวบ 2 ข้าราชการ ซี8 เรียกรับผลประโยชน์

“พลังงาน” ยืนยัน ยึดการทำงานโปร่งใส ดึง “วิชา มหาคุณ” นั่งประธานคณะกรรมการจริยธรรม สกัดความไม่โปร่งใสในราชการ สร้างความมั่นใจเอกชน หลังร่วมมือ ป.ป.ท. จับกุม 2 ข้าราชการเรียกรับเงินเอื้อออกใบอุญาตฯเปลี่ยนคลังน้ำมัน

นายกุลิศ สมบัติศิริ ปลัดกระทรวงพลังาน เปิดเผยว่า ตามที่มีข่าวว่า วันนี้(5ต.ค.) สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) ได้ประสานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการป้องกันและปรบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) เข้าจับกุม จนท.ของกระทรวงพลังงาน ในข้อหามีพฤติการณ์เรียกรับผลประโยชน์จากผู้ประกอบการนั้น  

ทางกระทรวงพลังงาน ได้รับการประสานจาก ป.ป.ท.ตามขั้นตอนแล้ว และยืนยันว่า หาก จนท.กระทำความผิดจริงก็ให้ดำเนินการกรอบกฎหมาย โดยกรณีดังกล่าว ทางกรมธุรกิจพลังงานในฐานะหน่วยงานต้นสังกัด อยู่ในระหว่างการเร่งประสาน สน.บางซื่อ เพื่อนำใบแจ้งความ จนท.รายดังกล่าว มาประกอบคำสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อน และจะมีการตั้งคณะกรรมการสอบวินัยร้ายแรง และต้องสรุปผลให้ได้ภายใน 7 วัน

“ที่ผ่านมา กรมธุรกิจฯ ได้บัตรสนเท่ห์ จากผู้ประกอบการ ซึ่งได้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบและประสาน ป.ป.ท. แล้ว ซึ่งจะเป็นกรณีตัวอย่างที่แสดงให้เห็นว่า กระทรวงพลังงาน ยึดหลักความโปร่งใสเป็นธรรม และตรวจสอบได้”

อีกทั้ง กรณีนี้ ยังแสดงให้เห็นถึงความเชื่อมั่นของผู้ประกอบการ ที่มีต่อกระทรวงพลังงาน และกล้าร้องเรียนไม่ชอบธรรมดังกล่าว ดังนั้น เชื่อมั่นว่า กรณีนี้จะเป็นตัวอย่างให้เห็นว่ากระทรวงพลังงานเอาจริง เพื่อไม่ให้เกิดการกระทำผิดซ้ำ        

ทั้งนี้ กระทรวงพลังงานขอยืนยันว่ากระทรวงพลังงานเป็นหน่วยงานราชการที่จะยึดถือผลประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชนเป็นสำคัญ

นอกจากนี้ กระทรวงพลังงานยังได้เชิญ นายวิชา มหาคุณ อดีตกรรมการ ป.ป.ช. มาเป็นประธานคณะกรรมการจริยธรรม เพื่อมาดูเรื่องการปราบปรามทุจริตคอรัปชั่น ซึ่งเป็นเรื่องที่กระทรวงพลังงานให้ความสำคัญและเน้นย้ำกับข้าราชการและพลังงานจังหวัดทั่วประเทศให้ยึดความโปร่งใสในการทำงาน  

สำหรับการจับกุมดังกล่าว เกิดขึ้นในวันนี้ (5 ต.ค.)โดย พ.ต.ท.วันนพ สมจินตนากุล เลขาธิการ ป.ป.ท. ได้รับแจ้งจากผู้บริหารระดับสูงกระทรวงพลังงานว่า มีเจ้าหน้าที่รัฐสังกัดกระทรวงพลังงาน เรียกรับผลประโยชน์จากบริษัทเอกชนรายหนึ่ง เพื่อดำเนินการยื่นเรื่องขอแก้ไขเปลี่ยนแปลงการประกอบกิจการคลังน้ำมัน โดยผู้เสียหาย ซึ่งเป็นบุคคลที่ได้รับมอบอำนาจจากบริษัทแห่งหนึ่ง ให้ดำเนินการยื่นเรื่องขอแก้ไขเปลี่ยนแปลงการประกอบกิจการคลังน้ำมัน ที่กองความปลอดภัยธุรกิจน้ำมัน กรมธุรกิจพลังงาน เมื่อวันที่ 22 ก.ค.63 ซึ่งได้ไปยื่นเรื่องแบบคำขอศูนย์บริการธุรกิจพลังงาน กรมธุรกิจพลังงาน เพื่อขอเปลี่ยนแปลงการประกอบกิจการคลังน้ำมัน ระยะที่ 1 (ชลบุรี)

โดยมีนายฐาปณพงษ์ พาสนพัฒน์ ตำแหน่งวิศวกรชำนาญการ สังกัดกองความปลอดภัยธุรกิจน้ำมัน เป็นเจ้าหน้าที่รับเรื่อง และมีอำนาจหน้าที่ดำเนินการเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว ซึ่งนายฐาปณพงษ์  ได้แจ้งให้ผู้เสียหายไปพบที่ร้านกาแฟแห่งหนึ่ง แล้วแจ้งว่าให้แก้ไขแบบที่ยื่นฯ โดยไม่มีการลงนามแจ้งแก้ไขเป็นลายลักษณ์อักษร ซึ่งผู้เสียหายได้ยินยอมที่จะแก้ไข เนื่องจากต้องการให้เรื่องเสร็จสิ้นภายในกรอบระยะเวลาของการยื่นเรื่องฯ คือ 45 วัน

ต่อมานายฐาปณพงษ์ ได้มีการพูดคุยกับผู้เสียหายและมีการเรียกรับเงินจำนวน 50,000 บาท โดยอ้างว่าจะต้องนำไปให้หัวหน้างานในลำดับถัดไปดำเนินการพิจารณาอนุญาตเรื่องที่ยื่นฯ แต่ทางผู้เสียหายได้ต่อรองเหลือ 20,000 บาท โดยจะนัดหมายเพื่อจ่ายเงินหลังจากที่ได้มีการเซ็นรับใบอนุญาตเรียบร้อยแล้ว สำนักงาน ป.ป.ท. จึงได้ประสานงานและวางแผนร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ปปป. ดำเนินการเข้าจับกุมในครั้งนี้ โดยจับกุมผู้ต้องหาได้จำนวน 2 ราย ได้แก่ นายจักรชัย ตั้งปรัชญากูล ตำแหน่งวิศวกรชำนาญการพิเศษ และนายฐาปณพงษ์ พาสนพัฒน์ ตำแหน่งวิศวกรชำนาญการ สังกัดกองความปลอดภัยธุรกิจน้ำมัน กรมธุรกิจพลังงาน กระทรวงพลังงาน ทั้งนี้ ได้นำตัวส่งสถานีตำรวจนครบาลบางซื่อ เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป