พิษโควิดฉุดตลาดมือถือ ‘โมบายเอ็กซ์โป’ ลุ้นเงินสะพัด 1.5 พันล้าน

พิษโควิดฉุดตลาดมือถือ ‘โมบายเอ็กซ์โป’ ลุ้นเงินสะพัด 1.5 พันล้าน

ปีนี้น่าจะต้องเหนื่อย ปัจจัยบวกไม่มี แต่ปัจจัยลบจำนวนมาก

นายโอภาส เฉิดพันธุ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอ็ม วิชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ภาพรวมตลาดโทรศัพท์มือถือประเทศไทยไตรมาสที่ 4 สถานการณ์ไม่ค่อยดีนัก เนื่องจากได้รับผลกระทบจากวิกฤติโควิด-19 ที่ทำให้สภาวะเศรษฐกิจไม่ดี ผู้บริโภครายได้ลดลง และไตรมาสที่ 3 ไม่ค่อยมีสินค้าใหม่เปิดตัวออกมา

“ปีนี้ผมว่าน่าจะต้องเหนื่อย ท่ามกลางปัจจัยบวกที่ไม่มีแต่ปัจจัยลบจำนวนมาก ทั้งภาวะเศรษฐกิจ สงครามการค้าที่ยังไม่จบ ไม่มีสินค้าใหม่ที่ว้าวมาเป็นแรงจูงใจ ด้านราคาสินค้าที่วางจำหน่ายมีการปรับตัวสูงขึ้นมากกว่าเดิม ด้วยขณะนี้ผู้ค้าไม่เน้นการสร้างแบรนด์ แต่มุ่งพยุงตัวให้อยู่รอด”

อย่างไรก็ดี กำลังซื้อของผู้บริโภคยังคงมีอยู่ ทว่าสินค้าที่ขายดีจะเป็นรุ่นที่ราคาไม่แพงมากเกินไป ขณะเดียวกันการใช้มือถือมีระยะเวลายาวขึ้นเป็น 2 ปีขึ้นใหม่ ไม่เปลี่ยนใหม่หากเครื่องไม่พัง

เขาประเมินว่า เวิร์คฟรอมโฮมเป็นอีกปัจจัยที่ทำให้ผู้บริโภคเริ่มตระหนักว่าสมาร์ทโฟนไม่อาจตอบโจทย์การใช้งานได้เต็มที่ มากสุดแค่ 80% ระยะหลังจึงเห็นได้ว่ายอดขายพีซีอย่างโน้ตบุ๊คและคอมพ์ดีไอวายเติบโตเพิ่มมากขึ้น การปรับตัวของผู้ค้าจึงต้องมองเชิงอีโคซิสเต็มส์โดยรวม มีสินค้าที่ครอบคลุมจะพึ่งพาเพียงสมาร์ทโฟนอย่างเดียวไม่ได้

สำหรับการเปิดตัวของสินค้าแบรนด์จีนมีส่วนทำให้ตลาดคึกคักได้มากขึ้น แต่ต้องยอมรับว่าไม่ถึงกับ “ว้าว”  แต่ที่เห็นว่ามีทิศทางการเติบโตที่ดีคือ บริการซ่อมหน้าจอ เปลี่ยนแบตเตอรี่

อย่างไรก็ดี งานไทยแลนด์ โมบาย เอ็กซ์โป ครั้งสุดท้ายของปี ซึ่งมีกำหนดจัดงานระหว่างวันที่ 1 - 4 ต.ค. 2563 ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา บริษัทคาดการณ์ว่าจะใกล้เคียงกับครั้งที่ผ่านมาที่ประมาณ 1,500 ล้านบาท แต่ต้องยอมรับว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคยังส่งผลกระทบอย่างรุนแรง ผู้บริโภคจึงมีความระมัดระวังอย่างมากในการใช้จ่าย สมาร์ทโฟนรุ่นที่จะขายดีราคาจะอยู่ในหลักหมื่นต้นๆ ไม่ใช่รุ่นไฮเอนด์